"We Are Not in Wonderland Anymore" [The Evil Within - fan fiction]

กระทู้สนทนา
บอกกล่าว บางท่านอาจจะสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้น ถึงทำอะไรแปลก ๆ ขึ้นมา (ฮา)

คำว่า Fan Fiction อธิบายง่าย ๆ ก็คือ เรื่องแต่งที่เขียนขึ้นโดยอิงจากนิยาย การ์ตูน หรือเกมที่มีอยู่แล้ว โดยอาศัยตัวละครและเค้าโครงเรื่องเดิม แล้วแต่งเรื่องเสริมเข้าไป ส่วนใหญ่แล้วเกิดขึ้นจากความชอบของคนดูที่มีต่อคนเขียน ตัวละคร หรือเรื่องเรื่องนั้นค่ะ ที่จริงแล้ว การเขียนแฟนฟิกชั่นก็เป็นแบบฝึกหัดที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับคนที่เริ่มเขียน หรือกำลังเขียนอยู่ เพราะการที่จะเขียนได้ต้องรู้จักและศึกษาตัวละครและสาระสำคัญของเรื่องต้นแบบมาพอสมควร จนกระทั่งนำมาเขียนแบบเก็บความในภาษาและเรื่องราวของตัวเองได้เหมือนกัน

สำหรับที่มาที่ไปอื่น ๆ ของเรื่องนี้ ขอเก็บเอาไว้คุยกันตอนท้ายเรื่องนะคะ (ส่วน Dark Tales of London ก็ไม่ได้ดองนะคะ ขอเช็คความถูกต้องของข้อมูลอีกนิด แล้วจะเอามาลงวันศุกร์หน้าค่ะ ^^)

---------------------------------------------------------------------------------------

WE ARE NOT IN WONDERLAND ANYMORE


“Beware the Jabberwock, my son!
The jaws that bite, the claws that catch!
Beware the Jubjub bird, and shun
The frumious Bandersnatch!”



สิ้นเสียงอ่านบทกวีจากเรื่อง ‘Through the Looking Glass’ ของ Lewis Caroll (1) ของชายหนุ่ม แม่หนูก็โผเข้าหาคนที่ตนเองนั่งอยู่บนตัก โอบแขนรอบคอ แล้วฝังหน้าลงกับไหล่ของเขา ในขณะที่ผู้เป็นพ่อวางหนังสือลง แล้วกอดคนในอ้อมแขนแน่น หอมแก้มและจูบบนเรือนผมอย่างปลอบโยน ในขณะเดียวกันก็อดยิ้มขันด้วยความเอ็นดูไม่ได้


เธอชอบฟังเขาเล่านิทาน เมื่อกลับมาถึงบ้าน เธอจะรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับหนังสือนิทานเล่มโปรด โดยเฉพาะเรื่องอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ที่เธอขอให้เขาอ่านให้ฟังซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่เคยเบื่อ แม้ว่าจะจำได้ทั้งหมด ชนิดที่เขาแอบอ่านข้าม เธอก็รู้และทวงให้เขากลับไปอ่านส่วนที่ข้ามไป แต่เธอก็ยังยืนยันจะให้เขาอ่านให้ฟังซ้ำอีกอยู่ดี


เขาไม่แน่ใจว่า เธอติดเขา หรือเขาติดเธอกันแน่… แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับที่เขารักลูกสาวตัวน้อยคนนี้ที่สุด ชนิดที่แม่ของลูก ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งแม่และพ่อในเวลาที่เขาต้องออกไปทำงานบ่นว่า เขาตามใจลูกสาวมากเกินไป ถึงอย่างนั้น เขาก็อยากชดเชยเวลาให้กับลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหน้าที่การงานทำให้เขาไม่มีเวลาให้ครอบครัวมากนัก


ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่ฉลาด เอาการเอางาน เข้มแข็ง เขายินยอมให้เธอเป็นผู้ดูแลทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้าน เพราะเขารู้ว่าเธอเป็นคนเก่งและพอใจที่ได้ทำหน้าที่เช่นนั้น และเห็นทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของเธอ


