เข้าสู่รอบ Battle สัปดาห์ที่ 2 กลับมา Review ความรู้สึกที่มีต่อแต่ละคู่เช่นเคยครับ
ทีมคิ้ม: กีต้าร์ vs. เฟรชชี่
เพลง Counting Star (One Republic)
เจ๊คิ้มโยนโจทย์ยากให้เด็กอีกละ 555 แต่นี่ยังถือว่าปราณี ถ้าเป็นปีก่อนคงให้ร้องเวอร์ชั่นแบบต้นฉบับ หรือเวอร์ชั่นที่อลังการกว่านี้ แต่ปีนี้เจ๊คิ้มแกไม่ฝืนลูกทีมตัวเองมาก Counting Star เวอร์ชั่นนี้จึงทำมาในแบบที่ซอฟท์ลงมามาก ให้เหมาะกับทั้ง 2 คนที่มาในสายแนว Pop ไม่ได้เน้น Rock หรือหนักๆ แบบต้นฉบับ ซึ่งเจ๊คิ้มคิดถูก มันอาจจะเป็น Counting Star เวอร์ชั่นที่ไม่ดุดัน บางคนบอกแบ๊วๆ แต่โดยรวมแล้วออกมาดีในแบบของพวกเขาทั้งสองก็พอแล้ว ชอบไลน์ประสานของเพลงนี้ ส่วนท่อนแรกให้กีต้าร์เหนือกว่า เพราะสามารถใส่เทคนิคและความเป็นตัวเองลงไปในเพลงได้มากกว่า ขณะที่เฟรชชี่ดูเรียบๆ ไม่สามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับท่อนตัวเองได้สักเท่าไหร่ แม้กระทั่งท่อนกึ่งแร๊พที่เคยเป็นจุดเด่นของเฟรชชี่ตอนรอบ Blind พอมา Battle ก็กลายเป็นกีต้าร์ที่ทำได้ดีกว่าในท่อนนี้แทน
ทีมโจอี้: ปราง vs. ต้าร์
เพลง Music Lover (มาช่า)
มาจากสายลูกทุ่งด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็ตามสไตล์โจอี้ บอย จะให้ลูกทุ่งเฉยๆ ก็กระไรอยู่ เลยเอาเพลง Pop สนุกๆ มาให้ร้องแบบลูกทุ่งเสียเลย ปรางนั้นมีจุดเด่นตรงลูกเอื้อนและเนื้อเสียงที่เพราะกว่า ให้อารมณ์แบบลูกทุ่งสม้ยก่อนเลย ขณะที่ต้าร์ก็มีจุดเด่นตรงลูกคอ และเป็นต้าร์ที่ส่วนตัวมองว่าทำได้ดีกว่า เหตุผลเพราะรู้สึกว่าต้าร์สนุกไปกับตัวเพลงได้มากกว่า และยังรู้สึกว่าต้าร์สามารถเกาะกุมความเป็นลูกทุ่งในตัวเพลงไปได้ตลอด ขณะที่ปรางค์มีความรู้สึกว่าหลายช่วงหลุดจากลูกทุ่งไปเป็น Music Lover แบบต้นฉบับอยู่ แต่ในเรื่องเทคนิคอันนี้ยอมรับว่าปรางเหนือกว่า คู่นี้ถ้าให้เลือกเองก็เลือกต้าร์ แต่ก็เคารพการตัดสินใจของโค้ชโจอี้นะ อย่างน้อยก็โชคดีที่โค้ชก้อง Steal ต้าร์ไป
ทีมคิ้ม: อาร์ต vs. หนุ่ม
เพลง ไม่อาจเปลี่ยนใจ (เจมส์ เรืองศักดิ์)
คนหนึ่งรอบ Blind ไม่มีหนวด รอบ Battle มีหนวด อีกคนรอบ Blind มีหนวด แต่รอบ Battle หนวดหาย คู่นี้เสียงหนุ่มขึ้นมานี่แบบ เฮ้ย..