>> ประเสบัน ฉันสะดวก ฉันสงบ ฉันสะดวก ฉันสบาย ฉันชอบ <<
เป็นครั้งที่3หรือ4แล้วครับที่ได้มาพักผ่อน ณ ปราณบุรี
ซึ่งทุกๆครั้งที่มาพักก็ไม่เคยจะมีเลยแม้นสักเพียงครั้งเดียวที่จะพักซ้ำที่ซ้ำรอยเดิม คราวนี้ก็เช่นกันครับ ....
ปิดเทอมนี้ก็มีวาระที่ต้องพาเด็กๆไปเที่ยวกัน แต่ก็ตั้งท่ารั้งรอกันอยู่นานโดยคิดว่าน่าจะรอให้ฝนหายขาดเม็ด
สะเด็ดก้นกบกันไปก่อน
แล้วจะค่อยไปกัน แต่ก็เฝ้าแต่รอ ร๊อ รอ รอกันจนใกล้จะเปิดเทอมเต็มแก่แล้ว
น้องฝนก็มาเยือนมิเคยขาดเลยตัดสินใจไปละเหวย ไปละวา กันซักคราในวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งก่อนหน้านั้นก็
วางเข็มไว้อยู่แล้ว
ว่าจะไปพักกันอยู่แถวๆ ปากน้ำปราณ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
หาข้อมูลจนมาจบที่นี่
"ประเสบัน รีสอร์ท" โดยเลือกจิ้มเอาจากคะแนนที่ดูแล้วค่อนข้างสูงใน
เวปต่างๆ (82%) ...
ซึ่งก็ไม่ผิดหวังครับ อยู่ไม่ไกลจาก"หัวปลี"ที่เคยพักเมื่อคราวก่อน สถานที่เข้าออกง่ายเพราะอยู่ติดถนนไม่
ต้องเข้าซอย
จอดรถหน้ารีสอร์ทแล้วเดินตัวปลิวเข้าไปเช็คอินได้เลย ......
ประเสบันยืนนิ่งอย่างสงบ ยิ้มแย้มพร้อมต้อนรับเราอยู่แล้ว ณ ริมทะเลปราณบุรี
สถานที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแนวศิลปะร่วมสมัย ไทย-บาหลี คนกันจนเข้ากันได้ดี
ดูหรูหรา แต่ก็ผ่อนคลาย เป็นกันเองแต่ก็ยังดูส่วนตัว
ส่วนของการต้อนรับแรกครับ เข้าเช็คอินพร้อมเวลล์คัมดริ้ง (น้ำสมุนไพรเบาๆ)
หลุดจากส่วนของรับประทานอาหารนี่ไปแหละครับ จะเป็นที่พักของเราในช่วง4วัน3คืนจากนี้ไป
สถานที่จะมีการเล่นสเตป และอุดมไปด้วยต้นไม้(ที่ไม่รก) และหินกรวดเม็ดใหญ่ๆที่ใช้ในการตกแต่ง
ลักษณะที่พักจะเป็นอาคารทรงร่วมสมัยสองชั้น สองอาคารวางขนาบอยู่กับสระว่ายน้ำที่เด่นเป็นไข่แดงอยู่
ตรงกลาง
...ผมพักห้องนี้ครับ ...แฮ่ ^^
มุมมองจากห้องพักครับ สระว่ายน้ำของที่นี่คือจุดศูนย์กลางเลย ไปไหนมาไหนก็ต้องผ่านสระว่ายน้ำ เด็กๆ
พร้อมลงน้ำกันแล้ว
วันแรกที่มาถึงนี้ ฝนก็ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตามาตั้งแต่กรุงเทพยันปากน้ำปราณ แต่เทพีแห่งโชคยังเข้าข้างอยู่บ้างครับ