ชายหนุ่มกอดเด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีฟ้าผูกผ้ากันเปื้อนสีขาวและโบว์ผูกผมอันใหญ่เหมือนอลิซในการ์ตูนดิสนีย์พร้อมโยกตัวไปมา และหอมแก้มสีชมพูอ่อนนุ่มนั้นอย่างรักใคร่อีกหนหนึ่ง


“ไม่ต้องกลัวนะคะ สาวน้อย” เขากระซิบ “หนูรู้อยู่แล้วนี่นาว่า ในตอนจบสัตว์ประหลาดอย่างแจ็บเบอร์ว็อคกี้ (2) เป็นฝ่ายแพ้”


ภาพของเพื่อนร่วมงานกับลูกสาวตรงหน้าทำให้เซบาสเตียน คาสเตลลานอสรู้สึกว่าดวงตาของเขาร้อนผ่าว และเหมือนมีบางอย่างเสียดแน่นอยู่ในอก มันไม่ใช่ความอิจฉาในครอบครัวสมบูรณ์พร้อมอย่างโจเซฟ เขายินดีที่ได้เห็นเพื่อนคู่หูมีช่วงชีวิตที่มีความสุขกับคนที่ตนเองรัก หากในขณะเดียวกัน สิ่งนั้นก็ทำให้เขาเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก


ถ้าลิลลี่ไม่ได้เสียชีวิตใน ‘อุบัติเหตุ’ เพลิงไหม้ครั้งนั้น และไมร่าไม่ได้จากเขาไปอย่างไร้ร่องรอยหลังโศกนาฎกรรมที่ทำให้ใจของคนเป็นพ่อแม่สลายจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน เขาคงได้เห็นไมร่าช่วยลิลลี่แต่งชุดแฟนซีสำหรับวันฮัลโลวีน ก่อนที่เขาจะพาเธอออกไปเล่น ‘ทริกออร์ทรีต’ แวะเวียนไปตามบ้านหลังต่าง ๆ ในย่านที่อาศัย เคาะประตูเพื่อขอขนม ดูตุ๊กตาเป่าลม ไฟกะพริบ โคมฟักทองแกะสลัก และหน้าต่างที่ตกแต่งให้เข้าบรรยากาศกับเทศกาลเช่นเดียวกับที่โจเซฟกำลังทำอยู่ในขณะนี้


หากโจเซฟไม่ดึงดันที่จะชวนเขามารับประทานอาหารเย็นที่บ้าน และชวนเขาไปดูแลความปลอดภัยให้ลูกสาวและเด็ก ๆ ที่ออกเที่ยวเล่นในคืนฮัลโลวีนด้วยกัน เขาก็คงใช้เวลาพักผ่อนที่มีขังตัวเองอยู่ในห้องมืด ๆ กับเอกสารที่ไมร่าทิ้งเอาไว้ให้ก่อนหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ ปล่อยตัวเองให้จมจ่อมอยู่กับความปริศนาที่หาทางออกไม่ได้ และสุดท้ายก็ปล่อยตัวเองให้ดำดิ่งลงในก้นขวดเหล้า ก่อนที่สมองอันสับสนจะทำให้เขาเป็นบ้าไปเสียก่อน


“เซ็บ”


เสียงเรียกของคู่หูปลุกเขาขึ้นจากภวังค์ และเห็นอีกฝ่ายมองมายังเขาด้วยสายตาแสดงความเป็นห่วง


“ไปกันเถอะ” เขาชิงเอ่ยขึ้นก่อนที่ผู้อ่อนวัยกว่าจะทันกล่าวอะไรออกมา ย่อตัวลงตรงหน้าสาวน้อยที่หน้าตาและผิวพรรณถอดแบบจากผู้เป็นพ่อออกมาแทบจะเป็นพิมพ์เดียว “อลิซของลุง พร้อมจะออกไปเที่ยวแดนมหัศจรรย์แล้วหรือยัง”


“พร้อมแล้วค่ะ” สาวน้อยตอบด้วยเสียงแจ่มใส หันไปโบกมือลาแม่ที่เดินออกมาส่ง เดินกลับมาหาเขาและยอมให้เขาจูงมือออกไปรอข้างนอกอย่างว่าง่าย ในขณะที่โจเซฟสนทนากับภรรยาที่กำชับเขาในเรื่องต่าง ๆ ก่อนที่จะตามออกมาสมทบข้างนอก



...........................................................................


