[CR] เมื่อโชคชะตาพามา "ซานฟรานซิสโก" จากเรื่องราวสู่ภาพถ่าย (รีวิวสถานที่ท่องเที่ยว)

ซานฟรานซิสโกเป็นเมืองที่อยู่ในรัฐ California เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับ 4 ใน California รองจาก Los Angeles, San Diego และ San Jose และเป็นอันดับ 14 ในสหรัฐอเมริกา (ตามที่วิกิกล่าวไว้) สภาพอากาศดีเกือบตลอดปีเพราะฤดูหนาวก็ไม่หนาวมาก ไม่มีหิมะ แต่อาจมีฝนในช่วงนั้น ส่วนฤดูร้อนก็ไม่ร้อนตับแล่บ ออกจะเย็นซะด้วยซ้ำและมีหมอกมากในฤดูร้อน ต้องใส่เสื้อหนาวเกือบตลอดทั้งปี ช่วงที่อากาศอุ่นที่สุดในปีจะเริ่มประมาณเดือนตุลาคม หรือบางคนเรียกว่า Indian summer อากาศจะดี อบอุ่น ฟ้าใส แต่อาจมีหมอกในช่วงเช้าหรือเย็นถึงกลางคืน บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวออกแบบสไตล์ Victorian หรือ Edwardian ทำให้สวยเกือบทั้งเมือง ตึกสูงๆ จะพบในตัว downtown พวก condo หรือ apartment สูงๆ ยังไม่มีมากนักเหมือนเมืองใหญ่ๆ ผู้คนอัธยาศัยดี มีชาวเอเชียจำนวนมากทั้งที่เกิดที่นี่และมาทำงานหรือเรียน ทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่น่าอยู่อันดับต้นๆ นอกจากนี้ยังมีชื่อเรื่องเสรีภาพทางเพศอีกด้วย

เนื่องด้วยชะตากรรม ทำให้ต้องมาอยู่ที่นี่สองปี นี่ก็เหลืออีกห้าเดือนที่จะได้กลับไทย (ซะที) แล้ว เลยอยากเก็บเอาสถานที่ท่องเที่ยวมาเล่าสู่กันฟังครับ ข้อมูลอาจไม่แน่นมาก แต่เอาแบบพอให้เห็นภาพและเป็นแนวทางสำหรับคนที่อยากมาได้ เพราะรายละเอียดมากๆ หาอ่านได้ไม่ยาก ภาพส่วนใหญ่จะถ่ายตอนกลางคืนเพราะชอบรูปถ่ายตอนกลางคืน เพราะความเห็นส่วนตัวคือ มีรายละเอียดเรื่องแสง สี มีลูกเล่นได้เยอะ (แม้บางรูป noise จะเยอะมากก็ตาม...) และหาดูภาพตอนกลางคืนได้ไม่มากเท่ารูปตอนกลางวันซึ่งเห็นได้โดยทั่วไปครับ เพิ่งมาหัดถ่ายรูปที่นี่ เพราะตอนอยู่เมืองไทยแทบไม่มีเวลากระดิกตัวไปไหน รูปที่ลงจะลงแบบเป็นสถานที่เป็นที่ๆ ไป ไม่ได้เป็นเส้นทางในการเที่ยวแบบจากนี่ไปนู่นอะไรแบบนั้นนะครับ