พอมาถึงฝนก็หายเหลือแต่ความครึ้ม
ออกเดินสำรวจชายหาดหน้าห้อง (ก็ระยะเดินไม่กี่ก้าวนั่นแหละครับ ^^ ) ด้านขวามีภูเขา น่าจะเขากระโหลก
และก็ตามธรรมชาติของชายหาดปราณบุรีน่ะครับ คือน้ำอาจจะไม่ใสมากมายอะไรนัก แต่ส่วนทรายนี่เม็ดละเอียดนุ่มเท้าดีนักแล
มุมมองประเสบันจากด้านทะเล ทำให้ผมมีเรื่องที่สงสัยมานานแล้วว่าทำไมทุกๆแห่ง(ที่นี่)ถึงไม่มีชื่อสถานที่
ในมุมด้านที่หันหน้าออกทะเล
เวลาเดินทอดน่องท่องน้ำผ่านไปเห็นรีสอร์ทสวยๆ ต้องใช้เวิร์บทูเดาเอาเท่านั้น ว่าน่าจะเป็นรีสอร์ทไหนโดย
เดาเอาจากการดีไซน์ที่ด้านหน้า
ขากลับลองเดินขึ้นอีกด้านปีกหนึ่งของสระว่ายน้ำ (ไข่แดง) ฮาาา
ทางเดินซีกนี้เป็นไม้หมอนรถไฟปูยาวไปต่างจากฟากโน้นที่เป็นทรายล้างสลับกรวดแม่น้ำ
ทางขึ้นชั้น2 ลองแอบแวะขึ้นไปซนดูกันไม๊ครับ ^^ แฮ่
ชะโงกมองก็เห็นสีเขียวๆของใบไม้และสระว่ายน้ำให้รู้สึกสดชื่น ส่วนข้างบนนี้ มีผู้พักท่านอื่นอยู่คิดว่าไม่สมควรที่จะถ่ายภาพ ลงกันดีกว่า...
ตรงดิ่งจากชั้น2 ก็ยังจะตรงไปยังสระว่ายน้ำอยู่ดี (สมใจเด็กๆเขาดีนักแล)
ลองย้อนเดินออกมาทางด้านหน้าของรีสอร์ทบ้าง ส่วนใหญ่จะตกแต่งได้สวยงามลงตัวและร่วมสมัย
ลองย้อนมองกลับไป สระว่ายน้ำยังคงจะเป็นพระเอกอยู่ดีครับ ฮาาาา
ที่นี่จะมีห้องพักให้บริการทั้งหมด 14 ห้อง การออกแบบของแต่ละห้องจะไม่เหมือนกันต่างก็มีเอกลักษณ์
เฉพาะตัว อย่างที่เห็นในภาพนี้จะเป็นอาคารหลังเดียวโดดๆที่อยู่หน้าสุดของรีสอร์ท
และทุกๆแห่งจะมีคุณตุ๊กตาบาหลีเป็นหินทรายทัดดอกลั่นทมที่หูซ้ายคอยนั่งต้อนรับอยู่แทบทุกมุมมอง
บางท่านก็กรำแดดกรำฝนคอยถือร่มอำนวยความสุขให้เรา ว่ากันว่ามีทั้งหมด20ตัว และมีเพียงเท่านี้เพราะหลังจากทำเสร็จก็ทำการทุบแม่พิมพ์เสียสิ้นซากแล้ว!!
ห้องพักทุกห้องจะมีระเบียงใหญ่ให้นั่งทอดหุ่ยชิลๆ นั่งดื่มรับลมทะเลฟังเสียงกระซิบจากเกลียวคลื่นกันได้
เต็มที่ทุกห้องเป็น Sea view
บรรยากาศสบายชวนให้เล่นน้ำจริงๆเลยครับ
ลูกสาวคนเล็กผมก็เล่นน้ำไม่เลิก เล่นอยู่3วันเต็มๆ เล่นจนผมรู้สึกได้ในวันเดินทางกลับว่าแกเริ่มหายใจทาง
เหงือก
สระน้ำที่นี่ออกแบบมาให้เป็นแบบ infinity edge ไร้รอยต่อทอเป็นผืนไปกับท้องฟ้าและท้องทะเล....
