กรมสรรพสามิตแจงผลพวงโครงการรถคันแรก "เรียกเงินคืน-ผิดเงื่อนไขโครงการ" 4.5 พันราย ยื่นฟ้องร้องกว่า 300 ราย
ประธานสมาคมเช่าซื้อรับตลาดเช่าซื้อไม่ดี พร้อมคุมเข้มให้สินเชื่อ เผยรถยึดค้างสต็อก 1.4 หมื่นคัน หวังตลาดรถปีหน้าฟื้นจากแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ สถาบันการเงินหันเช่าพื้นที่เปิดประมูลรถยึด
ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและโครงการรถคันแรก ยังคงส่งผลต่อเนื่องต่อธุรกิจเช่าซื้อ แม้กระบวนการจ่ายเงินคืนให้ผู้ใช้สิทธิ์ยังไม่ยุติก็ตาม โดยลิสซิ่งหลายแห่ง เริ่มยึดรถจากลูกค้าที่ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้ พร้อมนำรถที่ถูกยึดออกขายทอดตลาดบ้างแล้ว ล่าสุดสรรพสามิตเห็นตัวเลขของผู้ใช้สิทธิ์รถคันแรก คืนสิทธิ์ดังกล่าวไม่น้อยกว่า 2,000 ราย
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงการจ่ายเงินโครงการรถยนต์คันแรกว่า กรมสรรพสามิตยังคงทยอยจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ขอใช้สิทธิ์ต่อเนื่อง โดยปีงบประมาณ 2558 กรมสรรพสามิต ได้ตั้งงบประมาณ เพื่อโครงการนี้ไว้ 1,600 ล้านบาท จ่ายไปแล้ว 400 ล้านบาท ยังเหลือเงินที่รอการจ่ายอีก 1,200 ล้านบาท คาดทยอยจ่ายได้ตามระยะเวลาการใช้สิทธิ์เดือนส.ค.2558 โดยยอดที่รอการจ่ายมี 6,000 ราย
เรียกเงินคืนรถคันแรกกว่า2พันคัน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการมาเมื่อปลายปี 2554 จนถึงวันที่ 15 ต.ค.2557 ได้จ่ายเงินให้แก่ผู้ขอใช้สิทธิ์ไปแล้ว 1,090,373 ราย เป็นเงิน 80,189 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีผู้ใช้สิทธิ์นำเงินมาคืนเนื่องจากผิดเงื่อนไขโครงการ 2,335 ราย และกรมสรรพสามิตเรียกเงินคืน 2,175 ราย จำนวนนี้ได้ส่งหนังสือขอเรียกเงินคืน 1,800 ราย ขอผ่อนผันชำระ 61 ราย และได้ยื่นฟ้องร้อง 314 ราย ส่วนผู้ใช้สิทธิ์ที่ผิดเงื่อนไข ส่วนใหญ่เป็นผู้จองซื้อมีอายุไม่ถึง 21 ปีบริบูรณ์ เคยถือครองรถยนต์มาแล้ว และเป็นผู้ที่ขายรถออกก่อนครบกำหนด 5 ปีตามสัญญา
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการและได้รับรถยนต์ไปแล้ว 1,124,546 ราย เหลือที่รอรับรถและใช้สิทธิ์ 113,196 ราย จนถึงเดือนต.ค.นี้ ยังไม่มีผู้ลงทะเบียนมาขอรับรถและใช้สิทธิ์ในโครงการ เชื่อว่าโครงการนี้จะปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณ เพื่อจ่ายในโครงการอีกต่อไป
เผยเช่าซื้อไม่ดี-ทรงตัวถึงสิ้นปี
นายอนุชาติ ดีประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์และงานขายลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต ในฐานะประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย กล่าวว่าสถานการณ์ตลาดเช่าซื้อว่ายังไม่ค่อยดีนัก จะทรงตัวถึงสิ้นปีนี้ แต่ปี 2558 จะมีเม็ดเงินจากภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ คาดว่าแนวโน้มธุรกิจจะดีขึ้น แต่จะไม่เร็วมากนัก ต้องจับตาดูงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร สิ้นปีนี้ว่ากำลังซื้อจะกลับมาหรือไม่
ส่วนคุณภาพสินเชื่อไม่ได้แย่ลงมากนัก โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลทั้งระบบไม่เกิน 3% เพราะสถาบันการเงินเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และปรับโครงสร้างหนี้ให้ ยังต้องคุมเข้มการให้สินเชื่อใหม่ จึงทำให้ไม่มีปัญหาจนน่ากังวล ทำให้รถที่ถูกยึดเริ่มทรงตัว มาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา โดยทั้งระบบมีรถยึดที่ยังค้างสต็อกอยู่ 1.3-1.4 หมื่นคัน ขณะที่เช่าซื้อของธนาคารธนชาต ยอมรับว่าปรับลดลงตามทิศทางตลาด