“ไม่ดื่ม คุณก็อยู่ได้นี่”


เสียงเรียบ ๆ ของโจเซฟที่เอ่ยขึ้นขณะเดินตามกลุ่มเด็ก ๆ ที่แต่งตัวเป็นแม่มด ซูเปอร์ฮีโร่ ปีศาจตัวจิ๋วรวมตัวกันไปเคาะประตูบ้านที่มีแสงไฟและตกแต่งรับเทศกาลฮัลโลวีนเพื่อขอขนม โดยมีเพื่อนบ้านผู้หญิงซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายอีกคนหนึ่งอาสาดูแลด้วยอีกทางหนึ่ง


คำพูดนั้นทำให้เซบาสเตียนหันหลังกลับมายังคนที่เดินคล้อยหลังตนเองไปเล็กน้อย สิ่งที่นักสืบคู่หูของเขากล่าวถูกต้องทุกอย่างจนเถียงไม่ได้ อย่างที่โจเซฟบอก เขาไม่ได้ดื่มจริง ๆ และไม่ได้ดื่มมาทั้งวัน เนื่องจากต้องขับรถมารับประทานอาหารเย็นที่บ้านของอีกฝ่าย อีกทั้งไม่อยากเสียมารยาท และไม่อยากให้ลูกสาวของเพื่อนเห็นเขาในสภาพเช่นนั้น


“เป็นแผนของนายที่จะทำให้ฉันหยุดดื่มใช่ไหม” เขาถามลอดไรฟัน “เวรเอ๊ย”


เขาควรจะรู้มาตั้งแต่แรกแล้วว่า โจเซฟจงใจเชิญเขามาที่บ้านและชวนออกมาข้างนอกเพื่อให้เขาหยุดดื่มบ้าง และควรจะรู้ว่าลูกน้องของเขาคนนี้ฉลาดขนาดไหน เพราะเขาเคยเห็นความสามารถในการวิเคราะห์คดีของคู่หูมาแล้ว และในบางครั้ง เขาก็อยากเอาเอกสารที่ได้รับจากไมร่าให้อีกฝ่ายได้ดู เพื่อที่จะออกความเห็นและช่วยเขาคิดได้ แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่ได้ทำ เพราะเขาไม่อาจดึงใครให้เข้ามาพัวพันกับสิ่งที่ทำให้ครอบครัวของเขาพังพินาศได้อีก โดยเฉพาะโจเซฟที่กำลังมีชีวิตครอบครัวที่เพียบพร้อมและลูกสาวที่น่ารัก


ถึงจะเกิดและโตในแคนาดา แต่โจเซฟ โอดะก็ยังทิ้งนิสัยอย่างคนญี่ปุ่นไม่พ้น คือ สงบปากสงบคำ นอบน้อม มีระเบียบ ให้อภัยคนอื่นง่ายเกินไป แต่ไม่ค่อยยอมให้อภัยตัวเองในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจริงจังกับทุกอย่างไปหมดจนเขานึกขำปนรำคาญ กระทั่งทำงานด้วยกันนานวันเข้า เขาจึงเข้าใจและตระหนักดีว่า เพื่อนคู่หูของเขาเป็นคนดี เป็นพ่อที่ดี เป็นสามีที่ดี เป็นเพื่อนที่ดี และเป็นตำรวจที่ดี  


เมื่อเขาออกปากอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้ เซบาสเตียนรู้ทันทีว่า โจเซฟพูดออกมาจากใจจริง และจริงจังกับสิ่งที่กำลังพูด จุดประสงค์ที่ชวนเขาออกมาเดินข้างนอกอย่างนี้ ก็เพื่อพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นตามลำพัง โดยที่เขาปฏิเสธไม่ได้



