[CR] REVIEW : 10 days in Belgium-Luxembourg ไปทำไรว่ะ ตามไปดูกัน ^^

สวัสดีครับ ผม Nonny_nontakyy ครับ เจอกันอีกครั้งนะครับ
ครั้งนี้เป็น รีวิว ครั้งที่ 4 ของผมแล้วนะครับ ฝากกระทู้ก่อนหน้านี้ 3 กระทู้ครับ

1. ตุรกี-รัสเซีย: http://ppantip.com/topic/31960528
2. เกาหลี เกาะเชจู: http://ppantip.com/topic/32354910
3. ขอวีซ่า เบลเยียม: http://ppantip.com/topic/32442537

วันนี้เราจะไปเที่ยวยุโรปกันนะครับ 2 ประเทศเล็กๆ โดยใช้เวลาประมาณ 10 วัน ซึ่ง 2 ประเทศที่ยังคงเป็น ราชอาณาจักร อยู่ในปัจจุบัน .... และ 2 ประเทศนั้น คือ "Belgium-Luxembourg" ครับ
   Part 2: Brussels : http://ppantip.com/topic/32767370
   Part 3: Leuven - Mechelen - Mons - Tournai : http://ppantip.com/topic/32770640
   Part สุดท้ายครับ: Luxembourg: Clervaux - Vianden - Luxembourg city : http://ppantip.com/topic/32775406



มาเริ่มกันเรยดีกว่าครับ ......

เกริ่นนำ....
   ถามว่าทำไมต้องไป Belgium-Luxembourg อันนี้เหตุผลผมก็หาไม่ค่อยเจอ เป็นความคิดส่วนตัวที่อยู่ๆก็อยากไป 2 ประเทศนี้ ไม่รู้ทำไมครับ คือ มันอยากไป อยากไปมาตั้งแต่ประมาณ 2-3 ปีก่อน ตอนนั้นกำลังจะเรียนจบ (เป็นช่วงที่ TG เปิดบินตรงไปลง Brussels พอดี) อยากไป backpack ที่ไหนซักที่ ก็มองดูประเทศนี้เพราะเห็นว่าไม่ใหญ่เกินไป ชื่อเสียงเรื่องความอันตรายไม่ค่อยมี(หรือเราไม่รู้นะ 555) ก็เลยวางแผนจะไป แต่แล้วก็ไม่ได้ไป ได้ไป อิตาลีแทน(ไปกับทัวร์ --") มันก็เลยยังคงเป็นความฝังใจครับ ว่ายังไงก็จะไป 2 ประเทศนี้ให้ได้ และจะไปเอง เพราะ ทัวร์จะจัด 2 ประเทศนี้เป็นเหมือนประเทศทางผ่านเที่ยวแบบโฉบๆ ไม่เกิน 2-3 วัน(ระยะเวลาทัวร์รวม 8-9 วัน) ก็จบแล้วเขาจะไปเน้นที่ เนเธอแลนด์มากกว่า แต่ผมไม่อยากไปเที่ยวครั้งเดียว 3 ประเทศ เลยคิดว่าเก็บ เนเธอแลนด์ไว้ ค่อยไปแบบประเทศเดียวทีเดียว (ซึ่งไม่รู้จะได้ไปตอนไหน 555)
   ก็เริ่มชวนเพื่อนๆบ้างครับแต่ไม่มีใครว่างเลย ตอนแรกก็คิดว่าเอาไงดีนะ ไม่มีใครว่างเลย แล้วช่วงนั้นดันเป็นช่วงที่ TG ประกาศจะขึ้นอัตราการแลกไมล์สะสม แต่ถ้าแลกก่อน 30 มิย ก็ใช้เท่าเดิม ผมก็ อ้าว งั้นคงต้องรีบแล้วหละเพราะ rate ที่ปรับขึ้นแอบโหดอยู่นะเนี่ย ผมก็เลยไม่รอใครแระ ไปแลกไมล์ก่อนที่จะหมดเขตดีกว่า ไปคนเดียวก็ได้วะ (คือ ก็อยากลองเดินทางคนเดียวอยู่แล้วด้วย) เป็นไงเป็นกัน จะได้รู้ว่าถ้าเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว เราโอเคมั้ย จะได้รู้ว่า ทริปต่อไป ถ้าจะไปคนเดียวจะโอเคป่าว สรุป เราไปคนเดียวนะ แต่นึกออกว่ามีรุ่นน้องคนนึงไปเรีนยอยู่อังกฤษ ซึ่งน้องว่างนิดนึงพอดี เลยมีคนมาเที่ยวด้วยกัน ช่วง 3 วันแรก หลังจากนั้นเราก็ต้องลุยเองแระ เย่เย่ ไปไป ไปเที่ยวกัน (แต่พอแลกไมล์ได้ 2 วัน TG ประกาศใช้ตารางแลกไมล์เดิม เอิ่มมมม เงิบ แพรพ --" แลกไปแล้ว ขอคืนไม่ได้ด้วย เอิ่มมมม)
   หลังจากนั้นก็มีเพื่อนมาถามนะครับ หลายคนว่า เบลเยียม เล็กนิดเดียว ไม่เห็นจะมีอะไรเลย แกไปทำไมตั้ง 10 วัน ไอเราก็ ไม่สิ มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่ คือยังไงช้านก็จะไป แกอย่ามาห้ามช้าน เพื่อนหลายคนบอกว่า แกก็ไป เนเธอแลนด์ไม่ก็ไปฝรั่งเศสด้วย เบลเยียมเราว่ามันไม่มีไรนะ ช้านไม่ว่าไรก็เออๆ ไป คิดอยู่ในใจ เมืองที่ช้านจะไป แกยังไม่เคยไปเรย แล้วแกมาบอกว่าไม่มีอะไรได้ไง ชิชิ ช้านคิดไว้แล้ว เนเธอแลนด์ กับ ฝรั่งเศส ช้านคงไปประเทศละรอบ แล้วเที่ยวทีละประเทศแบบเรื่อยๆ ไม่รีบเร่ง อิอิ จบนะเพื่อน ตามนั้น ๕๕๕

