จะเดินหน้า หรือจะถอย.... เมื่อครอบครัวแฟนจน
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้คบกะแฟนมาได้ 8 ปีแล้ว ยังไม่ได้แต่งงาน รอแฟนเก็บเงินค่าสินสอด ซึ่งมันก็นานมาก.....
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นค่ะ... เพราะตัวเราเองยังไม่รีบร้อนอยากแต่ง เพียงแต่ถ้าได้แต่งเร็วๆก็จะดีต่อครอบครัว ที่ไม่ต้องมีคนครหาว่า คบนานไม่ยอมแต่งซึ่งคนภายนอกไม่ค่อยจะมีส่วนให้เราเก็บมาคิดหรือมากังวลอะไรด้วยเลย เพราะเราไม่เคยแคร์ปากคนหรือคำคน แต่เราแคร์ความเป็นอยู่หลังแต่งงานมากกว่า...... เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ
ตอนนี้เราสับสนมากๆ เรากลัวการแต่งงานและภาระที่จะเพิ่มขึ้นมาให้เรา ทั้งๆที่ตอนนี้เราอยู่อย่างสุขสบายดี กินอิ่มนอนหลับ(จนรู้สึกว่าตัวจะแตก เพราะอ้วน.555) ครอบครัวแฟนเราจนมากๆ. บ้านต้องเช่าเค้าอยู่ พ่อแม่แฟนเป็นคนขี้เกียจมากๆ เห็นได้จากสภาพความเป็นอยู่เวลาเราไปที่บ้าน บ้านรก ขยะเกลื่อน จะเดินเท้าเปล่ารู้สึกได้ถึงความขยะแขยง สภาพบ้านที่อยู่เป็นบ้านเก่าก็จริง แต่ไม่น่าจะเก่าขนาดนั้น ถ้าหมั่นปัดกวาดเช็ดถู ส่วนห้องน้ำเราเคยเข้าใช้เมื่อครั้งที่ไปเยี่ยมบ้านเข้าไปทำธุระ ส่วนตัว ลื่นเอาก้นกระแทกในห้องน้ำ ปวดเอวตั้งเป็นเดือนๆเพาะไม่เคยทำความสะอาด บอกกับตัวเองในใจว่า ตรูจะไม่เข้าอีกแล้วถ้าไม่จำเป็น ครั้งหน้าถ้าจะต้องไปบ้านต้องรีบไปรีบกลับจะได้ไม่อยู่จนปวดฉี่ ครอบครัวแฟนประกอบด้วย พ่อแม่ แล้วแฟน รวม3 คนเพราะพี่ๆออกเรือนกันหมดแล้ว แฟนเป็นลูกชายคนสุดท้อง ที่ต้องรับภาระจ่ายค่าเช่าบ้านในแต่ละเดือน รวมถึงค่าอาหารการกินค่าน้ำค่าไฟในบ้านด้วย ส่วนตัวพ่อแม่แฟนมีรายได้ต่อวัน 200-300 รายได้ที่ไม่ได้ทุกวัน พื้นเพครอบครัวแฟน พ่อแม่แฟนเป็นคนขี้เกียจตั้งแต่ตอนเป็นหนุ่มๆสาวๆทำงาน เช้าชามเย็นชาม ไม่เคยคิดเก็บเล็กเก็บน้อย ไม่มีแม้แต่เงินเก็บติดกระเป๋าในแต่ละวัน เวลาเราไปเยี่ยมครอบครัวแฟนที่บ้านจะหิ้วของติดไม้ติดมือไปประจำ เจอสภาพที่ว่า พ่อนอนอยู่ด้านนึง แม่นอนอยู่ที่นึง ทั้งที่เป็นเวลากลางวัน รู้ว่าจนแต่ไม่เจียม ไม่คิดสร้างรายได้จากเวลาที่ว่างเปล่า ซึ่งต่างจากครอบครัวเรา ทีพ่อไม่เคยอยู่เฉยเลย ตั้งแต่มีครอบครัว พ่อเรารับภาระเลี้ยงดูพวกเรา3 คนพี่น้องทีแมีต้องจากพวกเราไปตั้งแต่เด็กๆพ่อเลี้ยงดูส่งเสียเรามาทั้ง3คน จนเรียนจบระดับปริญญาตรีทั้ง3คน ในขณะที่มีคนนึงจบด๊อกเตอร์จากเมืองนอก พ่อทำหน้าที่นี้มาคนเดียพ่อยังไหวเลย ไม่ใช่ว่าพ่อขยันหรอกหรือ
เข้าประเด็นเลยละกัน ถ้าเราแต่งงานกันภาระทางครอบครัวแฟนจะตกมาถึงครอบครัวเราแน่นอน เราจะต้องวางตัวหรือจะรับมือยังงัยดี หรือเราควนจะถอย แต่แฟนเรารักเรามาก แต่ก็รักครอบครัวตัวเองมากเหมือนกัน ถ้าจะต้องอยู่ด้วยกันจริงๆ พ่อเราเองที่จะต้องรับภาระอุ้มชูครอบครัวแฟนอีก เราไม่อยากให้พ่อเราโนเอาเปรียบจาก2 ตายายที่ไม่เคยคิดสู้ชีวิตเลย นอนรอขอเงินลูกอย่างเดียว ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้านะคะ
ปล.เรากะแฟนรักกันมาก แค่เราแอบกลัวชีวิตหลังแต่งงานแค่นั้น
จะเดินหน้า. หรือจะถอย เมื่อฐานะทางบ้านแฟนจนมากๆ ไม่อยากเป็นภาระ
เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้คบกะแฟนมาได้ 8 ปีแล้ว ยังไม่ได้แต่งงาน รอแฟนเก็บเงินค่าสินสอด ซึ่งมันก็นานมาก.....