“ผมแค่อยากให้คุณหยุดดื่ม เพราะตอนนี้ คุณกำลังถูกเบื้องบนเพ่งเล็งอยู่ รู้ตัวหรือเปล่า”


ถึงจะบรรยายความรู้สึกของตัวเองไม่เก่ง แต่เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานแล้ว ลูกน้องของเขาตรงประเด็นเสมอ และนั่นคือสิ่งที่เขาชอบ แต่สิ่งที่เขาเคยชอบกลายเป็นทรายในรองเท้าของเขาในบางเวลา ระคายใจแต่หนีความจริงนั้นไปไม่ได้


“ฉันดื่ม แต่ฉันยังทำงานได้” เขาแย้ง “นายไม่ต้องห่วงหรอกว่า ฉันจะทำให้เสียงานเหมือนเมื่อก่อนอีก”


“เซ็บ…” โจเซฟถอนใจยาว หันไปโบกมือให้ลูกสาวที่กลับออกมาจากบ้านหลังหนึ่งพร้อมกับเพื่อน ๆ และมุ่งหน้าสู่บ้านหลังต่อไป แล้วหันกลับมาหาเขา “ผมรู้ แต่คนอื่นเขาไม่รู้จักคุณเหมือนผม คุณพยายามจะทำตัวเข้มแข็ง แต่แบบนี้ มันไม่ใช่วิธีการที่จะทำให้คุณยืนหยัดต่อไปในฐานะตำรวจได้เต็มสองเท้า เพราะคนอื่นมองว่า นี่คือจุดอ่อนของคุณ และหาทางเอาคุณออกไปจากที่ที่คุณกำลังยืนอยู่”


“ถ้านายลำบากใจ หรือมองว่าฉันเป็นตัวถ่วงหรือภาระก็รายงานเรื่องที่ฉันดื่มเหล้าระหว่างปฏิบัติงานไปตามความจริงได้เลย นายไม่จำเป็นต้องช่วยฉันแก้ตัว ฉันเข้าใจ และจะไม่โกรธนายด้วย ส่วนไอ้พวกเวรนั่นจะทำยังไงกับฉันก็ตามใจมัน ฉันรู้ตัวว่าฉันกำลังทำอะไร แล้วถ้ามันทำให้นายเดือดร้อน นายก็ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าฉันจะเป็นยังไง ทำตามที่นายเห็นสมควรเถอะ”


เพื่อนร่วมงานของเขาส่ายหน้า “ผมไม่เคยลำบากใจหรือมองว่าคุณเป็นภาระในการปฏิบัติหน้าที่ของผมเลยนะ แต่ผมไม่อยากให้คุณทำร้ายตัวเอง แล้วผมก็ทนเห็นคู่หูของตัวเองถูกคนอื่นเหยียบซ้ำอีกไม่ได้”


คำกล่าวนั้นทำให้เขาพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองหน้าของคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ ในขณะที่อีกฝ่ายมองตอบกลับมาด้วยสายตาที่มีความหมายเช่นเดียวกับคำที่พูด


นับแต่วันที่ลิลลี่ตายและไมร่าหนีหายไป คนที่ดึงเขาซึ่งกำลังเสียศูนย์ ฉุดเขาที่จวนล้มซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้ลุกขึ้นมายืนได้ ประคับประคองเขาไม่ให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายไปกว่าเดิม คอยแวะเวียนมาดูความเป็นอยู่ เรียกสติของเขาให้กลับมาอยู่กับงาน คอยแก้ต่างและรับรองเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ให้ทุกครั้งโดยไม่เคยปริปากบ่น คือ โจเซฟ เพียงคนเดียว


_____________________________________________

หมายเหตุ

(1) Lewis Carroll เป็นนามปากกาของ Charles Lutwidge Dodgson (1832-1898) ผู้เขียนเรื่อง Alice's Adventures in Wonderland และ Through the Looking Glass ซึ่งเป็นภาคต่อของอลิซในดินแดนมหัศจรรย์

(2) The Jabberwock หรือ Jabberwocky เป็นสัตว์ประหลาดที่ปรากฎอยู่ในเรื่อง Through the Looking Glass


(มีต่อนะคะ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่