“ต่าย” เพ็ญพักตร์ คือผู้หญิงที่ล้มเหลวในความรักมาโดยตลอด ตรงนี้พี่ต่ายคิดว่าอย่างไรคะ?
เพราะว่า “ข่าว” ไงคะ นั่นคือสิ่งที่คนอื่นมองเข้ามา แต่พี่บอกได้เลยว่าทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตพี่ พี่จะไม่ยึดถืออะไรเลย ไม่ยึดติด อย่างตอนนี้พี่ไม่มีความรัก แต่พี่ก็แฮปปี้มีความสุขมาก แต่ครั้งหนึ่งที่พี่มีความรักพี่ก็แฮปี้มีความสุขมากเหมือนกัน แล้วพี่ก็ไม่เคยยึดติดว่าเฮ้ย! เราคบคนคนนี้ต้องเป็นผัวเมียอยู่กินกันจนแก่ตายอย่างนั้น แต่พี่คิดเสมอว่าความรักเป็นสิ่งที่ดี มันทำให้แต่ละคนมีความสดชื่น แค่จุดนั้นก็พอแล้ว ทำไมเราต้องไปยึดติดด้วย สมมุติว่าเรายึดติดปุ๊บ แล้วพอมันไม่ใช่ก็เจ็บ แล้วคนที่เจ็บที่สุดก็คือเรา ทุกครั้งที่พี่มีแฟนพี่ก็จะบอกเขาว่าเฮ้ย! คุณอย่ามายึดติดนะว่าเราจะต้องเป็นแฟนกันไปตลอด พี่พูดเลย! เราคบกัน เรามีความสุข แต่วันข้างหน้าเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น สมมุติว่าถ้าเกิดวันนี้เราต้องเลิกกัน เราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ แค่นั้นจบ  
พี่ไม่ใช่เป็นคนขี้เหงา พี่ทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอด  แล้วก็ไม่ได้ยึดติดว่ามีแฟนสักคนแล้วเขาจะต้องมาทำอะไรให้เรา เธอต้องดูแลเทคแคร์ฉันทุกอย่างนะ อย่างนั้นไม่มี พี่ทำเองทุกอย่าง เวลามีความรักมันเลยไม่เคยเจ็บ ทุกครั้งที่เลิกพี่เป็นคนบอกเลิกด้วยซ้ำ

จริงๆ แล้วพี่ต่ายเป็นคนระวังตัว ไม่ใช่คนที่ลุ่มหลงอะไรง่ายๆ?
  บางคนอาจจะบอกว่าพี่ระวังตัว ใช่ อาจจะเป็นอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะเราเคยเห็นเพื่อนเจ็บกับหลายๆ อย่างที่เขาตั้งความหวัง พี่ก็เฮ้ย! ทำไมต้องตั้งความหวังขนาดนั้นวะ อาจจะเป็นเพราะอีกมุมหนึ่งพี่เป็นคนที่ดูแลตัวเองได้ทุกอย่าง ก็เลยไม่ต้องหวังอะไรกับใคร และชีวิตของพี่ค่อนข้างบู๊ บอกได้เลยว่าพี่ลุยได้ทุกอย่าง พี่ไม่เคยกลัว เวลาพี่มีความรักพี่เลยไม่เคยเจ็บ เวลารักกันมันดี๊ดีนะ แต่พอสักพักถ้าเรารู้สึกว่าเอ๊ะ! ไม่ใช่ เนื๊อยเหนื่อย เราก็เลิก