เสียงหล่อมากอะ และหล่อแบบนี้ไปทั้งเพลงด้วย คือเทคนิคหรืออินเนอร์อะไรอาจจะยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ แต่เสียงนี่แบบต้องยอมเลย ขณะที่อาร์ตดูธรรมดาไปเลย แม้จะมีบางช่วง บางท่อนที่เปิดให้สามารถโชว์เทคนิคได้ แต่ก็ยังทำได้ไม่ถึงเท่าไหร่ เพลงนี้คิดว่าทั้งคู่น่าจะทำได้ดีกว่านี้นะ ที่เป็นอยู่ก็ถือว่าโอเคเลย แต่สามารถเพราะได้มากกว่านี้อีก อาจเพราะมันเน้นความนุ่มจนไม่มีจุดพีคอะไร อย่างไรก็ตาม แววของหนุ่มก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อาจต้องไปขุด ไปเกลาเรื่องเทคนิคและอินเนอร์อีกสักนิด จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว
ทีมแสตมป์: บอลล่า – จูโน่ vs. อุณ – อาร์ม
เพลง บูมเมอแรง (เบิร์ด ธงไชย)
คู่หูกระท่อม ปะทะ คู่หูพรีเดเตอร์ เป็นการ Battle แบบคู่ปะทะคู่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ทีมก้องเคยทำไปแล้วตอนซีซั่น 1 ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า เหตุผลที่ The Voice เปิดโอกาสให้มีการเข้าแข่งขันแบบคู่ได้ เพราะต้องการให้โชว์เสียงแบบ “ประสาน” ดังนั้นการจะดูว่าคู่ไหนทำได้ดีแค่ไหน ไม่ใช่ดูที่เสียงคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องดูไลน์ประสานที่ทั้ง 2 คนร้องร่วมกัน แล้วยิ่งการ Battle นี้เป็นแบบคู่ปะทะคู่ด้วย เกณฑ์การตัดสินจึงอยู่ที่ว่าคู่ไหนทำไลน์ประสานได้ดีกว่ากัน ถ้าสมมติไม่แข่งเป็นคู่ แต่แข่งแบบเดี่ยวๆ 4 คน อาร์มจะเป็นผู้ชนะ เพราะเสียงเพราะสุด จังหวะ เทคนิคอะไรก็ตามดีหมด แต่อย่าลืมนี่คือการแข่งแบบคู่ และปรากฎว่าพอประสานมาแล้วคู่กระท่อมกับมีเสียงประสานที่เพราะกว่า ลูกเล่นมากกว่า ในขณะที่คู่พรีเดเตอร์กลายเป็นอาร์มที่โดดมาคนเดียว โดยมีแค่อุณคอยคลอๆ อยู่ ซึ่งตรงนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเพราะปกติอุณจะรับหน้าที่เป็นเพียงแค่กีต้าร์อย่างเดียว ขณะที่บอลล่า – จูโน่ ประสานกันเป็นประจำ เมื่อโจทย์คือการประสาน ก็ต้องดูที่การประสาน ยิ่งโชว์นี้แสตมป์ครีเอทออกมาให้โชว์การประสานแบบเต็มๆ ทั้งเสียงหลักเสียงคอรัสด้วย และก็เป็นคู่กระท่อมที่ทำได้ดีกว่า ก็สมควรที่จะชนะไป ไม่มีอะไรน่ากังขา นอกเสียจากใจอยากจะกังขาเอง
ทีมก้อง: บอม vs. นาถ
เพลง: หนึ่งมิตรชิดใกล้ (Isn’t)
โค้ชก้องน่ากลัวตรงไหนรู้มั้ย… น่ากลัวตรงที่นอกจากจะตัวเองจะแม่ยกเยอะ แล้วยังรู้วิธีสร้างแม่ยกให้กับลูกทีมตัวเองอีก ซึ่งบอมก็คือหนึ่งในนั้น จบ Battle นี้ไป แม่ยกเพียบแน่ เพลงนี้นี่เอื้อบอมมากทีเดียว และบอมก็ทำได้ดีมากด้วย ทั้งน้ำเสียง จังหวะ อะไร เทคนิคดีหมด ขณะที่ฝั่งนาถ แม้อาจเสียเปรียบนิดหน่อยตรงเพลงนี้คีย์ผู้ชายอย่างที่โค้ชว่าไว้ แต่เนื้อเสียงใสๆ ของเธอก็ช่วยให้เธอไม่ถูกบอมกลบมากนัก (ตอนรอบ Blind เคยเห็น Comment ว่านาถเสียงเหมือนมาช่า