ส่วนลูกสาวคนโตก็ง่วนเล่นแต่ทราย ตากแดดวิ่งไล่จับปูลม
จนแกหลับไป...อันนี้นั้นหลับจริงๆครับ
สลับฉากพักสายตากับภาพดอกไม้ให้พอได้ชื่นใจ
เดินมามากแล้ว ก็ชักอยากจะดื่มกาแฟ ก็เดินไปสั่งได้เลยครับในส่วนของห้องอาหาร
สบายๆจิบกาแฟเคล้าเสียงคลื่น...ริมสระข้างๆทะเล
ตื่นเช้ามาอีกวันก็มีนัดกันที่ห้องอาหารครับ อาหารเช้าที่นี่จะไม่ใช่บุฟเฟท์
แต่จะเป็นแบบ A La Carte ซึ่งก็มีเมนูให้เลือกอยู่ไม่กี่อย่าง ก็ ข้าวตัม สปาเก็ตตี้ อเมริกันเบรคฟาสต์ เป็น
อาทิ
ผมอยู่กัน4วัน3คืน ไปกัน4คนก็ทานกันจนครบเมนูแหละครับ แต่ก็มาตายด้วยเมนูนี้ ABF เพราะพอขอให้ทาง
เค้าทอดเบคอนให้กรอบๆหน่อยนี่อร่อยมากเลยครับ คิดถึงร้านโฮมเบอร์เกอร์ แถวสยามสแควร์เลยครับ(ใคร
ทันม่างเนี่ย) ^^
ส่วนเมนูนี้ลูกสาวคนโตผมโปรด
ปิดท้ายในแต่ละเช้าด้วยผลละไม้คนละจาน สี่คนก็สี่จาน ทานไม่หมดก็ขอเค้ายกไปแช่ตู้เย็นทานต่อในห้อง
ด้วยห้องพักของผมเอง ไม่ทันได้ทำอะไรสองสาวผมก็ลุยจนเละโดยที่ยังไม่ทันได้เก็บภาพไว้ เลยต้องขอ
อนุเคราะห์จากคุณต้น ผจก.เปิดห้องอื่นให้ถ่าย ฮาาา
ห้องนี้จะเป็นห้องทางปีกขวาของสระว่ายน้ำ มีลักษณะพิเศษคือเป็นห้องหลังเดี่ยวๆโดดๆหันหน้าออกทะเล
ดุ่มๆ
มีประตูเข้าออกสองทาง ลมเข้าด้านหน้าแล้วผ่านออกด้านข้าง โฟลว์สุดๆครับอากาศ
ห้องนี้อาจจะดูว่าเล็กไปเสียหน่อย แต่ให้จับตาดูประตูบานนี้ให้ดีนะครับ เพราะหลังบานนี้มีอะไรซ่อนอยู่
บ้าง(นอกจากห้องน้ำ)
ก็ห้องน้ำนั่นแหละครับที่จะพบ หลังจากที่เราสไลด์บานประตูเลื่อนออก
แต่แหมมันไม่ได้จบแค่นั้นสิครับ เพราะในห้องนี้มีประตูซ่อนอีกหนึ่งบาน พอเปิดทะลุเข้าไปก็จะเจออีกห้อง
หนึ่งซึ่งเป็นห้องอาบน้ำแบบมีอ่าง
ชอบสีผนังของที่นี่จริงๆเลยครับ ผมถ่ายกลับมาบ้านแทบทุกผนังเลย
พอแล้ว กลับดีกว่า ไม่ใช่ห้องเรา ^^
กลับมานั่งที่ห้องรอเวลาไปหาร้านซีฟู๊ดทานทั้งโอเอ๊กซ์ ทั้งอุดม รอเราอยู่ หลังจากนั้นก็จะเข้าตัวเมืองหัวหิน
ไปเดินตลาดโต้รุ่งกัน
ทางฝั่งนี้เราจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นนะครับ ไม่เหมือนทางฟากพัทยาที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ตก