https://www.facebook.com/BreathemyworldBMW
https://www.breathemyworld.com

--------------------------------------

--- เริ่มที่สัญลักษณ์ของซานฟรานซิสโกก่อนเลยคือ Golden Gate bridge
สะพานนี้ทอดแบ่งระหว่าง San Francisco Bay และมหาสมุทรแปซิฟิค เชื่อมระหว่างเมืองซานฟรานซิสโกและ Marin County มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร กว้าง 27.4 เมตร วิศวกรผู้สร้างและออกแบบที่ทำให้ความเป็นไปไม่ได้เป็นไปได้ขึ้นมาทั้งเรื่องงบประมาณที่ไม่แพงเกินไปและการทนทานต่อการเกิดแผ่นดินไหว คือ Joseph Strauss  
--- ตัวสะพานเป็นสีส้ม (international orange - ซึ่งเขาว่าจะเป็นสีส้มที่เข้มและออกแดงกว่าส้มทั่วไป ทำให้เราเข้าใจกันว่าสะพานนี้เป็นสีแดง) ซึ่งผู้เลือกสีให้เหตุผลว่าเป็นสีที่ตัดกับวิวทิวทัศน์รอบข้างและมหาสมุทร และยังมองเห็นได้ชัดในทุกฤดูกาล สะพานเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อ 27 พฤษภาคม 1937 โดยเพิ่งฉลองครบรอบ 75 ปีครั้งใหญ่ไปเมื่อปี 2012 (เสียดายยังไม่ได้มาอยู่ตอนนั้น)  Golden Gate Bridge นอกจากจะมีชื่อเสียงเรื่องความสวยงาม ความยิ่งใหญ่ ฯลฯ ยังมีชื่อเสียงด้านเป็นสะพานที่มีคนกระโดดฆ่าตัวตายมากที่สุดที่หนึ่ง การเดินทางข้ามสะพานทำได้เกือบทุกวิธี คือ ขับรถ เดิน รถบัส (Golden Gate Transit) และจักรยาน...ที่ซานฟรานซิสโกโดยเฉพาะบริเวณ Golden Gate Bridge และส่วนที่ติดกับทะเลแปซิฟิกนี้จะเป็นที่ที่มีหมอกปกคลุมบ่อยเกือบตลอดทั้งปีก็ว่าได้มักมีช่วงเช้าและเย็น-กลางคืน โดยเฉพาะในฤดูร้อนช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนอาจมีปกคลุมตลอดทั้งวันทำให้นักท่องเที่ยวมาแล้วผิดหวังบ่อยๆ (ดูคล้ายฟูจิของญี่ปุ่นเลย) ที่มีหมอกเป็นเพราะอากาศร้อนในแผ่นดินทำให้เกิดความกดอากาศต่ำและลอยขึ้น ทำให้อากาศเย็นจากทะเลไหลเข้ามาในตัวแผ่นดินแทนที่
--- จุดชมวิวสะพานมีหลายที่มาก แต่ละที่มีเสน่ห์ความสวยงามต่างๆ กันไป เช่น
1) จุดที่คนไปมากที่สุดและไปง่ายที่สุดก็ตรง Golden Gate Bridge/Toll Plaza ซึ่งมีที่จอดรถ ป้ายรถเมล์ (Muni) ร้านของที่ระลึก


2) จากตรงจุดที่ 1) สามารถเดินข้ามสะพานไปยังจุดชมวิวฝั่งตรงข้ามได้ (Vista Point) ซึ่งจะมองเห็น Bay Bridge และตัวเมืองซานฟรานซิสโกด้วย แต่ตรงนี้ไม่มีป้ายรถเมล์ Muni มีแต่ของบริษัท Golden Gate Transit ซึ่งมา ชม.ละคันทำให้ไม่สะดวกในการเดินทางถ้าไม่มีรถ

รูปนี้เป็นวิว downtown จาก Vista point

3) จากตัว Toll Plaza ก็มี Trail ที่สามารถเดินไปยัง Baker Beach (ไกลแต่ถ้าไม่อยากเดินก็มีรถเมล์ไปถึงได้) และ Marshall's Beach (เดินใกล้กว่า) ได้ ซึ่งเป็นจุดชมวิวสะพานจากชายหาด โดยส่วนตัวคิดว่าวิวจาก Marshall's Beach สวยกว่าเพราะใกล้สะพานกว่าและคนน้อยกว่ามาก


4) นอกจากนี้จากด้านล่างสะพานสามารถถ่ายมองย้อนขึ้นมาได้ เป็น trail ที่เดินมาจาก Crissy Field

และจุดสุดท้ายที่ชอบมากที่สุด คือ 5) จุดที่มีคนชอบมา (แต่มาลำบากหน่อยเพราะควรมีรถ) เพราะเป็นวิวที่มองจากมุมบนกลับมายังสะพานและตัวเมืองซานฟราน ก็คือ จุดชมวิวที่ Marin Headlands บริเวณ Hawk Hill ช่วงอากาศสดใสก็สวยมาก แต่ช่วงที่มีหมอก จะสวยมากๆๆ กว่า เพราะหมอกจะลอยต่ำ บางครั้งจะเห็นเป็นชั้นหมอกและมียอดสะพานโผล่ขึ้นมา ส่วนช่วงสองสัปดาห์นี้ อากาศร้อน หมอกลงต่ำมาก ทำให้หมอกลอยอยู่ใต้สะพานเลยดูเหมือนเป็นทะเลหมอกมีสะพานทอดข้าม สวยกว่ามากๆๆ เวลาที่มาถ่ายสวยๆ ควรมาช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก หรือ แสง twilight ในรูปที่เห็นนี่จะมืดไปหน่อยเพราะมาดึกไปเลยไม่ได้ฟ้าสีน้ำเงินสวยๆ ของจริงสวยกว่าในรูปมากๆ (ถ้าตั้งสถานที่ใน GPS ควรตั้งเป็น Hawk Hill ไม่ใช่ Marin Headlands เพราะมันจะพาหลังไปที่ Visitor center ไม่ใช่จุดชมวิว)

สะพานและทะเลหมอก


อมยิ้ม02
ชื่อสินค้า:   ซานฟรานซิสโก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่