สวัสดีครับ
ทีวีนี่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐาน เป็นหลัก ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากชนิดถ้าไม่มากที่สุดก็น่าจะ 1 ใน 3 อาจจะเป็นรองแค่ตู้เย็น ดังนั้นการจะซื้อมาสักเครื่องนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมากนะครับ และควรหาความรู้เยอะๆ ก่อนจะซื้อสักเครื่อง
อย่างแรกที่คุณควรจะคิดไว้ก่อนเลย คือ "งบ" ตามธรรมชาติเลยครับ ราคาสูง รุ่นใหม่ คุณภาพมันย่อมดีกว่าเก่า
แต่แน่นอน ถ้าราคามันไม่ต่างกันมาก จะเอาอะไรต่อดี?
อย่างต่อมา "Resolution" หรือความละเอียดจอภาพ สมัยนี้ต้อง "Full HD" (1920 x 1080) เป็นมาตรฐานแล้วนะครับ (จะมี "HD Ready" ซึ่งความละเอียดต่ำกว่า (1280 x 720) สังเกตให้ดีนะครับเวลาซื้อ) เป็นความละเอียดสูงสุด ที่จะมากกว่านี้ก็เป็น 4K ซึ่งไม่ต้องห่วงเลย เพราะบ้านเราไม่มี content หรือผลงานที่ความคมชัดระดับนี้ให้ดู ซื้อมาก็แทบจะเปลืองเงินปล่าว และความละเอียดขนาดนั้น จะแสดงพลานุภาพได้ก็ต่อเมื่อมันมาพร้อมขนาดหน้าจอที่ใหญ่มากๆ
อีกเทคโนโลยีคือ 3D แล้วแต่ความชอบเลย ถ้าหา content มาดูได้และชอบมาก ก็จัดได้เลย แต่ถ้าคนใช้ทั่วไป ผมแนะนำว่าอย่าไปสน
ถ้าท่านเป็นคนที่ไม่ได้อะไรมากกับสเปคทีวี ใช้เพื่อดูอะไรเรื่อยเปื่อย หลักๆ ก็เท่านี้ก่อนเลยครับ งบ, ขนาดหน้าจอ, และ ความละเอียด หรือ Resolution
ในฐานะผู้ใช้ทั่วไป ดูที่มี port หรือช่องเสียบหลายๆ ช่องก็ดีครับ มาตรฐานก็คือ USB และ HDMI ถ้าสักอย่างนะ 2-3 นี่ดีเลย คุณสามารถใช้ทีวีเป็นเครื่องเล่นเพลงหรือดู MV, ภาพยนตร์ ที่ชื่นชอบผ่าน thumb drive ได้สบายๆ
ส่วนถ้าท่านละเอียดมาก ก็ลองดูสเปคต่อมา คือ contrast ratio คือค่าความแตกต่างของความจ้าของภาพระหว่าง จะทำให้ท่านได้สีดำที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด พวกทีวีหรือมอนิเตอร์ที่ค่านี้ต่ำ อาจทำให้สีดำของกลายเป็นเทาเข้มๆ มันจะเห็นชัดเวลาเปิดไฟดูหนัง หรือดูในที่มืด
Feature เป็นอีกหัวข้อที่น่าสนใจ เช่นเครื่องที่ผมซื้อ จะมีพวก features ของที่ toshiba เค้าทำมา พวก boost หรือ enhancement ต่างๆ ที่ช่วยให้ภาพและเสียงของคุณดีขึ้น และแน่นอนว่ายี่ห้ออื่นๆ ก็จะมีของเค้า ลองไปหาอ่านและเปรียบเทียบดูนะครับ พวกนี้เป็นคุณสมบัติเสริม ทำให้มันสวยขึ้นบ้าง ดีขึ้นบ้าง
แต่ต่อให้มี feature ดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถมาชดเชยสเปคหลักอย่าง resolution ได้นะครับ เพราะฉะนั้นดูดีๆ
***ผมแนะนำอย่างแรง ว่าให้หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตก่อนไปซื้อครับ***
ตอนที่ผมไป ผมหาข้อมูลไปอยู่แล้ว เลยมีตัวเลือกไม่เยอะ รู้สเปคเลย ซึ่งปกติพวก Lotus, Big C เค้าไม่ได้มีแผ่นพับหรืออะไรที่อธิบายสเปคหรือคุณสมบัติของเครื่องให้เราดู และต้องพึ่งพาพนักงาน
**พนักงาน Lotus ให้ข้อมูลผมผิดทั้ง 2 โมเดลที่ผมเลือกอยู่เลย อย่างตัว Full HD พี่แกก็บอกว่าเป็น HD Ready
ปสก.ที่ผมเจอนี่ พนักงานเชียร์ให้ซื้อแต่โมเดลล่าสุด ซึ่งราคาก็เหยียบๆ 20,000 โดยทีวีรุ่นใหม่ๆ พวกนี้ก็จะเป็น smart tv ต่ออินเตอร์เน็ตได้และเป็น multimedia hub ครบวงจรความบันเทิง เล่นเฟซบุ๊คผ่านทีวีกันเลยทีเดียว
ถามตัวท่านเอง ว่าคุณสมบัติอะไรบ้างที่ท่านอยากได้ และจำเป็น แล้วดูงบในมือตัวเอง
และยี่ห้อก็สำคัญ ถ้าท่านไม่ยึดติดยี่ห้อ ท่านสามารถได้ทีวีที่แบรนด์ไม่ดังในราคาต่ำกว่าแบรนด์ดังๆ หรือ ได้ขนาดจอที่ใหญ่กว่าในราคาเท่ากัน!