นับว่าเป็นทริปที่ประทับใจทริปหนึ่ง และเป็นทริปที่นั่งทอดหุ่ยอยู่ในที่พักมากที่สุด ไม่ใช่เพราะว่าฝนตกนะครับ
เพราะนับตั้งแต่วินาทีที่เข้าพักฝนแทบจะไม่มีให้เห็นเลย อากาศสบายจะเจอน้องฝนอีกทีก็ตอนเข้ากทม.แล้ว
เท่านั้น
ผมว่าที่นี่บรรยากาศควรค่าน่าพักผ่อนจริงๆครับ พนักงานล้วนสุภาพนอบน้อมทุกท่านพร้อมจะยินดีและเต็มใจ
บริการแขกจริง
สมกับชื่อของสถานที่ ประเสบัน ที่แปลว่า สถานที่สำหรับต้อนรับอาคันตุกะและแขกผู้มาเยือนอย่างสมเกียรติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประเสบัน(ชว. ปะระสบัน) น. ท้องพระโรงเป็นชุมนุม กลางที่ออกขุนนางหรือทำพิธีต่างๆ เป็นที่ใหญ่ มีระเบียง เฉลียง ที่เฝ้าของขุนนาง ที่รับแขกเมือง และเป็นที่พักของแขกเมืองผู้มีเกียรติด้วย มีอยู่ ทุกเมืองทางชวา มลายูก็มีเช่นเดียวกัน แต่เรียกชื่อต่างกันเป็น บาไลบ้าง บาไลป
ผมพักที่ห้อง Maarataar Deluxe ในราคา 3XXX/คืน ซึ่งผมว่าไม่แพงนะครับกับสิ่งที่ได้รับมา
ปิดเทอมหน้า คาดว่าจะได้เจอกันอีก ...ถ้าผมไม่ปันใจไปเสียก่อน
ขอได้รับความคาราวะจากผมนายยอร์ช
www.facebook.com/9george ครับ ^^
[CR] >> ประเสบัน ฉันสะดวก ฉันสงบ ฉันสะดวก ฉันสบาย ฉันชอบ <<
เป็นครั้งที่3หรือ4แล้วครับที่ได้มาพักผ่อน ณ ปราณบุรี
ซึ่งทุกๆครั้งที่มาพักก็ไม่เคยจะมีเลยแม้นสักเพียงครั้งเดียวที่จะพักซ้ำที่ซ้ำรอยเดิม คราวนี้ก็เช่นกันครับ ....
ปิดเทอมนี้ก็มีวาระที่ต้องพาเด็กๆไปเที่ยวกัน แต่ก็ตั้งท่ารั้งรอกันอยู่นานโดยคิดว่าน่าจะรอให้ฝนหายขาดเม็ด
สะเด็ดก้นกบกันไปก่อน
แล้วจะค่อยไปกัน แต่ก็เฝ้าแต่รอ ร๊อ รอ รอกันจนใกล้จะเปิดเทอมเต็มแก่แล้ว
น้องฝนก็มาเยือนมิเคยขาดเลยตัดสินใจไปละเหวย ไปละวา กันซักคราในวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่งก่อนหน้านั้นก็
วางเข็มไว้อยู่แล้ว
ว่าจะไปพักกันอยู่แถวๆ ปากน้ำปราณ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
หาข้อมูลจนมาจบที่นี่ "ประเสบัน รีสอร์ท" โดยเลือกจิ้มเอาจากคะแนนที่ดูแล้วค่อนข้างสูงใน
เวปต่างๆ (82%) ...
