สกุ๊ปนี้ เขียนถึงนิชคุณ ซึ่งได้รวบรวมเอาบทสัมภาษณ์บางตอน การตอบคำถาม ข้อคิดต่าง ๆ ในการทำงาน การใช้ชีวิต ของนิชคุณ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันหัวข้อกระทู้อาจน่าหมั่นไส้เล็กน้อย 555 (คัดตามต้นฉบับมา) แต่เนื้อหาในสกุ๊ปนี้ มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ โดยเฉพาะ แฟน ๆ ของนิชคุณ หรือคนที่ไม่รู้จักตัวตนของเขา จะได้รู้จักมากขึ้น........................
ที่มา
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewHtml=1&#Vote
หนุ่มไทยผู้โด่งดังในแดนกิมจิ 'นิชคุณ หรเวชกุล' เขาขลุกอยู่กับความโดดเดี่ยวในต่างแดนอยู่หลายปี ผ่านการเคี่ยวกรำอย่างหนัก ก่อนจะเปิดตัวในฐานะสมาชิกบอยแบนด์วง 2PM (ทูพีเอ็ม) ณ ประเทศเกาหลีใต้ แน่นอน..เขาขึ้นแท่นเป็นไอดอลเกาหลีระดับแนวหน้า ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูหล่อเหลาดึงดูดตา เพราะลึกลงไปข้างในจิตใจหัวใจเขาหล่อเสียยิ่งกว่า นานๆ ทีจะกลับมาประเทศไทย ซึ่งในครั้งนี้เขากลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่ล่าสุด เปิดการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่สอง '2PM WORLD TOUR GO CRAZY IN BANGKOK' (2พีเอ็ม เวิลด์ ทัวร์ โก เครซี่ อิน แบงคอก)
มองผิวเผินเขาอาจเป็นหนุ่มหน้าตาดีที่ได้รับโอกาสเข้ามาในเส้นทางดนตรีแดนกิมจิ แต่ชีวิตการเป็นไอดอลเกาหลีสายเลือดไทยของเขาผู้นี้ เบื้องหลังนั้นมีอุปสรรคจำนวนไม่น้อยที่ต้องเผชิญ
เรื่องราวหลากหลายแง่มุมของเขา ที่ถูกรวบรวมผ่านตัวอักษรไว้ในบรรทัดถัดไป ไม่แน่ว่าตัวตนที่เผยออกมา อาจทำให้ท่านผู้อ่านเปลี่ยนสถานะเป็น 'แฟนคลับนิชคุณ' โดยไม่รู้ตัว
2 PM GO CRAZY !!!
นับนิ้วดูก็ราว 7 ปีแล้วที่ นิชคุณ เปิดตัวในฐานะสมาชิกบอยแบนด์วง 2PM (วง 2PM ประกอบด้วยสมาชิก 6 คน ได้แก่ แทคยอน, อูยอง, จุนเค, จุนโฮ, ชานซอง และนิชคุณ) ถ้าย้อนดูเรื่องราวการเข้าสู่วงการบันเทิงเกาหลีใต้อาจตีธงได้ว่าเป็นโชคชะตาของเขา ตัดตอนหลังเข้าช่วงมัธยมปลาย ทางบ้านส่งให้เขาไปศึกษายังต่างประเทศนิวซีแลนด์ และย้ายไปประเทศสหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ออร่าของหนุ่มไทยผู้นี้เตะตาบริษัทเจวายพี ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ เพราะเพื่อนชวนไปเดินเล่นเทศกาลดนตรีเกาหลี (Korean Music Festival) ในเมืองลอสแองเจลิส
นิชคุณ เคยเล่าเรื่องราวสมัยเป็นเด็กฝึกก่อนเดบิวต์ในฐานะศิลปินผ่านนิตยสารสุดสัปดาห์ ความว่า “ผมเข้าไปอยู่หอพักของเด็กฝึก กิจกรรมที่ต้องทำเหมือนกับตารางเรียนหนังสือเลย เขาจะติดกระดาษไว้ว่าคนนี้เรียนคอร์สนี้กี่โมง มีทั้งการเรียนเต้น เรียนการแสดง อย่างคุณต้องเรียนภาษาเกาหลีเพิ่ม เริ่มเรียนตั้งแต่ 11 โมงถึง 3 ทุ่มครึ่ง ช่วงหลังเขาบอกว่าอยากเร่งก็ต้องเข้า 9 โมงครึ่ง พักทานข้าว แล้วซ้อมต่อ บางคืนซ้อม 5 ทุ่ม - เที่ยงคืนก็มี