แม้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะเสียใจเจ็บปวดเพราะเรา?
ไม่รู้ ไม่สน พี่ไม่สน เพราะว่าบอกแล้วไง ไม่ใช่ว่าพี่ไม่บอก เราบอกเหตุและผล ก่อนจะคบกันพี่บอกว่าพี่เป็นแบบนี้นะ คุณรับได้หรือเปล่า พี่กินเหล้า พี่สูบบุรี่  เพื่อนผู้หญิงมีน้อย มีแต่เพื่อนกระเทย เพื่อนผู้ชายก็เยอะนะ และนิสัยพี่เป็นแบบนี้ รับได้หรือเปล่า รับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ในขณะที่เรารับเขาได้หมดเลยนะ โดยปกติผู้หญิงมักจะแปรสภาพตัวเองได้เร็วกว่าผู้ชาย สังเกตมั้ยเวลาเราคบใครสักคนผู้หญิงเราเนี่ย ถ้ารู้ว่าผู้ชายเขาเป็นแบบนั้นเราก็จะปรับตัวเข้าหาผู้ชายได้ง่ายกว่า ผู้ชายจะไม่ปรับ จนเราปรับตัวถึงจุดที่เรียกว่าอะไรก็ได้ แต่พอมาตรงที่เรากลับไม่ได้เว้ยเฮ้ย! เขากลับเป็นฝ่ายไม่ปรับเข้าหาเรา พี่ก็ว่ามันไม่ใช่แล้วล่ะ มันเป็นการเอาเปรียบซึ่งกันและกันแล้ว มันไม่ยุติธรรม แล้วอยู่ๆ กันไปมันก็จะมีการขัดแย้งกันเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขัดแย้งเรื่องคำพูดหรือปฏิกิริยาอะไรก็ตาม พี่ก็เฮ้ย! งั้นก็ไม่เป็นไร งั้นเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันดีกว่า

ในเรื่องความรักพี่ต่ายดูจะเป็นคนใจร้ายนะคะ   
เหรอ?! ไม่รู้สิ ถามว่าดูใจร้ายมั้ย เพื่อนพี่ก็บอกว่าพี่ใจร้ายจังเลย ดูใจร้ายใจดำ ก็พี่ไม่ชอบให้ตัวเองจะต้องมานั่งทุกข์ทรมานไง อะไรที่มันทำให้เราไม่มีความสุข อยู่ไปทำไม ซื่อสัตย์ต่อตัวเองมั้ย เอาตัวเองเป็นใหญ่หรือเปล่า พี่ก็ไม่รู้ แต่พี่ว่าคนเราต้องไปเกรงใจคนอื่นถึงขนาดทำให้ตัวเองไม่มีความสุข พี่ว่ามันไม่ใช่ วันไหนที่พี่ตัดสินใจที่จะอยู่คนเดียวพี่ก็บอกเลย แล้วคุณจะเป็นจะตายยังไงก็เรื่องของคุณ พี่จะเป็นอย่างนี้ พี่ไม่กลัวความรัก และไม่กลัวที่จะอยู่คนเดียว  

แล้วคิดว่าตัวเองเป็นคนอย่างไรคะ?
พี่เป็นคนชัดเจนในตัวเอง บอกแล้วเลิกแล้ว แต่หลังจากเลิกแล้วคุณจะดำเนินชีวิตของคุณให้ดีขึ้นหรือแย่ลง เราก็ไม่รู้ละ ถือว่าเลิกกันแล้ว ผู้ชายน่ะเจ็บแป๊บเดียว ผู้หญิงเจ็บนานกว่า เพื่อนพี่ที่เห็นโอ้ย! เจ็บจะเป็นจะตาย พี่ก็บอกว่าแล้วจะเป็นจะตายอะไรนักหนาวะ คนเรามันต้องดำรงชีวิตต่อไป ต้องดูแลตัวเอง พี่จะบอกทุกคนเลยว่าถ้าเลิกกับแฟน เราต้องทำตัวเองให้สวยอย่าทำตัวโทรม อยากร้องไห้ก็ร้องไป สามวันให้จบหลังจากนั้นจะต้องสวย จะให้คนอื่นคนที่เลิกกับเรา หรือเพื่อนเรามาเห็นว่าเราโทรมไม่ได้ ในเมื่อเราตัดสินใจเลิกแล้วเราต้องดูแลตัวเองให้ได้ พี่จะบอกเสมอว่าเราต้องรักตัวเราเอง มันไม่มีใครรักเราเท่าตัวเราหรอก

พี่ต่ายรักใครสักคน ตอบได้ไหมคะว่ารักคนคนนั้นเพราะอะไร?
ไม่ได้ รู้แค่ว่าพอใจที่จะอยู่ด้วย พอใจที่จะรักแค่นั้น บางคนอาจจะตั้งสเปกตั้งความหวังว่าหูย! ผู้ชายคนนั้นต้องเป็นแบบนั้นต้องทำงานแบบนี้ แต่พี่ไม่มี พี่ถือว่าตัวตนของคนคนนั้นเขาเป็นยังไง เหมือนกับผู้ชายถ้าเขาจะคบพี่ก็ต้องคบที่ตัวตนของพี่ อย่ามาคบด้วยภาพลักษณ์ที่พี่ทำงาน เพราะภาพลักษณ์ก็คือภาพลักษณ์ พี่เป็นคนแบบนี้ ตรงๆ ง่ายๆ  

