เราตกลงกันไว้ว่าจะไม่เที่ยวกลางคืนโดยไม่มีกันเเละกันเด็ดขาด
เเล้วเราทั้งคู่ ไม่เคยเที่ยวกลางคืนเลย คือคบกันตั้งเเต่มัธยมปลายค่ะ
เเล้วมีช่วงหนึ่งที่เเฟนเราเค้าต้องไปสอบที่ต่างจังหวัด
เค้ามาขออนุญาตเราเข้าผับกับรุ่นพี่ เค้าอ้างว่ารุ่นพี่อุส่าชวนนั่นนี่
เเต่เราก็ไม่ยอมให้ไป โดยการโทรเเบบไม่วางสาย ( มีโปรโมชั่นนะคะ)

เเล้วเเฟนเราก็บอกว่า ไม่ไปละก็ได้ ขอไปกินข้าวเเปปนะ
เราก็ถือสายเปิดลำโพงฟังตลอดค่ะ เอะใจนิดนึงตรงที่ร้านอาหารที่เค้าบอกว่าไปกิน
มันมีเสียงเพลงดังมากเเบบดังเกินจะเป็นร้านอาหารได้ เพลงเเนวตื๊ดๆอะค่ะ
พอเราถามเเฟน  เเฟนเราบอกว่า มันอยู่ติดกับผับเลยเสียงดัง  เเต่เสียงโหวกเหวกจริงๆ
เเฟนเราเลยบอกว่ากินไม่ถนัดอะ เเค่นี้ก่อนนะ เเล้ววางสายไป

เราก็วางใจค่ะ คิดว่าเเฟนคงกินข้าวก็ปล่อยให้กินไป เเล้วจากนั้นซักชม.นึง เราโทรไปอีก
เเต่เเฟนเราไม่รับสายค่ะ โทรไปหลายสายมากจนเวลาผ่านไปสอง-สาม ชม.    จนเค้ารับ เสียงก็เงียบ คือเค้ากลับถึงที่พักเเล้ว
เค้าก็คุยปกติ ไปกินข้าวมาเเล้วนะ  ไม่ได้เที่ยวกับรุ่นพี่เลย เซ็งจัง
เหตุการณ์ก็ปกติค่ะ เราเชื่อใจเเฟนเรา  

เเต่พอเวลาผ่านไปหลายเดือน เราสนิทกับเพื่อนของเเฟนอยู่คนนึง เค้าหลุดปากพูดถึงเรื่องเเฟนเราไปผับ
เราเลยซักไซร้ต่อ ว่าผับอะไร  นี่เเฟนเราเข้าผับตอนไหน บอกมานะ!!

เพื่อนเเฟนก็ยอมบอกว่า วันนั้นที่เเฟนเราบอกว่าอยุ่ร้านข้าว ณ เวลานั้นคืออยู่ที่ผับเเล้ว เเต่โกหกเรา
เเล้วก็มีสาวๆมานั่งข้างๆ เลยบอกเราว่า กินข้าวไม่ถนัด เเฟนเพื่อนบอกว่า เเฟนเราไซ้คอสาวๆนั่งดริ๊งค์พวกนั้นด้วย
บางคนมานั่งขย่มเป้าเเฟนเรา   เท่านั้นเเหละคุณเอ๊ย ใจที่สั่นผับๆๆๆๆๆๆ!!!   ใจกระวนกระวายมาก

เราเลยรีบโทรไปเคลียร์กับเเฟนเราให้เเฟนยอมรับเอง  เเต่เเฟนปากเเข็งค่ะ เราเลยยบอกว่า มีคนบอกมา! ให้โอกาสสารภาพอีกที
เเฟนเราก็เลยยอมรับค่ะ โดยบอกว่า ไม่เคยไปเเค่อยากหาประสบการณ์เเค่นั้น เราเลยถามเรื่องไซ้คอสาวๆเเล้วก็สาวนั่งขย่มเป้า
ก็ปากเเข็งอีกจ้าบอกมีเเต่สาวเพื่อน เเต่พอซักๆๆๆไปเรื่อย เเฟนเรายอมรับค่ะ

เราเลยรู้สึกว่าคนรักกันไม่น่าโกหกกันได้  เหมือนตอนที่เรานั่งเป็นห่วง เเต่เค้ากลับมีความสุขกับสาวๆพวกนั้น
บนความไว้ใจของเรา ...