“ทุกเดือนจะมีการสอบวัดความสามารถว่าเราพัฒนาไปแค่ไหน ต้องเลือกเพลงร้องเพลงหนึ่งกับเพลงเต้นเพลงหนึ่งไปร้องให้เขาดู เขาจะถ่ายวิดีโอแล้วเอามาเทียบกับเดือนต่อๆ มา ที่หอพักเทรนเนอร์จะเขียนรายงานว่าเรามีพัฒนาการอย่างไร มี Artist Training Team คอยเช็กว่ามนุษย์สัมพันธ์ใช้ได้ไหม ดีกับรอบข้างหรือเปล่า เขามีกฎว่าห้ามกินเหล้า ต้องเข้าบ้านก่อน 4 ทุ่มครึ่ง ถ้าจะกลับหลังจากนี้ต้องโทรมาบอกว่าอยู่ที่ไหน ที่สำคัญคือห้ามมีแฟน ใครจะมีก็ต้องแอบ ใครฝ่าฝืนก็โดนไล่ออก”
เขาสะท้อนถึงระเบียบและการฝึกฝนอย่างหนักกว่าจะเดบิวต์ในฐานะบอยแบนด์เกิร์ลกรุ๊ปของประเทศเกาหลีใต้ “ช่วงแรกอึดอัดมากครับ ท้อเลย” เขาเล่าต่อ “คุณพ่อคุณแม่ก็ช่วยเป็นกำลังใจ บอกว่าโอกาสที่เราได้รับมันหนึ่งในล้านจริงๆ ฉะนั้น ต้องอดทนและทำให้ดีที่สุด”
ณ วันนี้ นิชคุณ ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงแดนกิมจิ แถมลุกลามมาประเทศไทยไปจนถึงประเทศจีน ซึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่กังวลในวันที่มีชื่อเสียงมากๆ คือเรื่องเวลาที่จะอยู่กับครอบครัวซึ่งความกังวลของเขาเป็นสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะเวลาส่วนใหญ่ของเขาดำเนินอยู่ในประเทศเกาหลีและประเทศต่างๆ ส่วนครอบครัวนั้นพำนักกันอยู่ในประเทศไทย นานๆ จะได้เจอกันเสียที
[สกุ๊ปพิเศษ] 'นิชคุณโอปป้า' ซารางเฮ! เจอะอย่างนี้ใครไม่รักก็บ้าแล้ว
ที่มา http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewHtml=1&#Vote
หนุ่มไทยผู้โด่งดังในแดนกิมจิ 'นิชคุณ หรเวชกุล' เขาขลุกอยู่กับความโดดเดี่ยวในต่างแดนอยู่หลายปี ผ่านการเคี่ยวกรำอย่างหนัก ก่อนจะเปิดตัวในฐานะสมาชิกบอยแบนด์วง 2PM (ทูพีเอ็ม) ณ ประเทศเกาหลีใต้ แน่นอน..เขาขึ้นแท่นเป็นไอดอลเกาหลีระดับแนวหน้า ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูหล่อเหลาดึงดูดตา เพราะลึกลงไปข้างในจิตใจหัวใจเขาหล่อเสียยิ่งกว่า นานๆ ทีจะกลับมาประเทศไทย ซึ่งในครั้งนี้เขากลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่ล่าสุด เปิดการแสดงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่สอง '2PM WORLD TOUR GO CRAZY IN BANGKOK' (2พีเอ็ม เวิลด์ ทัวร์ โก เครซี่ อิน แบงคอก)
มองผิวเผินเขาอาจเป็นหนุ่มหน้าตาดีที่ได้รับโอกาสเข้ามาในเส้นทางดนตรีแดนกิมจิ แต่ชีวิตการเป็นไอดอลเกาหลีสายเลือดไทยของเขาผู้นี้ เบื้องหลังนั้นมีอุปสรรคจำนวนไม่น้อยที่ต้องเผชิญ
เรื่องราวหลากหลายแง่มุมของเขา ที่ถูกรวบรวมผ่านตัวอักษรไว้ในบรรทัดถัดไป ไม่แน่ว่าตัวตนที่เผยออกมา อาจทำให้ท่านผู้อ่านเปลี่ยนสถานะเป็น 'แฟนคลับนิชคุณ' โดยไม่รู้ตัว