ซึ่งเห็นด้วยเลย) แต่สิ่งหนึ่งที่นาถอาจจะยังมีปัญหาอยู่ก็คือ การควบคุมความตื่นเต้นและการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองบนเวทีนี่แหละ แต่อย่างน้อยก็ถือว่าดีขึ้นจากตอนรอบ Blind ที่หน้านิ่งกันเลยทีเดียว ดีใจที่แสตมป์ Steal ไป ส่วนบอมนี่ต้องคอยดูว่ารอบต่อไปจะให้ร้องสไตล์แบบไหน เพราะตอนนี้ผ่านมา 2 รอบยังเป็นแนวเพลงช้าๆ เก่าๆ อยู่ ถ้าโค้ชก้องสามารถเพิ่มความหลากหลาย และลูกเล่นลีลาให้กับบอมได้ นี่จะน่ากลัวมากเลยทีเดียว
ทีมโจอี้: หยก vs. บิว
เพลง รุนแรงเหลือเกิน (ไมโคร)
ก่อนแข่งก็คิดว่าบิวคงชนะได้สบายๆ แต่พอร้องไปเรื่อยๆ เฮ้ย ไม่ใช่แฮะ กลายเป็นชอบหยกมากกว่า การถ่ายทอดของหยกนี่เป็นความรุนแรงเหมือนโดนค้อนขนาดใหญ่ทุบใช้ช้ำในตาย ขณะที่การถ่ายทอดแบบบิวเป็นความรุนแรงเหมือนโดนเอามีดเล็กๆ ทิ่มแทง แต่แทงหลายๆ ครั้งจนตาย ที่ชอบหยกมากกว่าเพราะรู้สึกว่า บิวรีบร้อนแทงเลย ขณะที่หยกค่อยๆ ปล่อยเรื่อยๆ จนมาพีคตรงช่วงท้าย แต่บิวช่วงแรกๆ ก็ปล่อยเลย ยิ่งหน้าตา ลีลานี่ไปเต็ม เต็มเกินไปด้วยซ้ำ คือท่านี่เจ็บปวดมาก แต่เสียงกลับไม่เจ็บปวดเท่า จนบางทีก็อึดอัดแทน ว่าไปก็คล้ายๆ ตอน Battle เก่ง vs. นัท ซีซั่นแรก ที่เก่งใช้ลีลาและลูกเล่นมาสู้พลังของอีกฝ่าย ซึ่งตามสไตล์ของโค้ชโจอี้ที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ ก็ไม่แปลกใจที่จะเลือกบิวให้เข้าไป แต่ส่วนตัวคู่นี้ทึ่งกับหยกมากกว่านะ
ภาพรวม
ก็คล้ายๆ กับ Battle สัปดาห์ก่อน คือปีนี้ Battle จะออกมาแนวกลางๆ โค้ช ผู้เข้าแข่งขันระวังตัวกันมากขึ้น ข้อดีคือ โชว์โอเคทุกโชว์ ไม่มีแบบหายนะ แต่ข้อเสียก็คือมันอาจไม่มีโชว์ที่พีคโดดเด่นขึ้นมาก สำหรับสัปดาห์นี้ชอบสุดคือคู่กระท่อม vs. พรีเดเตอร์ ในเพลง “บูมเมอแรง” ชอบการดีไซน์ตัวเพลงให้เหมาะกับการแข่งไลน์ประสานได้ และก็ทำออกมาได้ดีด้วยกัน
ป.ล. ปีนี้ทีมคิ้มมีพัฒนาการอย่างชัดเจน เอาใจช่วยอยู่ห่างๆ อดคิดถึงช่วงสักเดือนที่แล้ว มีกระทู้ตั้งเรียกร้องให้แกออกจากรายการ คำก็ห่วย สองคำก็ห่วย สามคำก็ห่วย ทั้งที่รายการเพิ่งออกไปไม่กี่อาทิตย์ พอคิดย้อนกลับไปจากตอนนี้แล้วก็ขำๆ นะ
ป.ล. 2 ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดราม่าเยอะมาก คือคู่นั้นส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยนะ แต่เราก็ยอมรับกับคำตัดสินใจของโค้ช อย่างน้อยจะวิพากษ์ วิจารณ์อะไร ก็ขอให้อยู่ในขอบเขตของการวิพากษ์วิจารณ์ ติเพื่อก่อนะครับ เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ กับ การเหยียบย่ำซ้ำเติม มันคนละเรื่องกัน