เตรียมตัว เตรียมใจ

1. ตั๋วเครื่องบิน
   เลือกเดินทางได้ 2 แบบ ครับ คือ
   บินตรง -> ป้าม่วง TG only ครับ
   Transit -> เยอะแยะมากมายครับ พวกสายการบินในยุโรปทั้งหลาย KLM, Finair, Aeroflot, Lufthansa, Swiss air,  Turkish หรือจะเป็นสายการบินตะวันออกกลาง Qatar, Ethihad, Emirate เป็นต้นครับ
   ส่วนครั้งนี้อย่างที่กล่าวมาก่อนครับ ผมแลกไมล์สะสมของ TG ไปครับ มีอยู่ในบัตรเครดิตเยอะพอสมควร เลยกะเอามาใช้ให้หมด เพราะเสียดายถ้าไม่แลกก่อนปรับอัตราการแลกไมล์ ผมก็เลยเทไมล์ออกมาเพื่อแลก business class ครับ (ใช้ไป 130000 ไมล์ ถ้าตามตารางใหม่ 260000 ไมล์ครับ เท่าตัว !!! T_T) และก็ได้ตั๋วแลกไมล์มาเป็นเส้นทาง
   HDY - BKK - BRU , CDG - BKK - HDY  แบบ Business class (ใครเดินทางจากต่างจังหวัด สามารถชำระเงินเพิ่มอีกเล็กน้อย เพื่อให้ได้ตั๋ว Domestic ร่วมด้วยได้ครับ โดยใช้ไมล์เท่าเดิม คือ เท่าเดินทางออกจาก กทม.) โดยการแลกไมล์เรายังต้องเสียค่าธรรมเนียมและค่าภาษีต่างๆครับ จะไม่เสียเฉพาะค่าตั๋ว ซึ่งจากตารางบินผมนั้น ผมเสียไป 20565 บาท (กรณี Econimy จะเสียถูกกว่าประมาณ 5000) แต่ถ้าเป็นตั๋วแลกไมล์แล้วมีการ connect flight ต้องเป็น flight ที่เวลาติดกันที่สุดเท่านั้นครับ จะเลือกเผื่อเวลายาวๆไม่ได้ เช่นวันกลับ กลับมาถึง กทม ตอนเช้า จะเลือกกลับ ตจว ตอนเย็นไม่ได้ครับ ถ้าจะทำจะถือเป็น stop over ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 2800 บาท และทำได้แค่ 1 ครั้งตลอดทริป ครับ