“ต่าย” เพ็ญพักตร์ คือผู้หญิงในฝันสุดเย้ายวนของผู้ชาย คิดยังไงกับตรงนี้คะ?
ต้องมาเจอตัวจริง แล้วจะโหย! ไม่ใช่อย่างที่กูคิดเลย (หัวเราะ)  ถ้ามองจากภาพงานที่พี่ถ่ายมันก็เป็นดาร์คไซด์ในผู้ชายอย่างหนึ่งเหมือนกัน เขาอาจจะมีการจิตนาการบรรเจิดเพลิดเพลินไป จนบางครั้งอาจจะพาไปสู่ความลุ่มหลงมันได้ แต่ด้วยความที่เราเป็นนางแบบ เราทำตามโจทย์ เซ็กซ์เอ๊กซ์สุดๆ แต่ถามว่าหนังสือวางแผงไปแล้ว คนดูจะคิดอะไร ยังไง บรรเจิดแค่ไหน นั่นก็เป็นสิทธิส่วนตัวของเขาแล้วล่ะ แต่ตัวจริงของพี่เองอาจจะไม่ใช่อย่างที่เขาเห็นก็ได้นะ

เคยมีผู้ชายคนไหนบอกว่าผิดหวังในตัวเราไหมคะ?
อันนี้ไม่รู้ เพราะไม่เห็นเขาบอกพี่เลยนะ (หัวเราะ) พี่บอกเลยว่าผู้ชายที่เข้ามาคบพี่ ตอนแรกอาจจะเป็นเพราะความเซ็กซี่มาก่อน แต่คบกันไปเขาก็จะเริ่มเห็นแล้วว่าจริงๆ พี่ไม่ใช่คนอย่างนั้น ในตัวพี่ยังมีอะไรมากกว่านั้น ไม่ได้เซ็กซี่ ตรงไปตรงมา บางทีแมนยิ่งกว่าเขาด้วยซ้ำ มันก็เลยมีความรู้สึกว่าไอ้ที่เขามองว่าเราเซ็กซี่อยู่ตลอดเวลามันไม่มี อาจจะมองว่าเฮ้ย! จริงๆ แล้วต่ายเป็นคนที่ชัดเจนและตรงมาก เชื่อไหมว่าผู้ชายร้อยทั้งร้อยถ้าเจอผู้หญิงที่ชัดเจนจริงๆ เขาจะชอบ มันก็อาจจะมีผู้ชายอยู่กลุ่มหนึ่งที่ชอบผู้หญิงเอ๊าะๆ แอ๊ะๆ อันนั้นมันหมายความว่าวัยของเขายังชอบแบบนั้นอยู่ แต่ถ้าขึ้นมาอีกวัยหนึ่งเขาก็จะไม่ชอบแล้วไอ้เอ๊าะๆ แอ๊ะๆ เขาจะรู้สึกว่าน่ารำคาญ

ในสายตา “ต่าย” เพ็ญพักตร์ ผู้ชายคืออะไรและ เป็นอะไรสำหรับเรา?
เป็นคนอีกประเภทหนึ่งที่ต้องมีในโลกมนุษย์ เป็นเพื่อนร่วมโลก เป็นเพื่อนที่เราอยากนอนด้วย เป็นเพื่อนกินเหล้าเป็นเพื่อนเฮฮา ในโลกนี้มันต้องมีเพศหญิงและเพศชายมันต้องคู่กัน สำหรับพี่มันไม่ได้มีความหมายมากไปกว่านี้

ความรักของเพ็ญพักตร์คืออะไร
คือความซื่อสัตย์ ถ้ามีเราคุณต้องให้เกียรติซื่อสัตย์กับเรา เพราะเราเป็นแฟนคุณ แต่ถ้าคุณไปกับเพื่อนก็ตามประสาผู้ชายเลย แต่อย่าให้เรารู้นะ พี่ค่อนข้างชัดเจนเรื่องนี้  

