คุณแม่เราเป็นมะเร็งค่ะ  เราลาออกจากงานมาดูแลท่านตั้งแต่เดือนมีนาคม 57 แฟนเราทำงานคนเดียว เค้าไม่เคยบ่นเลย  เลี้ยงดูเรา กับ แม่  และมีหนี้ผ่อนรถเดือนละ 12,000  ทุกวันนี้  ต้องดึงเงินเก็บมาใช้เดือนละ 10,000++บาท ส่วนใหญ่จะหมดไปกับเรื่องอาหารการกิน  ค่ายา นมทางการแพทย์ ค่าหมอคลินิค  ค่าอุปกรณ์ทำแผล  ค่ารถไปรพ.  เรามองว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เงินเก็บหมดนี่คือแย่แน่นอน  เลยอยากจะทำงานที่หยุดเสาร์ อาทิตย์  อย่างน้อยๆจะได้มีเงินเดือนเรามาช่วยบ้าง  แต่ใจนึงก็ห่วงแม่  เพราะทางป้า น้า อา ฝั่งแม่  ยกธงขาวว่าไม่ว่างเลย  ประกอบกับเราเป็นลูกคนเดียว  พ่อก็เสียแล้ว  ที่เราวางแผนไว้ก็คือ  ตอนนี้พาคุณแม่มาอยู่คอนโด(มีอยู่แล้ว)  อากาศดีลมเย็น  ช่วงเช้าเราจะชงข้าวโอ๊ตธัญพืชผสมนม เตรียมผลไม้ไว้ในตู้เย็น  เตรียมยา เช้า กับ กลางวัน  ส่วนกับข้าวกลางวัน เราไปสั่ง อาหารชีวจิต (สะอาด+อร่อย) ใต้คอนโด ให้ขึ้นมาส่งแม่ทุกวัน จ.-ศ.  ตอนเย็นเราก็มาทำให้ทานเอง  คุณแม่ยังเดินได้ปกติแต่มีอ่อนเพลียบ้าง  ที่เรากลัวที่สุดคือแม่จะเป็นอะไรแล้วไม่มีใครเห็น  เราให้มือถือเครื่องเล็กๆ ใส่กระเป๋าเวลาเดินไปไหนในห้อง  เรารักแม่มากแต่เงินก็จำเป็นต้องใช้ อยากให้แกได้กินของดีๆ อยู่สบายๆ   ทำให้เราคิดไม่ตก  แต่พอญาติๆรู้ว่าเราจะหางานทำก็โวยวายกันใหญ่  เพราะเค้ารีบออกตัวเลยว่าถ้าเราทำงาน  พวกเค้าไม่มาดูนะ(ปกติก็ไม่เคยมาดูจริงๆ  เงินไม่เลยช่วยแม้แต่บาทเดียว )  แถมยังมาบอกว่า  ถ้าเงินเราหมด  ก็ค่อยขายที่บ้านแทน  โอ้...ไปกันใหญ่แล้ว  แม่เราไม่มีทางขายแน่นอนเพราะเป็นที่ดินของพ่อเรา  พวกเค้าบอกเราว่าเงินทองหาใหม่ได้  เราเข้าใจเลยว่าเงินทองหาใหม่ได้  แต่ที่ต้องใช้ ณ ตอนนี้  เราจะไปเอามาจากไหนถ้าเราไม่หาเอง  เมื่อคืนคิดจนร้องไห้เลยว่าทำไมชีวิต  ต้องเจอเรื่องทุกข์ใจแบบนี้ด้วย  ถ้าตอนนี้เรามีลูกคงเครียดกว่านี้แน่ๆ  และถ้าเราไปทำงาน  แม่มีนัดหมอจะลางานยังไง  หัวหน้าจะเข้าใจรึเปล่า  เราไม่อยากเป็นคนบาปในสายตาคนอื่นเลย   เพื่อนๆช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยนะคะ  ,,, ขอบคุณค่ะ