ซึ่งก็ไม่ผิดหวังครับ อยู่ไม่ไกลจาก"หัวปลี"ที่เคยพักเมื่อคราวก่อน สถานที่เข้าออกง่ายเพราะอยู่ติดถนนไม่
ต้องเข้าซอย
จอดรถหน้ารีสอร์ทแล้วเดินตัวปลิวเข้าไปเช็คอินได้เลย ......
ประเสบันยืนนิ่งอย่างสงบ ยิ้มแย้มพร้อมต้อนรับเราอยู่แล้ว ณ ริมทะเลปราณบุรี
สถานที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมแนวศิลปะร่วมสมัย ไทย-บาหลี คนกันจนเข้ากันได้ดี
ดูหรูหรา แต่ก็ผ่อนคลาย เป็นกันเองแต่ก็ยังดูส่วนตัว
ส่วนของการต้อนรับแรกครับ เข้าเช็คอินพร้อมเวลล์คัมดริ้ง (น้ำสมุนไพรเบาๆ)
หลุดจากส่วนของรับประทานอาหารนี่ไปแหละครับ จะเป็นที่พักของเราในช่วง4วัน3คืนจากนี้ไป
สถานที่จะมีการเล่นสเตป และอุดมไปด้วยต้นไม้(ที่ไม่รก) และหินกรวดเม็ดใหญ่ๆที่ใช้ในการตกแต่ง
ลักษณะที่พักจะเป็นอาคารทรงร่วมสมัยสองชั้น สองอาคารวางขนาบอยู่กับสระว่ายน้ำที่เด่นเป็นไข่แดงอยู่
ตรงกลาง
...ผมพักห้องนี้ครับ ...แฮ่ ^^
มุมมองจากห้องพักครับ สระว่ายน้ำของที่นี่คือจุดศูนย์กลางเลย ไปไหนมาไหนก็ต้องผ่านสระว่ายน้ำ เด็กๆ
พร้อมลงน้ำกันแล้ว
วันแรกที่มาถึงนี้ ฝนก็ตกอย่างไม่ลืมหูลืมตามาตั้งแต่กรุงเทพยันปากน้ำปราณ แต่เทพีแห่งโชคยังเข้าข้างอยู่บ้างครับ
พอมาถึงฝนก็หายเหลือแต่ความครึ้ม
ออกเดินสำรวจชายหาดหน้าห้อง (ก็ระยะเดินไม่กี่ก้าวนั่นแหละครับ ^^ ) ด้านขวามีภูเขา น่าจะเขากระโหลก
และก็ตามธรรมชาติของชายหาดปราณบุรีน่ะครับ คือน้ำอาจจะไม่ใสมากมายอะไรนัก แต่ส่วนทรายนี่เม็ดละเอียดนุ่มเท้าดีนักแล
มุมมองประเสบันจากด้านทะเล ทำให้ผมมีเรื่องที่สงสัยมานานแล้วว่าทำไมทุกๆแห่ง(ที่นี่)ถึงไม่มีชื่อสถานที่
ในมุมด้านที่หันหน้าออกทะเล
เวลาเดินทอดน่องท่องน้ำผ่านไปเห็นรีสอร์ทสวยๆ ต้องใช้เวิร์บทูเดาเอาเท่านั้น ว่าน่าจะเป็นรีสอร์ทไหนโดย
เดาเอาจากการดีไซน์ที่ด้านหน้า
ขากลับลองเดินขึ้นอีกด้านปีกหนึ่งของสระว่ายน้ำ (ไข่แดง) ฮาาา
ทางเดินซีกนี้เป็นไม้หมอนรถไฟปูยาวไปต่างจากฟากโน้นที่เป็นทรายล้างสลับกรวดแม่น้ำ
ทางขึ้นชั้น2 ลองแอบแวะขึ้นไปซนดูกันไม๊ครับ ^^ แฮ่
ชะโงกมองก็เห็นสีเขียวๆของใบไม้และสระว่ายน้ำให้รู้สึกสดชื่น ส่วนข้างบนนี้ มีผู้พักท่านอื่นอยู่คิดว่าไม่สมควรที่จะถ่ายภาพ ลงกันดีกว่า...