"สถานการณ์ในตลาดเริ่มนิ่งแล้ว ทุกคนคาดหวังว่าเศรษฐกิจฟื้นจะเป็นปัจจัยบวก แต่ยอมรับว่าคาดเดาได้ยาก รอดูว่าค่ายรถจะปรับแผนอย่างไร ภาพรวมปีนี้คาดว่าจะปิดได้ 9 แสนคัน ปีหน้าก็น่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติหรือเติบโต 8-10% จากปีนี้ที่ชะลอตัว คาดว่าจะติดลบ 20-30% โดยช่วง1-2 เดือนข้างหน้าจะเห็นชัดว่าตลาดจะฟื้นหรือไม่ "
ราคาสินค้าเกษตรต่ำกระทบกำลังซื้อ
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแม้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาลดลงครั้งแรกรอบ 5 เดือน จากความกังวลต่อราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งผลต่อกำลังซื้อของกลุ่มเกษตรกรต่างจังหวัด ขณะที่หนี้ครัวเรือนยังคงเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังไม่ได้ผลกระทบจากลูกค้าเหล่านี้ โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 74,300 ล้านบาท ทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 226,000 ล้านบาท ซึ่งสินเชื่อปล่อยใหม่ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับตลาดสินเชื่อเช่าซื้อที่หดตัวลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทและยังคงติดตามและบริหารคุณภาพหนี้รัดกุม โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัว เนื่องจากภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 3.6 แสนล้านบาท จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
พิษรถคันแรกฉุดรถมือสองลง40%
นายสุรชัย จิตตรัตน์เสนีย์ ดำรงตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนธุรกิจ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวถึงธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทเซ็นเตอร์ ออโต้ ลีส จำกัด กล่าวว่าธุรกิจเช่าซื้อปีนี้มีแนวโน้มไม่ดี โดยเฉพาะเช่าซื้อรถยนต์ที่ยังได้รับผลกระทบจากรถคันแรก ทำให้ราคารถมือสองปรับลดลง 20-40% รวมถึงมีเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นในปี 2556 แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่อัตราการยึดรถปีนี้ยังสูงกว่าปีก่อน แต่เริ่มนิ่งในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา
ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อของเซ็นเตอร์ออโต้ ลีส มีประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน เนื่องจากสินเชื่อปล่อยใหม่ลดลง โดยมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่เพียง 7,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มี 9000 ล้านบาท เช่าซื้อรถมือสองเป็นธุรกิจหลักของธนาคารกว่า 90% กระทบต่อกำไรในปีนี้ให้ปรับลดลงไปด้วย แต่เชื่อว่าแนวโน้มปี 2558 จะปรับตัวดีขึ้น
หันเช่าพื้นที่เปิดประมูลรถยึด
ขณะที่ตลาดประมูลถือเป็นตลาดค้าส่งรถยนต์และสะท้อนคุณภาพสินเชื่อ ทั้งนี้ลานประมูลแบ่งประเภทของรถออก 3 ส่วน คือ รถรอการประมูลรถจากสถาบันการเงิน (รถยึด) รถจักรยานยนต์ และรถรอการประมูลเพราะอุบัติเหตุ โดยรถจากสถาบันการเงิน เข้าสู่ตลาดประมูลมากขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ เป็นสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นว่า ห่วงโซ่ของซัพพลาย ของรถยนต์ได้ส่งผลตรงต่อวงจร การค้ารถครบทุกส่วน จากการผลิต การขายรถใหม่ และรถมือสองสำหรับราคารถมือสองยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉลี่ย 30 % ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ
"กรุงเทพธุรกิจ" ได้สำรวจพื้นที่ว่างที่สามารถจอดรถได้ พบว่ามีหลายพื้นที่ถูกเช่า เป็นลานจอดรถถูกยึด เช่น ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ ที่มีรถหลายประเภทจอดอยู่ แหล่งข่าวจากซีคอน สแควร์ กล่าวว่าลานจอดตรงข้ามศูนย์การค้าซีคอน ได้รับการเช่าระยะยาวจาก ธนาคารธนชาต เพื่อใช้เป็นลานจอดรถรอประมูล ซึ่งมีรถยนต์หลากหลายประเภทจอดอยู่ เช่น รถตู้ รถบรรทุกขนาดใหญ่ รถยนต์เก๋งและกระบะ
ส่วนลานจอดรถของธนาคารเกียรตินาคิน ซึ่งมีลานประมูลรถยึดที่ปากซอย เข้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ได้มีการขยายพื้นที่จอด ไปสู่ลานดินด้านถนนฝั่งตรงข้ามเพิ่มจากลานประมูลปกติ
เช่นเดียวกับบริษัท สหการประมูล ในฐานะผู้นำตลาดประมูลรถ ได้ขยายลานประมูลออกสู่ภูมิภาคต่อเนื่อง ส่วนลานประมูลบริษัท แมนไฮมม์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ผู้จัดการประมูลรถรายใหญ่ ซึ่งมีลานจอดรถขนาด 4 หมื่นตารางเมตร บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่เต็มไปด้วยรถที่เข้ามารอการประมูลทุกสัปดาห์
กำลังซื้อร่วงหนักดันยอดไม่ฟื้น
นายศุภวุฒิ จิรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาเอ็นพีแอลในระบบค่อนข้างสูง พบว่าสูงสุดในรอบ 10 ปี ทำให้สถาบันการเงินต้องเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ส่วนยอดขายรถยนต์หดตัวมาก ยังส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการสินเชื่อ ทำให้เกิดแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่ต้องระมัดระวังเรื่องเอ็นพีแอล ทำให้ต้องกำหนดเงื่อนไขการเช่าซื้อ เพื่อลดความเสี่ยงลง
"บริษัทสินเชื่อกำลังปรับความเสี่ยงให้หายไป ภายใน 1 ปี ต้องระมัดระวังสินเชื่อใหม่ๆ ในส่วนของการแข่งขันในยุคที่กำลังซื้อตก จะเห็นได้ว่ามีการจัดแคมเปญที่รุนแรง เช่น ตลาดรถยนต์นั่ง ที่มีอัตราดอกเบี้ยในระดับ 2% ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเชื่อว่าจะอยู่ต่อไปอีกนาน
นายสฤษฎร์พร สกลรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร และวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ฮุนได กล่าวว่าผลกระทบจากโครงการรถคันแรก ยังคงมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคขณะนี้ เห็นได้จากตลาดรถขนาดเล็กที่หดตัวค่อนข้างรุนแรง และหดตัวในสัดส่วนที่สูงกว่าตลาดอื่นๆ แม้ว่าจะมีความพยายามกระตุ้นตลาดของผู้ประกอบการ ผ่านแคมเปญต่างๆ แต่จะเห็นได้ว่า ยอดขายกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นการบ่งบอกว่ากำลังซื้อหายไปชัดเจน ต้องให้เวลาตลาดในการปรับฐานตัวเองก่อน เมื่อเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง แต่จะเป็นการเติบโตเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มาสด้า กล่าวว่า รถคันแรกยังส่งผลกระทบต่อตลาด ทำให้กำลังซื้อหายไป สะท้อนผ่านสถานการณ์ตลาดในขณะนี้ เช่น ตลาดอีโคคาร์ ที่พบว่ารถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดขณะนี้ เป็นรถที่มีราคาต่ำสุด และมีข้อเสนอของแคมเปญที่รุนแรงที่สุด
รถคันแรกผิดเงื่อนไข'อื้อ' เอกชนหันเช่าที่ประมูล'รถยึด'