2. วางแผนเดินทาง
   ผมใช้หนังสือทั้งหมด 3 เล่มครับ



   หนังสือภาษาไทย แทบจะมีเล่มนี้เล่มเดียวแล้วครับ ที่เขียนถึงเบลเยียม(มีเล่มอื่นด้วยแต่ค่อนข้างเก่าครับ --") ผมก็เลยต้องพึ่งหนังสือต่างประเทศครับ ซึ่งจะมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ และก็พบว่า Belgium Luxembourg นั้น น่าสนใจจริงๆ แต่เด๋วผมจะไปเมืองไหนบ้าน รอติดตามชมใน part ต่อไปนะครับ
   สำหรับข้อดีข้อเสียของหนังสือแต่ละเล่มนะครับ
   - เล่มภาษาไทย: แน่นอนครับ อ่านง่าย เข้าใจง่าย เล่มนี้รายละเอียดดีพอควร การันตีด้วยชื่อผู้เขียนอยู่แล้วครับ อย่างที่บอกครับ Belgium เล่มนี้มีเพียง 4 เมือง เพราะ ผู้เขียนไปมาแค่ 4 เมืองครับ คือ Brussel, Ghent, Bruges และ Leuven ครับ (แต่ผู้เขียนบอกไว้ตอนท้ายเล่ม และบอกว่ามีเมืองน่าเที่ยวอีกหลายเมืองครับ ซึ่งจริง!!! ^^) เอามาอ่านเป็นหลักให้เข้าใจอะไรต่างๆโดยรวมก่อนครับ เพราะ ภาษาพ่อภาษาแม่เข้าใจง่าย แล้วค่อยไปอ่านเล่มฉบับภาษาอังกฤษต่อ และเล่มนี้เป็นเล่มเดียวใน 3 เล่มที่มีแผนผังรถไฟฟ้าใน Brussels (แต่จริงๆดูไปคร่าวๆ แล้วไปขอแผนที่เมืองตอนถึง Brussels ก็ได้นะครับ รร ส่วนใหญ่ก็มีครับ)
   - Lonely planet: การันตีเรื่องชื่อเสียงของหนังสือที่มีมายาวนาน รายละเอียดครบครัน มีแนะนำว่าอะไรเป็น the must ที่ไม่ควรพลาดในสถานที่ท่องเที่ยว แนะนำร้านอาหาร รวมถึง Top choice คือ ร้านอาหารที่ไม่ควรพลาด แนะนำ รร ตั้งแต่ราคาถูกไปยันแพง พร้อมกับมีพิกัดในแผนที่ให้ในเมืองท่องเที่ยวที่เด่นๆ บอกการเดินทาง To-From ของแต่ละเมือง(แต่เรื่องราคาที่ลงในหนังสือ อาจจะไม่ได้ update นะครับ เพราะหนังสือพิมพ์มาก่อน ซึ่งตอนผมไป ราคาค่าเดินทางตางๆก็ปรับขึ้นจากในหนังสือหมดแล้ว) แต่มีดีย่อมมีเสีย เป็นหนังสือที่ภาพน้อยมาก อ่านแต่ตัวหนังสือ หลายๆคนคงเบื่อและการอ่านในช่วงแรกๆจะรู้สึกว่ายากจังแต่พอใช้ไปซักพักจะชินครับ มีประโยชน์มากนะครับ เล่มนี้ น้ำหนักไม่มากด้วยครับ แนะนำครับ
   - Eyewitness Travel ของ DK: เล่มนี้เป็นกระดาษมัน และ 4 สี ทั้งเล่ม ทำให้เปิดมาแล้วรู้สึกน่าอ่าน รายละเอียดมากพอสมควร เน้นการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ซะเยอะ มีแผนที่ในเขตเมืองเก่าที่จะแนะนำเส้นทางการเดินชมตามเมืองหลักๆต่างๆ ทำให้เห็นภาพได้ค่อนข้างชัดเจน และตามเมืองเล็กๆก็จะมีภาพสถานที่หลักสำคัญๆมาบ้าง ทำให้พอช่วยในการตัดสินใจว่าจะไปดูดีหรือไม่ได้บ้าง แต่มีจุดอ่อน ข้อมูลเรื่องการเดินทางไปแต่ละเมือง เพราะจะมีแค่สัญลักษณ์แสดงไว้เท่านั้นว่า เมืองนี้เดินทางมาถึงได้ด้วยอะไรบ้าง เช่น รถเมล์ รถไฟ รถราง แต่ไม่บอกชื่อสถานีที่ควรจะลง(กรณีเป็นเมืองใหญ่) สำหรับกรณีใน Brussels จะบอกว่าต้องลงสถานีไหนแต่ก็ไม่บอกทางเดินไปต่อ ให้ลองหาเอาเอง --" และน้ำหนักค่อนข้างมาก
   แต่โดยสรุปพอเอามาใช้ร่วมกันทั้ง 3 เล่ม ถือว่า โอเคครับ เป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันทั้ง 3 เล่มครับ
   สาเหตุที่ต้องวางแผนเดินทางก่อน เพราะ เราต้องเขียนแผนการเดินทางเพื่อขอวีซ่าด้วยครับ เราจะได้พอทราบคร่าวๆถ้าเกิดมีการถูกถามครับ