2 PM GO CRAZY !!!
นับนิ้วดูก็ราว 7 ปีแล้วที่ นิชคุณ เปิดตัวในฐานะสมาชิกบอยแบนด์วง 2PM (วง 2PM ประกอบด้วยสมาชิก 6 คน ได้แก่ แทคยอน, อูยอง, จุนเค, จุนโฮ, ชานซอง และนิชคุณ) ถ้าย้อนดูเรื่องราวการเข้าสู่วงการบันเทิงเกาหลีใต้อาจตีธงได้ว่าเป็นโชคชะตาของเขา ตัดตอนหลังเข้าช่วงมัธยมปลาย ทางบ้านส่งให้เขาไปศึกษายังต่างประเทศนิวซีแลนด์ และย้ายไปประเทศสหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ออร่าของหนุ่มไทยผู้นี้เตะตาบริษัทเจวายพี ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ เพราะเพื่อนชวนไปเดินเล่นเทศกาลดนตรีเกาหลี (Korean Music Festival) ในเมืองลอสแองเจลิส
นิชคุณ เคยเล่าเรื่องราวสมัยเป็นเด็กฝึกก่อนเดบิวต์ในฐานะศิลปินผ่านนิตยสารสุดสัปดาห์ ความว่า “ผมเข้าไปอยู่หอพักของเด็กฝึก กิจกรรมที่ต้องทำเหมือนกับตารางเรียนหนังสือเลย เขาจะติดกระดาษไว้ว่าคนนี้เรียนคอร์สนี้กี่โมง มีทั้งการเรียนเต้น เรียนการแสดง อย่างคุณต้องเรียนภาษาเกาหลีเพิ่ม เริ่มเรียนตั้งแต่ 11 โมงถึง 3 ทุ่มครึ่ง ช่วงหลังเขาบอกว่าอยากเร่งก็ต้องเข้า 9 โมงครึ่ง พักทานข้าว แล้วซ้อมต่อ บางคืนซ้อม 5 ทุ่ม - เที่ยงคืนก็มี
“ทุกเดือนจะมีการสอบวัดความสามารถว่าเราพัฒนาไปแค่ไหน ต้องเลือกเพลงร้องเพลงหนึ่งกับเพลงเต้นเพลงหนึ่งไปร้องให้เขาดู เขาจะถ่ายวิดีโอแล้วเอามาเทียบกับเดือนต่อๆ มา ที่หอพักเทรนเนอร์จะเขียนรายงานว่าเรามีพัฒนาการอย่างไร มี Artist Training Team คอยเช็กว่ามนุษย์สัมพันธ์ใช้ได้ไหม ดีกับรอบข้างหรือเปล่า เขามีกฎว่าห้ามกินเหล้า ต้องเข้าบ้านก่อน 4 ทุ่มครึ่ง ถ้าจะกลับหลังจากนี้ต้องโทรมาบอกว่าอยู่ที่ไหน ที่สำคัญคือห้ามมีแฟน ใครจะมีก็ต้องแอบ ใครฝ่าฝืนก็โดนไล่ออก”
เขาสะท้อนถึงระเบียบและการฝึกฝนอย่างหนักกว่าจะเดบิวต์ในฐานะบอยแบนด์เกิร์ลกรุ๊ปของประเทศเกาหลีใต้ “ช่วงแรกอึดอัดมากครับ ท้อเลย” เขาเล่าต่อ “คุณพ่อคุณแม่ก็ช่วยเป็นกำลังใจ บอกว่าโอกาสที่เราได้รับมันหนึ่งในล้านจริงๆ ฉะนั้น ต้องอดทนและทำให้ดีที่สุด”
ณ วันนี้ นิชคุณ ประสบความสำเร็จในวงการบันเทิงแดนกิมจิ แถมลุกลามมาประเทศไทยไปจนถึงประเทศจีน ซึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่กังวลในวันที่มีชื่อเสียงมากๆ คือเรื่องเวลาที่จะอยู่กับครอบครัวซึ่งความกังวลของเขาเป็นสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพราะเวลาส่วนใหญ่ของเขาดำเนินอยู่ในประเทศเกาหลีและประเทศต่างๆ ส่วนครอบครัวนั้นพำนักกันอยู่ในประเทศไทย นานๆ จะได้เจอกันเสียที