"เทคโนโลยี" ตอนนี้ท่านสามารถใช้เงินที่ซื้อ smart tv รุ่นล่าสุด 32 นิ้ว ไปซื้อ plasma TV ที่ขนาด 43 นิ้วได้นะครับ เทคโนโลยีพลาสมามีมานาน เลยดูเก่า และถูกโจมตีเรื่อง burn คือถ้าฉายภาพเดิมๆ นานๆ เวลาเปลียนภาพ/่ช่อง มันจะมี "เงา" ลางๆ คือเหมือนภาพมันติดก่อนจะเปลี่ยนภาพไป (ซึ่งในความเป็นจริงมันยากมาก เพราะเราก็ดูภาพเคลื่อนไหวตลอด)
แต่ LED/LCD มีข้อเสียเหมือนกัน คือ response time หรือความเร็วที่ภาพตอบสนองจะช้ากว่า เข้าใจง่ายๆ ว่าความลื่นไหล ความ smooth นั้นพลาสมาจะดีกว่า อีกทั้ง LED/LCD บางครั้งมีปัญหาความสว่างไม่เท่ากัน ไม่สม่ำเสมอ เช่น ขอบจ้ากว่าตรง เป็นต้น ซึ่งตรงนี้จะเห็นได้ก็ต่อเมื่อเปิดดูภาพสีดำสนิทเท่านั้น
เรื่อง response time นี่เป็นเรื่องสำคัญของชาว gamers ได้เลยด้วยนะครับ กดจอยแล้วดีเลย์ (ถึงจะน้อยมาก แต่พอรู้สึกได้) ก็คงไม่ดี
ถ้าท่านหา Plasma TV ที่ Full HD ขนาดหน้าจอใหญ่ๆ และไม่แคร์เรื่องว่าเป็นเทคโนโลยีที่หยุดพัฒนาแล้ว (เลิกผลิตกันแล้ว) ก็ใช้ไปเถอะครับ ไม่เป็นไรเลยจริงๆ และยังมีข้อดีหลายๆ ข้อที่ดีกว่า LCD/LED ทีวีเสียอีก
ไม่รู้น้องคนนี้เค้าสงสัญญานอะไรถึงผมรึปล่าว
โดยสรุป แนะนำหาข้อมูลไปเองก่อนเลย เพราะพนังงานบางทีก็ไม่รู้หรือให้ข้อมูลผิด และให้ข้อมูลเชิงลึกไม่ได้ ให้ได้แค่ว่าชัดกว่า ดีกว่า ออกมาปีไหน แต่เรื่องพวก reponse time หรืออื่นๆ นั้นไม่ค่อยรู้ บางทีเชียร์แต่ให้ซื้อรุ่นใหม่อย่างเดียว
จัดทั้งที ต้อง Full HD เท่านั้นเลยครับยุคนี้ ผมยืนยัน
ดูว่าเหตุผลที่ซื้อเพราะอะไร และมีงบเท่าไหร่
:: เพิ่งถอยทีวีใหม่มา ชวนคุย และแนะนำคนที่กำลังจะซื้อครับ ::
ทีวีนี่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าพื้นฐาน เป็นหลัก ที่ใช้ในชีวิตประจำวันมากชนิดถ้าไม่มากที่สุดก็น่าจะ 1 ใน 3 อาจจะเป็นรองแค่ตู้เย็น ดังนั้นการจะซื้อมาสักเครื่องนั้นถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมากนะครับ และควรหาความรู้เยอะๆ ก่อนจะซื้อสักเครื่อง
อย่างแรกที่คุณควรจะคิดไว้ก่อนเลย คือ "งบ" ตามธรรมชาติเลยครับ ราคาสูง รุ่นใหม่ คุณภาพมันย่อมดีกว่าเก่า
แต่แน่นอน ถ้าราคามันไม่ต่างกันมาก จะเอาอะไรต่อดี?