คนทั่วไปอาจจะมองว่าเพ็ญพักตร์เจ้าชู้ไม่เคยพอ
ไม่แคร์ พี่ไม่เคยแคร์ แล้วแต่คนจะมอง พี่เลือกเองนะ ความรักของเราจะให้คนอื่นเลือกทำไม สมมุติให้คนอื่นเลือกอาจจะไม่มีความสุข ขนาดเราเลือกเองเรายังไม่มีความสุขเลย แล้วจะให้ใครมาเลือกแทนทำไม พี่เป็นคนชัดเจน พี่ไม่ปิดพี่จะไปนั่งแก้ตัวตอนไหน ในเมื่อเราพูดกันไปแล้ว มีแฟนก็คือมีแฟน

มีคนอายุน้อยกว่ามาจีบบ้างไหม?
มี น้อยสุด 22 มากสุด 30 ปลายๆ ส่วนมากพี่มีแฟนอายุน้อยกว่าอาจเป็นเพราะว่าพี่ชอบเด็กพี่ ไม่ชอบคนแก่ คือถ้าคบแก่กว่า เราต้องทำตัวแก่ตามเขา พี่ชอบแต่งตัว ถ้ามีแฟนแก่ก็ต้องมานั่งแต่งตัวแก่ๆ มันก็ไม่ใช่พี่ ก็เลยไม่ค่อยมีผู้ชายแก่มาจีบพี่ มันก็เป็นแค่ช่วงๆ พอเป็นเด็กมาจีบ เขาก็จะมองว่าลูกมาจีบเรา (หัวเราะ) เราก็เข้าใจ แต่ส่วนมากคนที่มาจีบพี่จะเป็นคนมีความคิด เป็นผู้ใหญ่มากกว่า คืออย่าเพิ่งไปสรุปว่าเขาอายุน้อยกว่าเราแล้วความคิดของเขาต้องเด็กกว่าเรา คบกับเด็กกว่าสนุกดี เขาก็มีความสดใสในตัวบางอย่างที่บางคนแก่ๆ ไม่มี แล้วยังไงเราก็ต้องคุยกันก่อนที่จะคบกับเขาอยู่ดี  

ขอพูดถึง Sex ถ้าเป็น Sex กับคนที่ไม่ใช่แฟนเรา
ก็ไม่สิ ไม่เอาสิ พี่ไม่มั่วนะ พี่ไม่ใช่คนมั่ว ถึงพี่จะเปรี้ยวทันสมัยแต่เรื่องกาลเทศะเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องธรรมชาติของคนเราที่ต้องมี แต่มันต้องอยู่ที่คู่ที่เราด้วย โดยส่วนตัวเรื่องเซ็กซ์พี่เป็นคนเฉยๆ วันหนึ่งถ้าเราต้องเจอคนสักคนหนึ่งที่เราเป็นแฟนกัน ต้องศึกษาอะไรกันก่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าเรื่องวิธีการคุย เรื่องวิธีการใช้ชีวิต ชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน ก่อนคบกันเราคุยกันก่อน ไม่ใช่ว่าเจอปุ๊ปโชะปั๊ป พี่ไม่ใช่คนแบบนั้นไง เราคบกันต้องเป็นเพื่อนกันไปก่อน

ตอนนี้พี่ต่ายมีความรักไหม?
ไม่มีเลย ไม่มีเพราะว่าเบื่อ อาจจะด้วยวัย เราเจอมาเยอะ พออยู่คนเดียวปุ๊ป อยากเน่าอยากนอน นี่แหละชีวิต ชีวิตที่เราอยากได้ ไปไหนก็ไปได้หมด ถามว่ามีคนเข้ามาบ้างไหม ก็มี แต่ไม่อยากมี อยากเน่าอยากนอนอยู่บ้าน ทำนู้นทำนี่มีความสุข นี่แหละชีวิตที่เราต้องการ ณ ตอนนี้ เรามีความสุขแล้ว

เหมือนพี่ต่ายเป็นคนที่ไม่มีความทุกข์เลยใช่ไหมคะ?
ใช่ พี่ไม่มีทุกข์ มีอะไรพี่ปล่อยหมด พี่บอกแล้วไงว่าถ้าทุกข์ปุ๊บเราจะไม่สดใส แล้วเราจะเก็บความทุกข์ไว้ทำไม เลิกเลย! ทิ้งไป!