3. วีซ่า
   Belgium, Luxembourg เป็นประเทศในกลุ่ม เชงเก้นนะครับ เพราะฉะนั้นขอทีเดียวก็ไปเที่ยวทั้ง 2 ประเทศได้ครับ ขอแค่ single ก็ได้นะครับ ถ้าคิดจะไปแค่ 2 ปรเทศนี้
   รายละเอียดการขอวีซ่า -->   http://ppantip.com/topic/32442537

4. เงินทอง (ของนอกกายที่จำเป็นมากกกกกกกกกกก ^^)
   Belgium, Luxembourg ตอนนี้ใช้เพียงเงินสกุล Euro เท่านั้นแล้วครับ ไม่มีสกุลเงินท้องถิ่นใช้แล้วนะครับ แลกกันได้ตามอัธยาศัยครับ ส่วนบัตรเครดิตที่รับแน่ๆ คือ Visa และ Master card นอกนั้นก็จะมี เครือของ แถบยุโรปเขาเอง และ AMEX ก็รับได้ 80-90% นะครับ และคนที่นี่เท่าที่สังเกตเขาก็นิยมใช้บัตรเครดิตกันนะครับ เพราะง่าย รวดเร็ว ไม่ต้องพกเงินสด และค่อนข้างปลอดภัยครับ โดยการใช้บัตรเครดิต เขาจะให้เรารูดเองครับ จะได้เช็คจำนวนเงินตอนรูดไปในตัวด้วยครับ อ่อ ลืมบอกครับ สำหรับในยุโรป เขามักจะใช้รหัส 4 ตัวกดเพื่อยืนยันบัตรเครดิตไม่ต้องเซ็น แต่สำหรับของเราคนไทยนั้นถ้าไม่มีรหัส เขาจะทราบเองนะครับ แล้วจะยื่นมาให้เราเซ็น หรือถ้าเขาจะให้เรากดรหัสก็บอกไปว่า ไม่มี ขอเซ็นแทนครับ