อย่างต่อมา "Resolution" หรือความละเอียดจอภาพ สมัยนี้ต้อง "Full HD" (1920 x 1080) เป็นมาตรฐานแล้วนะครับ (จะมี "HD Ready" ซึ่งความละเอียดต่ำกว่า (1280 x 720) สังเกตให้ดีนะครับเวลาซื้อ) เป็นความละเอียดสูงสุด ที่จะมากกว่านี้ก็เป็น 4K ซึ่งไม่ต้องห่วงเลย เพราะบ้านเราไม่มี content หรือผลงานที่ความคมชัดระดับนี้ให้ดู ซื้อมาก็แทบจะเปลืองเงินปล่าว และความละเอียดขนาดนั้น จะแสดงพลานุภาพได้ก็ต่อเมื่อมันมาพร้อมขนาดหน้าจอที่ใหญ่มากๆ
อีกเทคโนโลยีคือ 3D แล้วแต่ความชอบเลย ถ้าหา content มาดูได้และชอบมาก ก็จัดได้เลย แต่ถ้าคนใช้ทั่วไป ผมแนะนำว่าอย่าไปสน
ถ้าท่านเป็นคนที่ไม่ได้อะไรมากกับสเปคทีวี ใช้เพื่อดูอะไรเรื่อยเปื่อย หลักๆ ก็เท่านี้ก่อนเลยครับ งบ, ขนาดหน้าจอ, และ ความละเอียด หรือ Resolution
ในฐานะผู้ใช้ทั่วไป ดูที่มี port หรือช่องเสียบหลายๆ ช่องก็ดีครับ มาตรฐานก็คือ USB และ HDMI ถ้าสักอย่างนะ 2-3 นี่ดีเลย คุณสามารถใช้ทีวีเป็นเครื่องเล่นเพลงหรือดู MV, ภาพยนตร์ ที่ชื่นชอบผ่าน thumb drive ได้สบายๆ
ส่วนถ้าท่านละเอียดมาก ก็ลองดูสเปคต่อมา คือ contrast ratio คือค่าความแตกต่างของความจ้าของภาพระหว่าง จะทำให้ท่านได้สีดำที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด พวกทีวีหรือมอนิเตอร์ที่ค่านี้ต่ำ อาจทำให้สีดำของกลายเป็นเทาเข้มๆ มันจะเห็นชัดเวลาเปิดไฟดูหนัง หรือดูในที่มืด
Feature เป็นอีกหัวข้อที่น่าสนใจ เช่นเครื่องที่ผมซื้อ จะมีพวก features ของที่ toshiba เค้าทำมา พวก boost หรือ enhancement ต่างๆ ที่ช่วยให้ภาพและเสียงของคุณดีขึ้น และแน่นอนว่ายี่ห้ออื่นๆ ก็จะมีของเค้า ลองไปหาอ่านและเปรียบเทียบดูนะครับ พวกนี้เป็นคุณสมบัติเสริม ทำให้มันสวยขึ้นบ้าง ดีขึ้นบ้าง
แต่ต่อให้มี feature ดีแค่ไหน ก็ไม่สามารถมาชดเชยสเปคหลักอย่าง resolution ได้นะครับ เพราะฉะนั้นดูดีๆ
***ผมแนะนำอย่างแรง ว่าให้หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตก่อนไปซื้อครับ***
ตอนที่ผมไป ผมหาข้อมูลไปอยู่แล้ว เลยมีตัวเลือกไม่เยอะ รู้สเปคเลย ซึ่งปกติพวก Lotus, Big C เค้าไม่ได้มีแผ่นพับหรืออะไรที่อธิบายสเปคหรือคุณสมบัติของเครื่องให้เราดู และต้องพึ่งพาพนักงาน