พี่ต่ายบอกว่าเป็นคนไม่มีด้านมืดในตัวเอง?
ใช่นะ เพราะพี่เป็นคนชัดเจน และไม่เก็บอะไรไว้ในใจ เจออะไรก็ปล่อยไปตลอด  

แต่ทุกคนย่อมมีด้านมืดในตัวเองกันทุกคนนะคะ?
ทุกคนมนุษย์ต้องมีอยู่แล้วเพียงแต่ว่าพี่จะบอกว่าพี่เป็นคนปล่อยวางสิ่งไหนที่ทำให้เราไม่มีความสุขก็ปล่อยมันไป พี่เป็นคนที่ปล่อยหมด

พี่ต่ายมีความคิดแบบนี้นานหรือยัง?
   มันบอกไม่ได้ ไม่รู้สิ ด้วยความที่เราอยู่ตรงนี้มานานมากเราก็เจออะไรมาเยอะ แต่ละปีแต่ละช่วงอายุที่เราผ่านมามันก็จะเหมือนการสอนให้เราปรับการมอง ปรับวิธีความคิดเรื่อยๆ คือมันปรับมาเรื่อยๆ จนเรามาตกผลึกตรงนี้แล้ว พี่ก็เลยมีความสุขทุกครั้ง มันปรับวิธีความคิดอยู่ตลอด มันก็เลยมีความสุข ขอแค่ผู้จัดมองเห็นเราจ้างเรามองว่าเราเหมาะสมกับบทนี้ วันนี้ได้ทำงานก็มีความสุขแล้วเราปรับความคิดมาเป็นแบบนี้พี่ก็เลยมีความสุข  

สรุปความคิดและชีวิตของ “ต่าย” เพ็ญพักตร์
พี่ว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาสะสมประสบการณ์ชีวิต เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง มองแต่ความทุกข์ คนทุกข์จะมีความสุขไหม อย่าไปมองโลกให้มีแต่ดำกับขาว เพราะมันไม่ได้มีแต่สีขาวกับสีดำ แต่พี่มองว่ามีสีเทา สำหรับพี่ดำ เทา ขาวมันปนกัน  พี่จะบอกเพื่อนว่าอย่ามองแต่สีดำและสีขาว ให้มีสีอื่นเข้ามาบ้าง แล้วมันจะมองเห็นทางออก ถามว่าทุกคนมีความทุกข์กันหมดเพียงแต่ปัญหานั้นๆ จะแก้ไขแบบไหนมันมีหลายวิธีมาก ถ้าแก้ไขไม่ได้ เอามันวางไว้ก่อน ทำงานก่อน เดี๋ยวสมองไม่ลื่นปุ๊ป เราก็หาทางออกได้ได้เองว่าปัญหานี้จะแก้ไขยังไง
บางเรื่องเราคิดจุดเนี่ยจุดเดียว หรือเข้าข้างตัวเองมากเกินไปจนเราไม่เห็นจุดบกพร่องของตัวเอง พี่เคยผ่านมาแล้ว บางครั้งเราผิดนะ แต่เรามองข้ามตัวเองไป พอกลับมาบ้าน ถ้าในสมองเราลื่นปุ๊ป เดี๋ยวเราจะมองเห็นปัญหา จนเรามองเห็นทุกคนมีทั้งผิดทั้งถูก สิ่งแรกของสมองเราจะบอกว่าเราไม่ผิดก่อน แต่ ณ ตอนนั้นเราไม่คิด แต่หลังจากกลับบ้านไป เราจะคิดว่าเราผิดนะ แต่ไม่มีใครกล้ายอมรับว่าตัวเองผิด เราเป็นมนุษย์ เราถือศีลแปดศีลห้า เราเป็นมนุษย์เราไม่ใช่ผู้วิเศษ มันต้องมีผิดและถูก แต่เราต้องมีสติ แล้วเราจะเจอทางออกเอง

บทสัมภาษณ์จาก http://www.crowsmagazine.com/articles_view.php?id=97