อาจจะมีคนตั้งกระทู้ประมาณนี้มาแล้วหลายกระทู้ เกี่ยวกับพฤติกรรมของโบรกเกอร์ประกันภัยรถหลายๆบริษัท
แต่เหตุการณ์เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคก็ยังเกิดขึ้น
กระทู้นี้ของผมอาจไม่ใช่กระทู้สุดท้ายของเรื่องราวทำนองนี้ เพียงแต่ต้องการตอกย้ำและเตือนภัยเพื่อนๆอีกหลายท่าน
ช่วยกันเพื่อให้การเอาเปรียบของโบรกเกอร์ประกันภัยรถยนต์หมดไปจริงๆเสียที

ขอเข้าเรื่องของผมเลยละกัน
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ผมได้รับการติดต่อผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ปลายสายแจ้งว่าโทรจากสำนักงานใหญ่ค่ายรถยนต์ที่ผมครอบครองอยู่
โทรมาแจ้งต่ออายุประกันภัยรถยนต์ของผมที่จะหมดอายุในเดือนมกราคมปีหน้า
สาเหตุที่รีบโทรมาแจ้งเนื่องจากบริษัทประกันภัยจะปรับโครงสร้างราคาใหม่ เสนอให้ผมชำระเบี้ยประกันล่วงหน้าก่อนเป็นจำนวน 3000 บาท
เพื่อล็อคเรทเบี้ยประกันภัยเดิมก่อนจะทำการปรับโครงสร้าง อีกทั้งเสนอให้ผมต่อประกันภัยกับบริษัทประกันภัยรายใหม่ที่ไม่ใช่บริษัทประกันภัยเดิมที่ผมทำอยู่
ผมเข้าใจว่าเป็นบริการเจ้าหน้าที่จากค่ายศูนย์รถยนต์ตามปกติ จึงได้ตกลงให้เขาหักค่าเบี้ยประกันภัยผ่านบัตรเครดิตไป

แต่หลังจากผมตรวจสอบในภายหลังพบว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาไม่ใช่จากศูนย์หรือจากค่ายรถยนต์สำนักงานใหญ่แต่อย่างใด
แต่เป็นเบอร์ของโบรกเกอร์ประกันภัยรายหนึ่ง ชื่อบริษัท พนม.... อินชัวรรันด์ โบรกเกอร์ รวมถึงตรวจสอบข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติม
เกี่ยวกับพฤติกรรมลักษณะนี้ของเหล่าบริษัทโบรกเกอร์ประกันภัย
ผมจึงได้พบว่าเหตุการณ์ที่อ้างชื่อบริษัทรถยนต์หรือศูนย์บริการของเจ้าของรถนั้นมีอยู่เนืองๆ

ผมรู้สึกว่าแค่เริ่มต้นก็ไม่จริงใจเสียแล้ว รวมถึงการชำระค่าเบี้ย 3000 บาทก่อนหมดอายุนานหลายเดือนก็ไม่เป็นธรรมสำหรับผม
ผมจึงตัดสินใจโทรแจ้งยกเลิกการทำประกันภัยในวันถัดมา แต่ทางพนักงานของโบรกเกอร์ก็แจ้งว่าได้ทำเรื่องตัดบัตรเครดิตไปแล้ว
ให้ผมแจ้งเรื่องยกเลิกและส่งสำเนาบัตรประชาชนกับสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากกลับมา โดยทางโบรกเกอร์จะโอนเงินคืนให้ผมแทนในวันวันที่ 25 กันยายน
(ผมมาคิดได้ในภายหลังถ้าตอนนั้น ผมแจ้งทางธนาคารเจ้าของบัตรเครดิตปฏิเสธการชำระเงินครั้งนี้ ก็น่าจะเป็นอีกช่องทางในการยกเลิกที่ดีกว่า)

จากนั้นผมจึงได้ส่งเอกสารให้กับทางโบรกเกอร์ แต่เมื่อถึงวันที่ 25 กันยายน ผมก็ยังไม่ได้รับเงินคืน
เมื่อโทรสอบถามก็แจ้งว่าฝ่ายบัญชีทำเรื่องให้ไม่ทัน ขอเลื่อนการโอนเงินเป็นวันที่ 25 ตุลาคมแทน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมาก็โทรสอบถามอีกครั้ง โบรกเกอร์ก็แจ้งว่าผมมีรายชื่ออยู่ในรายการลูกค้าที่จะได้รับเงินคืนแล้ว
ให้รอถึงวันที่ 25 ตุลาคม แต่ถ้ายังไม่ได้รับเงินก็ให้โทรมาสอบถามใหม่

จนถึงวันนี้ผมก็ยังไม่ได้รับเงินคืน และผมก็ไม่คิดจะโทรไปสอบถามกับทางโบรกเกอร์อีกแล้ว
ตอนนี้ผมได้ส่งเรื่องร้องเรียนกับทาง สคบ.แล้ว
เงินจำนวนนี้แม้จะไม่มากมายอะไร แต่สิ่งที่โบรกเกอร์ทำนั้นไม่ถูกต้องจริงๆ

ผมไม่อยากให้เรื่องเงียบหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วโบรกเกอร์ก็ไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก
แค่เงินคนละ 3000 จากเจ้าของรถยนต์หลายๆท่านที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจดูเหมือนไม่มีอะไร
แต่แค่เงินคนละ 3000 ที่เหล่าโบรกเกอร์อมเงินไว้นานหลายเดือนกว่าจะคายเงินคืนให้ลูกค้าที่ยกเลิกกรมธรรม์
ก็เพียงพอแล้วให้เหล่าบริษัทโบรกเกอร์ที่ไม่มีธรรมาภิบาลมีเงินหมุนเวียนดำเนินธุรกิจแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

ทุกวันนี้ก็ยังมีโบรกเกอร์บริษัทอื่นๆ โทรมาหาผมโดยอ้างชื่อค่ายศูนย์รถยนต์ของผมอยู่เป็นประจำ
อันที่จริงผมก็ไม่ได้อยากปฏิเสธพวกโบรกเกอร์ และพร้อมจะให้โบรกเกอร์ช่วยดำเนินการให้ด้วยซ้ำ
ขอเพียงช่วยโทรมาคุยและแจ้งอย่างเปิดเผย นำเสนอบริการอย่างชัดเจนและซื่อสัตย์
ถ้าโบรกเกอร์ประกันภัยทำได้อย่างนี้จริง ผมก็พร้อมจะเป็นลูกค้าและจะต่ออายุกับโบรกเกอร์ไปเรื่อยๆ
รวมถึงช่วยแนะนำเพื่อนๆว่าโบรกเกอร์ดีๆนั้นมีอยู่จริง