[Review] The Voice Thailand 3: Battle Round 2nd Week – 26/10/13
ทีมคิ้ม: กีต้าร์ vs. เฟรชชี่
เพลง Counting Star (One Republic)
เจ๊คิ้มโยนโจทย์ยากให้เด็กอีกละ 555 แต่นี่ยังถือว่าปราณี ถ้าเป็นปีก่อนคงให้ร้องเวอร์ชั่นแบบต้นฉบับ หรือเวอร์ชั่นที่อลังการกว่านี้ แต่ปีนี้เจ๊คิ้มแกไม่ฝืนลูกทีมตัวเองมาก Counting Star เวอร์ชั่นนี้จึงทำมาในแบบที่ซอฟท์ลงมามาก ให้เหมาะกับทั้ง 2 คนที่มาในสายแนว Pop ไม่ได้เน้น Rock หรือหนักๆ แบบต้นฉบับ ซึ่งเจ๊คิ้มคิดถูก มันอาจจะเป็น Counting Star เวอร์ชั่นที่ไม่ดุดัน บางคนบอกแบ๊วๆ แต่โดยรวมแล้วออกมาดีในแบบของพวกเขาทั้งสองก็พอแล้ว ชอบไลน์ประสานของเพลงนี้ ส่วนท่อนแรกให้กีต้าร์เหนือกว่า เพราะสามารถใส่เทคนิคและความเป็นตัวเองลงไปในเพลงได้มากกว่า ขณะที่เฟรชชี่ดูเรียบๆ ไม่สามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับท่อนตัวเองได้สักเท่าไหร่ แม้กระทั่งท่อนกึ่งแร๊พที่เคยเป็นจุดเด่นของเฟรชชี่ตอนรอบ Blind พอมา Battle ก็กลายเป็นกีต้าร์ที่ทำได้ดีกว่าในท่อนนี้แทน
ทีมโจอี้: ปราง vs. ต้าร์
เพลง Music Lover (มาช่า)
มาจากสายลูกทุ่งด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็ตามสไตล์โจอี้ บอย จะให้ลูกทุ่งเฉยๆ ก็กระไรอยู่ เลยเอาเพลง Pop สนุกๆ มาให้ร้องแบบลูกทุ่งเสียเลย ปรางนั้นมีจุดเด่นตรงลูกเอื้อนและเนื้อเสียงที่เพราะกว่า ให้อารมณ์แบบลูกทุ่งสม้ยก่อนเลย ขณะที่ต้าร์ก็มีจุดเด่นตรงลูกคอ และเป็นต้าร์ที่ส่วนตัวมองว่าทำได้ดีกว่า เหตุผลเพราะรู้สึกว่าต้าร์สนุกไปกับตัวเพลงได้มากกว่า และยังรู้สึกว่าต้าร์สามารถเกาะกุมความเป็นลูกทุ่งในตัวเพลงไปได้ตลอด ขณะที่ปรางค์มีความรู้สึกว่าหลายช่วงหลุดจากลูกทุ่งไปเป็น Music Lover แบบต้นฉบับอยู่ แต่ในเรื่องเทคนิคอันนี้ยอมรับว่าปรางเหนือกว่า คู่นี้ถ้าให้เลือกเองก็เลือกต้าร์ แต่ก็เคารพการตัดสินใจของโค้ชโจอี้นะ อย่างน้อยก็โชคดีที่โค้ชก้อง Steal ต้าร์ไป
ทีมคิ้ม: อาร์ต vs. หนุ่ม
เพลง ไม่อาจเปลี่ยนใจ (เจมส์ เรืองศักดิ์)
คนหนึ่งรอบ Blind ไม่มีหนวด รอบ Battle มีหนวด อีกคนรอบ Blind มีหนวด แต่รอบ Battle หนวดหาย คู่นี้เสียงหนุ่มขึ้นมานี่แบบ เฮ้ย..