**พนักงาน Lotus ให้ข้อมูลผมผิดทั้ง 2 โมเดลที่ผมเลือกอยู่เลย อย่างตัว Full HD พี่แกก็บอกว่าเป็น HD Ready
ปสก.ที่ผมเจอนี่ พนักงานเชียร์ให้ซื้อแต่โมเดลล่าสุด ซึ่งราคาก็เหยียบๆ 20,000 โดยทีวีรุ่นใหม่ๆ พวกนี้ก็จะเป็น smart tv ต่ออินเตอร์เน็ตได้และเป็น multimedia hub ครบวงจรความบันเทิง เล่นเฟซบุ๊คผ่านทีวีกันเลยทีเดียว
ถามตัวท่านเอง ว่าคุณสมบัติอะไรบ้างที่ท่านอยากได้ และจำเป็น แล้วดูงบในมือตัวเอง
และยี่ห้อก็สำคัญ ถ้าท่านไม่ยึดติดยี่ห้อ ท่านสามารถได้ทีวีที่แบรนด์ไม่ดังในราคาต่ำกว่าแบรนด์ดังๆ หรือ ได้ขนาดจอที่ใหญ่กว่าในราคาเท่ากัน!
"เทคโนโลยี" ตอนนี้ท่านสามารถใช้เงินที่ซื้อ smart tv รุ่นล่าสุด 32 นิ้ว ไปซื้อ plasma TV ที่ขนาด 43 นิ้วได้นะครับ เทคโนโลยีพลาสมามีมานาน เลยดูเก่า และถูกโจมตีเรื่อง burn คือถ้าฉายภาพเดิมๆ นานๆ เวลาเปลียนภาพ/่ช่อง มันจะมี "เงา" ลางๆ คือเหมือนภาพมันติดก่อนจะเปลี่ยนภาพไป (ซึ่งในความเป็นจริงมันยากมาก เพราะเราก็ดูภาพเคลื่อนไหวตลอด)
แต่ LED/LCD มีข้อเสียเหมือนกัน คือ response time หรือความเร็วที่ภาพตอบสนองจะช้ากว่า เข้าใจง่ายๆ ว่าความลื่นไหล ความ smooth นั้นพลาสมาจะดีกว่า อีกทั้ง LED/LCD บางครั้งมีปัญหาความสว่างไม่เท่ากัน ไม่สม่ำเสมอ เช่น ขอบจ้ากว่าตรง เป็นต้น ซึ่งตรงนี้จะเห็นได้ก็ต่อเมื่อเปิดดูภาพสีดำสนิทเท่านั้น
เรื่อง response time นี่เป็นเรื่องสำคัญของชาว gamers ได้เลยด้วยนะครับ กดจอยแล้วดีเลย์ (ถึงจะน้อยมาก แต่พอรู้สึกได้) ก็คงไม่ดี
ถ้าท่านหา Plasma TV ที่ Full HD ขนาดหน้าจอใหญ่ๆ และไม่แคร์เรื่องว่าเป็นเทคโนโลยีที่หยุดพัฒนาแล้ว (เลิกผลิตกันแล้ว) ก็ใช้ไปเถอะครับ ไม่เป็นไรเลยจริงๆ และยังมีข้อดีหลายๆ ข้อที่ดีกว่า LCD/LED ทีวีเสียอีก
ไม่รู้น้องคนนี้เค้าสงสัญญานอะไรถึงผมรึปล่าว
โดยสรุป แนะนำหาข้อมูลไปเองก่อนเลย เพราะพนังงานบางทีก็ไม่รู้หรือให้ข้อมูลผิด และให้ข้อมูลเชิงลึกไม่ได้ ให้ได้แค่ว่าชัดกว่า ดีกว่า ออกมาปีไหน แต่เรื่องพวก reponse time หรืออื่นๆ นั้นไม่ค่อยรู้ บางทีเชียร์แต่ให้ซื้อรุ่นใหม่อย่างเดียว
จัดทั้งที ต้อง Full HD เท่านั้นเลยครับยุคนี้ ผมยืนยัน
ดูว่าเหตุผลที่ซื้อเพราะอะไร และมีงบเท่าไหร่