5. ไฟฟ้า
   ใช้ไฟ เหมือนบ้านเราครับ แต่หัวปลั๊กเป็น 2 หัว กลม นะครับ เตรียมตัวแปลงหัวไปด้วยครับ ^^

6. Internet
   เท่าที่หาข้อมูล มีให้เช่าเป็น pocket wifi เหมือนกันนะครับ แต่ผมไม่ได้เช่า คือ มันไม่ unlimit อะครับ แล้วก็ตามเมืองท่องเที่ยวพอจะหา net ฟรีเล่นได้เรื่อยๆครับ อีกอย่างแนะนำว่าก็เลือก รร ที่มี free wifi ครับ อย่างน้อยตอนอยู่ รร ก็มีไรให้เล่น และตามร้านอาหารที่ไปกิน > 50% จะมี free wifi ให้เราเล่นนะครับ สอบถามได้จากพนักงานครับ

ได้เวลาไปเที่ยวแล้วสิ ไปกันครับ ^^

    ขอเกริ่นนำอีกนิดนะครับ

   Belgium หรือชื่อเต็มว่า Kingdom of Belgium (ราชอาณาจักรเบลเยียม) ปัจจุบันยังเป็นประเทศที่มีสถาบันกษัตริย์เหมือนกับประเทศไทยครับ ซึ่งประเทศนี้หากแบ่งหลักก็อาจแบ่งได้เป็นด้านบนกับด้านล่างนะครับ โดย



   ด้านบนจะเรียกว่า Flanders -> ส่วนมากใช้ภาษาดัทช์ (ติดเนเธอแลนด์)
   ด้านล่างจะเรียกว่า Wallonia -> ส่วนมากใช้ภาษาฝรั่งเศส (ติดฝรั่งเศส)
   โดย Brussel ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศก็จะอยู่กลางๆนะครับ คนที่นี่เขาก็ใช้ภาษาดัทช์เป็นหลักนะครับ แต่ภาษาราชการของประเทศนี้มี 3 ภาษาครับ คือ ดัทช์ ฝรั่งเศส และเยอรมันครับ (ไม่มีภาษาของตัวเอง) แต่ภาษาอังกฤษคนส่วนใหญ่ก็ใช้ได้ครับ ไม่ค่อยมีปัญหาด้านการสื่อสารครับ

   เอาละครับไปเที่ยวกันจริงๆดีกว่านะครับ เริ่มตันจากมาดูแผนการเดินทางของผมกันดีกว่าครับว่าเราไปเมืองไหนกันบ้าง
   ผมเดินทางจากหาดใหญ่ ตั้งแต่ คืนวันที่ 29/9 ครับ เครื่อง ออกไป Brussel 30/9 เวลา 00.30 ครับ
   29-30/9: On the way to Brussel
   30/9: Arrived Brussel then go to Bruges + Oostend
   1/10: Ghent
   2/10: Antwerp
   3/10: Brussel
   4/10: Leuven + Mechelen + Brussel
   5/10: Tournai + Mons + Brussel
   6/10: Liege + Clervaux + Vianden
   7/10: Luxembourg
   8/10: Namur + Brussel
   9/10: To CDG airport to fly back at 13.30
   10/10: Arrived BKK then fly back to HDY
   (ปล. อันนี้ก็ยังมีอีกหลายเมืองที่ผมไม่ได้ไปนะ เพราะ ไปไม่ทัน ไม่อยากเที่ยวแบบรีบเกินไป นี่ขนาดเกือบสิบวันนะ T_T)
   (ปล.2 คุณเพื่อนที่บอกว่าไม่มีไร เห็นรึยังว่าช้านเที่ยวไม่หมด T_T)

   เด๋วมาต่อนะครับ จะอัพ ต่อเรื่อยๆคงจะแตกเป็น 4 กระทู้นะครับ จะได้ไม่ยาวเกิน ^^ ...
ชื่อสินค้า:   Belgium-Luxembourg
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่