เสียงหล่อมากอะ และหล่อแบบนี้ไปทั้งเพลงด้วย คือเทคนิคหรืออินเนอร์อะไรอาจจะยังไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ แต่เสียงนี่แบบต้องยอมเลย ขณะที่อาร์ตดูธรรมดาไปเลย แม้จะมีบางช่วง บางท่อนที่เปิดให้สามารถโชว์เทคนิคได้ แต่ก็ยังทำได้ไม่ถึงเท่าไหร่ เพลงนี้คิดว่าทั้งคู่น่าจะทำได้ดีกว่านี้นะ ที่เป็นอยู่ก็ถือว่าโอเคเลย แต่สามารถเพราะได้มากกว่านี้อีก อาจเพราะมันเน้นความนุ่มจนไม่มีจุดพีคอะไร อย่างไรก็ตาม แววของหนุ่มก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อาจต้องไปขุด ไปเกลาเรื่องเทคนิคและอินเนอร์อีกสักนิด จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากเลยทีเดียว
ทีมแสตมป์: บอลล่า – จูโน่ vs. อุณ – อาร์ม
เพลง บูมเมอแรง (เบิร์ด ธงไชย)
คู่หูกระท่อม ปะทะ คู่หูพรีเดเตอร์ เป็นการ Battle แบบคู่ปะทะคู่อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ทีมก้องเคยทำไปแล้วตอนซีซั่น 1 ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า เหตุผลที่ The Voice เปิดโอกาสให้มีการเข้าแข่งขันแบบคู่ได้ เพราะต้องการให้โชว์เสียงแบบ “ประสาน” ดังนั้นการจะดูว่าคู่ไหนทำได้ดีแค่ไหน ไม่ใช่ดูที่เสียงคนใดคนหนึ่ง แต่ต้องดูไลน์ประสานที่ทั้ง 2 คนร้องร่วมกัน แล้วยิ่งการ Battle นี้เป็นแบบคู่ปะทะคู่ด้วย เกณฑ์การตัดสินจึงอยู่ที่ว่าคู่ไหนทำไลน์ประสานได้ดีกว่ากัน ถ้าสมมติไม่แข่งเป็นคู่ แต่แข่งแบบเดี่ยวๆ 4 คน อาร์มจะเป็นผู้ชนะ เพราะเสียงเพราะสุด จังหวะ เทคนิคอะไรก็ตามดีหมด แต่อย่าลืมนี่คือการแข่งแบบคู่ และปรากฎว่าพอประสานมาแล้วคู่กระท่อมกับมีเสียงประสานที่เพราะกว่า ลูกเล่นมากกว่า ในขณะที่คู่พรีเดเตอร์กลายเป็นอาร์มที่โดดมาคนเดียว โดยมีแค่อุณคอยคลอๆ อยู่ ซึ่งตรงนี้ก็พอจะเข้าใจได้ว่าเพราะปกติอุณจะรับหน้าที่เป็นเพียงแค่กีต้าร์อย่างเดียว ขณะที่บอลล่า – จูโน่ ประสานกันเป็นประจำ เมื่อโจทย์คือการประสาน ก็ต้องดูที่การประสาน ยิ่งโชว์นี้แสตมป์ครีเอทออกมาให้โชว์การประสานแบบเต็มๆ ทั้งเสียงหลักเสียงคอรัสด้วย และก็เป็นคู่กระท่อมที่ทำได้ดีกว่า ก็สมควรที่จะชนะไป ไม่มีอะไรน่ากังขา นอกเสียจากใจอยากจะกังขาเอง
ทีมก้อง: บอม vs. นาถ
เพลง: หนึ่งมิตรชิดใกล้ (Isn’t)
โค้ชก้องน่ากลัวตรงไหนรู้มั้ย… น่ากลัวตรงที่นอกจากจะตัวเองจะแม่ยกเยอะ แล้วยังรู้วิธีสร้างแม่ยกให้กับลูกทีมตัวเองอีก ซึ่งบอมก็คือหนึ่งในนั้น จบ Battle นี้ไป แม่ยกเพียบแน่ เพลงนี้นี่เอื้อบอมมากทีเดียว และบอมก็ทำได้ดีมากด้วย ทั้งน้ำเสียง จังหวะ อะไร เทคนิคดีหมด ขณะที่ฝั่งนาถ แม้อาจเสียเปรียบนิดหน่อยตรงเพลงนี้คีย์ผู้ชายอย่างที่โค้ชว่าไว้ แต่เนื้อเสียงใสๆ ของเธอก็ช่วยให้เธอไม่ถูกบอมกลบมากนัก (ตอนรอบ Blind เคยเห็น Comment ว่านาถเสียงเหมือนมาช่า ซึ่งเห็นด้วยเลย) แต่สิ่งหนึ่งที่นาถอาจจะยังมีปัญหาอยู่ก็คือ การควบคุมความตื่นเต้นและการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองบนเวทีนี่แหละ แต่อย่างน้อยก็ถือว่าดีขึ้นจากตอนรอบ Blind ที่หน้านิ่งกันเลยทีเดียว ดีใจที่แสตมป์ Steal ไป ส่วนบอมนี่ต้องคอยดูว่ารอบต่อไปจะให้ร้องสไตล์แบบไหน เพราะตอนนี้ผ่านมา 2 รอบยังเป็นแนวเพลงช้าๆ เก่าๆ อยู่ ถ้าโค้ชก้องสามารถเพิ่มความหลากหลาย และลูกเล่นลีลาให้กับบอมได้ นี่จะน่ากลัวมากเลยทีเดียว
ทีมโจอี้: หยก vs. บิว
เพลง รุนแรงเหลือเกิน (ไมโคร)
ก่อนแข่งก็คิดว่าบิวคงชนะได้สบายๆ แต่พอร้องไปเรื่อยๆ เฮ้ย ไม่ใช่แฮะ กลายเป็นชอบหยกมากกว่า การถ่ายทอดของหยกนี่เป็นความรุนแรงเหมือนโดนค้อนขนาดใหญ่ทุบใช้ช้ำในตาย ขณะที่การถ่ายทอดแบบบิวเป็นความรุนแรงเหมือนโดนเอามีดเล็กๆ ทิ่มแทง แต่แทงหลายๆ ครั้งจนตาย ที่ชอบหยกมากกว่าเพราะรู้สึกว่า บิวรีบร้อนแทงเลย ขณะที่หยกค่อยๆ ปล่อยเรื่อยๆ จนมาพีคตรงช่วงท้าย แต่บิวช่วงแรกๆ ก็ปล่อยเลย ยิ่งหน้าตา ลีลานี่ไปเต็ม เต็มเกินไปด้วยซ้ำ คือท่านี่เจ็บปวดมาก แต่เสียงกลับไม่เจ็บปวดเท่า จนบางทีก็อึดอัดแทน ว่าไปก็คล้ายๆ ตอน Battle เก่ง vs. นัท ซีซั่นแรก ที่เก่งใช้ลีลาและลูกเล่นมาสู้พลังของอีกฝ่าย ซึ่งตามสไตล์ของโค้ชโจอี้ที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ ก็ไม่แปลกใจที่จะเลือกบิวให้เข้าไป แต่ส่วนตัวคู่นี้ทึ่งกับหยกมากกว่านะ
ก็คล้ายๆ กับ Battle สัปดาห์ก่อน คือปีนี้ Battle จะออกมาแนวกลางๆ โค้ช ผู้เข้าแข่งขันระวังตัวกันมากขึ้น ข้อดีคือ โชว์โอเคทุกโชว์ ไม่มีแบบหายนะ แต่ข้อเสียก็คือมันอาจไม่มีโชว์ที่พีคโดดเด่นขึ้นมาก สำหรับสัปดาห์นี้ชอบสุดคือคู่กระท่อม vs. พรีเดเตอร์ ในเพลง “บูมเมอแรง” ชอบการดีไซน์ตัวเพลงให้เหมาะกับการแข่งไลน์ประสานได้ และก็ทำออกมาได้ดีด้วยกัน
ป.ล. ปีนี้ทีมคิ้มมีพัฒนาการอย่างชัดเจน เอาใจช่วยอยู่ห่างๆ อดคิดถึงช่วงสักเดือนที่แล้ว มีกระทู้ตั้งเรียกร้องให้แกออกจากรายการ คำก็ห่วย สองคำก็ห่วย สามคำก็ห่วย ทั้งที่รายการเพิ่งออกไปไม่กี่อาทิตย์ พอคิดย้อนกลับไปจากตอนนี้แล้วก็ขำๆ นะ
ป.ล. 2 ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีดราม่าเยอะมาก คือคู่นั้นส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยนะ แต่เราก็ยอมรับกับคำตัดสินใจของโค้ช อย่างน้อยจะวิพากษ์ วิจารณ์อะไร ก็ขอให้อยู่ในขอบเขตของการวิพากษ์วิจารณ์ ติเพื่อก่อนะครับ เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ กับ การเหยียบย่ำซ้ำเติม มันคนละเรื่องกัน