ตรงดิ่งจากชั้น2 ก็ยังจะตรงไปยังสระว่ายน้ำอยู่ดี (สมใจเด็กๆเขาดีนักแล)
ลองย้อนเดินออกมาทางด้านหน้าของรีสอร์ทบ้าง ส่วนใหญ่จะตกแต่งได้สวยงามลงตัวและร่วมสมัย
ลองย้อนมองกลับไป สระว่ายน้ำยังคงจะเป็นพระเอกอยู่ดีครับ ฮาาาา
ที่นี่จะมีห้องพักให้บริการทั้งหมด 14 ห้อง การออกแบบของแต่ละห้องจะไม่เหมือนกันต่างก็มีเอกลักษณ์
เฉพาะตัว อย่างที่เห็นในภาพนี้จะเป็นอาคารหลังเดียวโดดๆที่อยู่หน้าสุดของรีสอร์ท
และทุกๆแห่งจะมีคุณตุ๊กตาบาหลีเป็นหินทรายทัดดอกลั่นทมที่หูซ้ายคอยนั่งต้อนรับอยู่แทบทุกมุมมอง
บางท่านก็กรำแดดกรำฝนคอยถือร่มอำนวยความสุขให้เรา ว่ากันว่ามีทั้งหมด20ตัว และมีเพียงเท่านี้เพราะหลังจากทำเสร็จก็ทำการทุบแม่พิมพ์เสียสิ้นซากแล้ว!!
ห้องพักทุกห้องจะมีระเบียงใหญ่ให้นั่งทอดหุ่ยชิลๆ นั่งดื่มรับลมทะเลฟังเสียงกระซิบจากเกลียวคลื่นกันได้
เต็มที่ทุกห้องเป็น Sea view
บรรยากาศสบายชวนให้เล่นน้ำจริงๆเลยครับ
ลูกสาวคนเล็กผมก็เล่นน้ำไม่เลิก เล่นอยู่3วันเต็มๆ เล่นจนผมรู้สึกได้ในวันเดินทางกลับว่าแกเริ่มหายใจทาง
เหงือก
สระน้ำที่นี่ออกแบบมาให้เป็นแบบ infinity edge ไร้รอยต่อทอเป็นผืนไปกับท้องฟ้าและท้องทะเล....
ส่วนลูกสาวคนโตก็ง่วนเล่นแต่ทราย ตากแดดวิ่งไล่จับปูลม
จนแกหลับไป...อันนี้นั้นหลับจริงๆครับ
สลับฉากพักสายตากับภาพดอกไม้ให้พอได้ชื่นใจ
เดินมามากแล้ว ก็ชักอยากจะดื่มกาแฟ ก็เดินไปสั่งได้เลยครับในส่วนของห้องอาหาร
สบายๆจิบกาแฟเคล้าเสียงคลื่น...ริมสระข้างๆทะเล
ตื่นเช้ามาอีกวันก็มีนัดกันที่ห้องอาหารครับ อาหารเช้าที่นี่จะไม่ใช่บุฟเฟท์
แต่จะเป็นแบบ A La Carte ซึ่งก็มีเมนูให้เลือกอยู่ไม่กี่อย่าง ก็ ข้าวตัม สปาเก็ตตี้ อเมริกันเบรคฟาสต์ เป็น
อาทิ
ผมอยู่กัน4วัน3คืน ไปกัน4คนก็ทานกันจนครบเมนูแหละครับ แต่ก็มาตายด้วยเมนูนี้ ABF เพราะพอขอให้ทาง
เค้าทอดเบคอนให้กรอบๆหน่อยนี่อร่อยมากเลยครับ คิดถึงร้านโฮมเบอร์เกอร์ แถวสยามสแควร์เลยครับ(ใคร
ทันม่างเนี่ย) ^^
ส่วนเมนูนี้ลูกสาวคนโตผมโปรด
ปิดท้ายในแต่ละเช้าด้วยผลละไม้คนละจาน สี่คนก็สี่จาน ทานไม่หมดก็ขอเค้ายกไปแช่ตู้เย็นทานต่อในห้อง
ด้วยห้องพักของผมเอง ไม่ทันได้ทำอะไรสองสาวผมก็ลุยจนเละโดยที่ยังไม่ทันได้เก็บภาพไว้ เลยต้องขอ
อนุเคราะห์จากคุณต้น ผจก.เปิดห้องอื่นให้ถ่าย ฮาาา
ห้องนี้จะเป็นห้องทางปีกขวาของสระว่ายน้ำ มีลักษณะพิเศษคือเป็นห้องหลังเดี่ยวๆโดดๆหันหน้าออกทะเล
ดุ่มๆ
มีประตูเข้าออกสองทาง ลมเข้าด้านหน้าแล้วผ่านออกด้านข้าง โฟลว์สุดๆครับอากาศ
ห้องนี้อาจจะดูว่าเล็กไปเสียหน่อย แต่ให้จับตาดูประตูบานนี้ให้ดีนะครับ เพราะหลังบานนี้มีอะไรซ่อนอยู่
บ้าง(นอกจากห้องน้ำ)
ก็ห้องน้ำนั่นแหละครับที่จะพบ หลังจากที่เราสไลด์บานประตูเลื่อนออก
แต่แหมมันไม่ได้จบแค่นั้นสิครับ เพราะในห้องนี้มีประตูซ่อนอีกหนึ่งบาน พอเปิดทะลุเข้าไปก็จะเจออีกห้อง
หนึ่งซึ่งเป็นห้องอาบน้ำแบบมีอ่าง
ชอบสีผนังของที่นี่จริงๆเลยครับ ผมถ่ายกลับมาบ้านแทบทุกผนังเลย
พอแล้ว กลับดีกว่า ไม่ใช่ห้องเรา ^^
กลับมานั่งที่ห้องรอเวลาไปหาร้านซีฟู๊ดทานทั้งโอเอ๊กซ์ ทั้งอุดม รอเราอยู่ หลังจากนั้นก็จะเข้าตัวเมืองหัวหิน
ไปเดินตลาดโต้รุ่งกัน
ทางฝั่งนี้เราจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นนะครับ ไม่เหมือนทางฟากพัทยาที่จะได้เห็นพระอาทิตย์ตก
นับว่าเป็นทริปที่ประทับใจทริปหนึ่ง และเป็นทริปที่นั่งทอดหุ่ยอยู่ในที่พักมากที่สุด ไม่ใช่เพราะว่าฝนตกนะครับ
เพราะนับตั้งแต่วินาทีที่เข้าพักฝนแทบจะไม่มีให้เห็นเลย อากาศสบายจะเจอน้องฝนอีกทีก็ตอนเข้ากทม.แล้ว
เท่านั้น
ผมว่าที่นี่บรรยากาศควรค่าน่าพักผ่อนจริงๆครับ พนักงานล้วนสุภาพนอบน้อมทุกท่านพร้อมจะยินดีและเต็มใจ
บริการแขกจริง
สมกับชื่อของสถานที่ ประเสบัน ที่แปลว่า สถานที่สำหรับต้อนรับอาคันตุกะและแขกผู้มาเยือนอย่างสมเกียรติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมพักที่ห้อง Maarataar Deluxe ในราคา 3XXX/คืน ซึ่งผมว่าไม่แพงนะครับกับสิ่งที่ได้รับมา
ปิดเทอมหน้า คาดว่าจะได้เจอกันอีก ...ถ้าผมไม่ปันใจไปเสียก่อน
ขอได้รับความคาราวะจากผมนายยอร์ช www.facebook.com/9george ครับ ^^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น