กรมสรรพสามิตแจงผลพวงโครงการรถคันแรก "เรียกเงินคืน-ผิดเงื่อนไขโครงการ" 4.5 พันราย ยื่นฟ้องร้องกว่า 300 ราย
ประธานสมาคมเช่าซื้อรับตลาดเช่าซื้อไม่ดี พร้อมคุมเข้มให้สินเชื่อ เผยรถยึดค้างสต็อก 1.4 หมื่นคัน หวังตลาดรถปีหน้าฟื้นจากแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ สถาบันการเงินหันเช่าพื้นที่เปิดประมูลรถยึด
ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและโครงการรถคันแรก ยังคงส่งผลต่อเนื่องต่อธุรกิจเช่าซื้อ แม้กระบวนการจ่ายเงินคืนให้ผู้ใช้สิทธิ์ยังไม่ยุติก็ตาม โดยลิสซิ่งหลายแห่ง เริ่มยึดรถจากลูกค้าที่ไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้ พร้อมนำรถที่ถูกยึดออกขายทอดตลาดบ้างแล้ว ล่าสุดสรรพสามิตเห็นตัวเลขของผู้ใช้สิทธิ์รถคันแรก คืนสิทธิ์ดังกล่าวไม่น้อยกว่า 2,000 ราย
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวถึงการจ่ายเงินโครงการรถยนต์คันแรกว่า กรมสรรพสามิตยังคงทยอยจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ขอใช้สิทธิ์ต่อเนื่อง โดยปีงบประมาณ 2558 กรมสรรพสามิต ได้ตั้งงบประมาณ เพื่อโครงการนี้ไว้ 1,600 ล้านบาท จ่ายไปแล้ว 400 ล้านบาท ยังเหลือเงินที่รอการจ่ายอีก 1,200 ล้านบาท คาดทยอยจ่ายได้ตามระยะเวลาการใช้สิทธิ์เดือนส.ค.2558 โดยยอดที่รอการจ่ายมี 6,000 ราย
เรียกเงินคืนรถคันแรกกว่า2พันคัน
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการมาเมื่อปลายปี 2554 จนถึงวันที่ 15 ต.ค.2557 ได้จ่ายเงินให้แก่ผู้ขอใช้สิทธิ์ไปแล้ว 1,090,373 ราย เป็นเงิน 80,189 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีผู้ใช้สิทธิ์นำเงินมาคืนเนื่องจากผิดเงื่อนไขโครงการ 2,335 ราย และกรมสรรพสามิตเรียกเงินคืน 2,175 ราย จำนวนนี้ได้ส่งหนังสือขอเรียกเงินคืน 1,800 ราย ขอผ่อนผันชำระ 61 ราย และได้ยื่นฟ้องร้อง 314 ราย ส่วนผู้ใช้สิทธิ์ที่ผิดเงื่อนไข ส่วนใหญ่เป็นผู้จองซื้อมีอายุไม่ถึง 21 ปีบริบูรณ์ เคยถือครองรถยนต์มาแล้ว และเป็นผู้ที่ขายรถออกก่อนครบกำหนด 5 ปีตามสัญญา
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการและได้รับรถยนต์ไปแล้ว 1,124,546 ราย เหลือที่รอรับรถและใช้สิทธิ์ 113,196 ราย จนถึงเดือนต.ค.นี้ ยังไม่มีผู้ลงทะเบียนมาขอรับรถและใช้สิทธิ์ในโครงการ เชื่อว่าโครงการนี้จะปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณ เพื่อจ่ายในโครงการอีกต่อไป
เผยเช่าซื้อไม่ดี-ทรงตัวถึงสิ้นปี
นายอนุชาติ ดีประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์และงานขายลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต ในฐานะประธานสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย กล่าวว่าสถานการณ์ตลาดเช่าซื้อว่ายังไม่ค่อยดีนัก จะทรงตัวถึงสิ้นปีนี้ แต่ปี 2558 จะมีเม็ดเงินจากภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ คาดว่าแนวโน้มธุรกิจจะดีขึ้น แต่จะไม่เร็วมากนัก ต้องจับตาดูงานมอเตอร์เอ็กซ์โปร สิ้นปีนี้ว่ากำลังซื้อจะกลับมาหรือไม่
ส่วนคุณภาพสินเชื่อไม่ได้แย่ลงมากนัก โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลทั้งระบบไม่เกิน 3% เพราะสถาบันการเงินเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และปรับโครงสร้างหนี้ให้ ยังต้องคุมเข้มการให้สินเชื่อใหม่ จึงทำให้ไม่มีปัญหาจนน่ากังวล ทำให้รถที่ถูกยึดเริ่มทรงตัว มาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา โดยทั้งระบบมีรถยึดที่ยังค้างสต็อกอยู่ 1.3-1.4 หมื่นคัน ขณะที่เช่าซื้อของธนาคารธนชาต ยอมรับว่าปรับลดลงตามทิศทางตลาด