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็นค่ะ... เพราะตัวเราเองยังไม่รีบร้อนอยากแต่ง เพียงแต่ถ้าได้แต่งเร็วๆก็จะดีต่อครอบครัว ที่ไม่ต้องมีคนครหาว่า คบนานไม่ยอมแต่งซึ่งคนภายนอกไม่ค่อยจะมีส่วนให้เราเก็บมาคิดหรือมากังวลอะไรด้วยเลย เพราะเราไม่เคยแคร์ปากคนหรือคำคน แต่เราแคร์ความเป็นอยู่หลังแต่งงานมากกว่า...... เรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ
ตอนนี้เราสับสนมากๆ เรากลัวการแต่งงานและภาระที่จะเพิ่มขึ้นมาให้เรา ทั้งๆที่ตอนนี้เราอยู่อย่างสุขสบายดี กินอิ่มนอนหลับ(จนรู้สึกว่าตัวจะแตก เพราะอ้วน.555) ครอบครัวแฟนเราจนมากๆ. บ้านต้องเช่าเค้าอยู่ พ่อแม่แฟนเป็นคนขี้เกียจมากๆ เห็นได้จากสภาพความเป็นอยู่เวลาเราไปที่บ้าน บ้านรก ขยะเกลื่อน จะเดินเท้าเปล่ารู้สึกได้ถึงความขยะแขยง สภาพบ้านที่อยู่เป็นบ้านเก่าก็จริง แต่ไม่น่าจะเก่าขนาดนั้น ถ้าหมั่นปัดกวาดเช็ดถู ส่วนห้องน้ำเราเคยเข้าใช้เมื่อครั้งที่ไปเยี่ยมบ้านเข้าไปทำธุระ ส่วนตัว ลื่นเอาก้นกระแทกในห้องน้ำ ปวดเอวตั้งเป็นเดือนๆเพาะไม่เคยทำความสะอาด บอกกับตัวเองในใจว่า ตรูจะไม่เข้าอีกแล้วถ้าไม่จำเป็น ครั้งหน้าถ้าจะต้องไปบ้านต้องรีบไปรีบกลับจะได้ไม่อยู่จนปวดฉี่ ครอบครัวแฟนประกอบด้วย พ่อแม่ แล้วแฟน รวม3 คนเพราะพี่ๆออกเรือนกันหมดแล้ว แฟนเป็นลูกชายคนสุดท้อง ที่ต้องรับภาระจ่ายค่าเช่าบ้านในแต่ละเดือน รวมถึงค่าอาหารการกินค่าน้ำค่าไฟในบ้านด้วย ส่วนตัวพ่อแม่แฟนมีรายได้ต่อวัน 200-300 รายได้ที่ไม่ได้ทุกวัน พื้นเพครอบครัวแฟน พ่อแม่แฟนเป็นคนขี้เกียจตั้งแต่ตอนเป็นหนุ่มๆสาวๆทำงาน เช้าชามเย็นชาม ไม่เคยคิดเก็บเล็กเก็บน้อย ไม่มีแม้แต่เงินเก็บติดกระเป๋าในแต่ละวัน เวลาเราไปเยี่ยมครอบครัวแฟนที่บ้านจะหิ้วของติดไม้ติดมือไปประจำ เจอสภาพที่ว่า พ่อนอนอยู่ด้านนึง แม่นอนอยู่ที่นึง ทั้งที่เป็นเวลากลางวัน รู้ว่าจนแต่ไม่เจียม ไม่คิดสร้างรายได้จากเวลาที่ว่างเปล่า ซึ่งต่างจากครอบครัวเรา ทีพ่อไม่เคยอยู่เฉยเลย ตั้งแต่มีครอบครัว พ่อเรารับภาระเลี้ยงดูพวกเรา3 คนพี่น้องทีแมีต้องจากพวกเราไปตั้งแต่เด็กๆพ่อเลี้ยงดูส่งเสียเรามาทั้ง3คน จนเรียนจบระดับปริญญาตรีทั้ง3คน ในขณะที่มีคนนึงจบด๊อกเตอร์จากเมืองนอก พ่อทำหน้าที่นี้มาคนเดียพ่อยังไหวเลย ไม่ใช่ว่าพ่อขยันหรอกหรือ
เข้าประเด็นเลยละกัน ถ้าเราแต่งงานกันภาระทางครอบครัวแฟนจะตกมาถึงครอบครัวเราแน่นอน เราจะต้องวางตัวหรือจะรับมือยังงัยดี หรือเราควนจะถอย แต่แฟนเรารักเรามาก แต่ก็รักครอบครัวตัวเองมากเหมือนกัน ถ้าจะต้องอยู่ด้วยกันจริงๆ พ่อเราเองที่จะต้องรับภาระอุ้มชูครอบครัวแฟนอีก เราไม่อยากให้พ่อเราโนเอาเปรียบจาก2 ตายายที่ไม่เคยคิดสู้ชีวิตเลย นอนรอขอเงินลูกอย่างเดียว ขอบคุณสำหรับคำแนะนำล่วงหน้านะคะ
ปล.เรากะแฟนรักกันมาก แค่เราแอบกลัวชีวิตหลังแต่งงานแค่นั้น