"สถานการณ์ในตลาดเริ่มนิ่งแล้ว ทุกคนคาดหวังว่าเศรษฐกิจฟื้นจะเป็นปัจจัยบวก แต่ยอมรับว่าคาดเดาได้ยาก รอดูว่าค่ายรถจะปรับแผนอย่างไร ภาพรวมปีนี้คาดว่าจะปิดได้ 9 แสนคัน ปีหน้าก็น่าจะกลับมาสู่ภาวะปกติหรือเติบโต 8-10% จากปีนี้ที่ชะลอตัว คาดว่าจะติดลบ 20-30% โดยช่วง1-2 เดือนข้างหน้าจะเห็นชัดว่าตลาดจะฟื้นหรือไม่ "
ราคาสินค้าเกษตรต่ำกระทบกำลังซื้อ
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแม้ว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนก.ย.ที่ผ่านมาลดลงครั้งแรกรอบ 5 เดือน จากความกังวลต่อราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ส่งผลต่อกำลังซื้อของกลุ่มเกษตรกรต่างจังหวัด ขณะที่หนี้ครัวเรือนยังคงเพิ่มขึ้น แต่บริษัทยังไม่ได้ผลกระทบจากลูกค้าเหล่านี้ โดยช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาบริษัทปล่อยสินเชื่อใหม่รวม 74,300 ล้านบาท ทำให้ยอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 226,000 ล้านบาท ซึ่งสินเชื่อปล่อยใหม่ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน สอดคล้องกับตลาดสินเชื่อเช่าซื้อที่หดตัวลง
อย่างไรก็ตาม บริษัทและยังคงติดตามและบริหารคุณภาพหนี้รัดกุม โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจจะมีแนวโน้มฟื้นตัว เนื่องจากภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 3.6 แสนล้านบาท จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
พิษรถคันแรกฉุดรถมือสองลง40%
นายสุรชัย จิตตรัตน์เสนีย์ ดำรงตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนธุรกิจ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวถึงธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทเซ็นเตอร์ ออโต้ ลีส จำกัด กล่าวว่าธุรกิจเช่าซื้อปีนี้มีแนวโน้มไม่ดี โดยเฉพาะเช่าซื้อรถยนต์ที่ยังได้รับผลกระทบจากรถคันแรก ทำให้ราคารถมือสองปรับลดลง 20-40% รวมถึงมีเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นในปี 2556 แต่ขณะนี้สถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้น ขณะที่อัตราการยึดรถปีนี้ยังสูงกว่าปีก่อน แต่เริ่มนิ่งในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา
ปัจจุบันพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อของเซ็นเตอร์ออโต้ ลีส มีประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท ทรงตัวจากปีก่อน เนื่องจากสินเชื่อปล่อยใหม่ลดลง โดยมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่เพียง 7,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่มี 9000 ล้านบาท เช่าซื้อรถมือสองเป็นธุรกิจหลักของธนาคารกว่า 90% กระทบต่อกำไรในปีนี้ให้ปรับลดลงไปด้วย แต่เชื่อว่าแนวโน้มปี 2558 จะปรับตัวดีขึ้น
หันเช่าพื้นที่เปิดประมูลรถยึด
ขณะที่ตลาดประมูลถือเป็นตลาดค้าส่งรถยนต์และสะท้อนคุณภาพสินเชื่อ ทั้งนี้ลานประมูลแบ่งประเภทของรถออก 3 ส่วน คือ รถรอการประมูลรถจากสถาบันการเงิน (รถยึด) รถจักรยานยนต์ และรถรอการประมูลเพราะอุบัติเหตุ โดยรถจากสถาบันการเงิน เข้าสู่ตลาดประมูลมากขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ เป็นสัญญาณที่สะท้อนให้เห็นว่า ห่วงโซ่ของซัพพลาย ของรถยนต์ได้ส่งผลตรงต่อวงจร การค้ารถครบทุกส่วน จากการผลิต การขายรถใหม่ และรถมือสองสำหรับราคารถมือสองยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉลี่ย 30 % ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ
"กรุงเทพธุรกิจ" ได้สำรวจพื้นที่ว่างที่สามารถจอดรถได้ พบว่ามีหลายพื้นที่ถูกเช่า เป็นลานจอดรถถูกยึด เช่น ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ ที่มีรถหลายประเภทจอดอยู่ แหล่งข่าวจากซีคอน สแควร์ กล่าวว่าลานจอดตรงข้ามศูนย์การค้าซีคอน ได้รับการเช่าระยะยาวจาก ธนาคารธนชาต เพื่อใช้เป็นลานจอดรถรอประมูล ซึ่งมีรถยนต์หลากหลายประเภทจอดอยู่ เช่น รถตู้ รถบรรทุกขนาดใหญ่ รถยนต์เก๋งและกระบะ
ส่วนลานจอดรถของธนาคารเกียรตินาคิน ซึ่งมีลานประมูลรถยึดที่ปากซอย เข้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ได้มีการขยายพื้นที่จอด ไปสู่ลานดินด้านถนนฝั่งตรงข้ามเพิ่มจากลานประมูลปกติ
เช่นเดียวกับบริษัท สหการประมูล ในฐานะผู้นำตลาดประมูลรถ ได้ขยายลานประมูลออกสู่ภูมิภาคต่อเนื่อง ส่วนลานประมูลบริษัท แมนไฮมม์ เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ผู้จัดการประมูลรถรายใหญ่ ซึ่งมีลานจอดรถขนาด 4 หมื่นตารางเมตร บนถนนอ่อนนุช-ลาดกระบัง เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่เต็มไปด้วยรถที่เข้ามารอการประมูลทุกสัปดาห์
กำลังซื้อร่วงหนักดันยอดไม่ฟื้น
นายศุภวุฒิ จิรมนัสนาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ ลีสซิ่ง จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาเอ็นพีแอลในระบบค่อนข้างสูง พบว่าสูงสุดในรอบ 10 ปี ทำให้สถาบันการเงินต้องเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ ส่วนยอดขายรถยนต์หดตัวมาก ยังส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการสินเชื่อ ทำให้เกิดแข่งขันที่รุนแรงขึ้น แต่ต้องระมัดระวังเรื่องเอ็นพีแอล ทำให้ต้องกำหนดเงื่อนไขการเช่าซื้อ เพื่อลดความเสี่ยงลง
"บริษัทสินเชื่อกำลังปรับความเสี่ยงให้หายไป ภายใน 1 ปี ต้องระมัดระวังสินเชื่อใหม่ๆ ในส่วนของการแข่งขันในยุคที่กำลังซื้อตก จะเห็นได้ว่ามีการจัดแคมเปญที่รุนแรง เช่น ตลาดรถยนต์นั่ง ที่มีอัตราดอกเบี้ยในระดับ 2% ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเชื่อว่าจะอยู่ต่อไปอีกนาน
นายสฤษฎร์พร สกลรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร และวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ฮุนได กล่าวว่าผลกระทบจากโครงการรถคันแรก ยังคงมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคขณะนี้ เห็นได้จากตลาดรถขนาดเล็กที่หดตัวค่อนข้างรุนแรง และหดตัวในสัดส่วนที่สูงกว่าตลาดอื่นๆ แม้ว่าจะมีความพยายามกระตุ้นตลาดของผู้ประกอบการ ผ่านแคมเปญต่างๆ แต่จะเห็นได้ว่า ยอดขายกลับลดลงอย่างต่อเนื่อง เป็นการบ่งบอกว่ากำลังซื้อหายไปชัดเจน ต้องให้เวลาตลาดในการปรับฐานตัวเองก่อน เมื่อเข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง แต่จะเป็นการเติบโตเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี รองประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์มาสด้า กล่าวว่า รถคันแรกยังส่งผลกระทบต่อตลาด ทำให้กำลังซื้อหายไป สะท้อนผ่านสถานการณ์ตลาดในขณะนี้ เช่น ตลาดอีโคคาร์ ที่พบว่ารถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดขณะนี้ เป็นรถที่มีราคาต่ำสุด และมีข้อเสนอของแคมเปญที่รุนแรงที่สุด