จากข้อเขียนคุณบรรยงค์ พงษ์พาณิช ใน www.thaipublico.com
ยกมาบางส่วน
Date: 21 ตุลาคม 2014
บรรยง พงษ์พานิช
ใครเห็นข่าวการจัดซื้อรถไฟโดยสารรุ่นใหม่ของ ร.ฟ.ท. 115 คัน เกือบ 4,700 ล้านบาท แล้วรู้สึกยังไงบ้างครับ ผมขอเรียบเรียงความรู้สึกส่วนตัวให้ฟังนะครับ
- การจัดซื้อรถใหม่ย่อมเป็นเรื่องดี เพราะรถเก่านั้นสภาพโหลยโท่ย ไม่มีใครอยากนั่ง (แถมไม่ปลอดภัย…อย่างกรณีน้องแก้ม) แต่ผมสงสัยหน่อยๆ ว่า ได้มีการศึกษาเรื่องความเป็นไปได้ เรื่องความคุ้มทุนหรือเปล่า จะตั้งราคาดี แข่งกับรถทัวร์ และเครื่องบิน อย่างที่ท่านปลัดฯ (นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม) ว่าได้จริงไหม (พูดอย่างนี้ แสดงชัดว่าต้องการแข่งขัน ไม่ใช่สวัสดิการประชาชนที่อาจยอมขาดทุนได้อย่างที่ชอบอ้างๆ กัน) เรื่องนี้น่าจะมีการเปิดเผยรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ต่อสาธารณะได้นะครับ
- สมมติว่ามีการศึกษาความเป็นไปได้จริง..ซึ่งเขาก็ต้องทำให้เป็นไปได้อยู่แล้ว ผมก็ยังคงสงสัยอยู่ดีว่า การซื้อโบกี้ที่มีที่นั่ง 36 ที่ ในราคา 40 ล้านบาทนั้น มันคุ้มค่าได้อย่างไร ในเมื่อรถทัวร์ 36 ที่นั่ง มันคันละ 4.0 ล้านบาทเอง (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ของ ร.ฟ.ท. มากกว่าของเอกชนแน่นอน) ร.ฟ.ท. ที่มีขาดทุนสะสมบักโกรกกว่าแสนล้านบาทควรที่จะลงทุนเพิ่มเรื่องนี้เองหรือไม่
สรุปเบื้องต้นว่า..ในประเด็นแรก ผมสงสัยมากว่า ที่ซื้อนี่ ควรซื้อ หรืออยากซื้อ
ทีนี้ก็มาถึงประเด็นสำคัญ คือ วิธีการจัดซื้อ
- ในข่าวไม่ได้มีการเปิดเผยว่าจัดซื้อกันอย่างไร มีการประมูล หรือจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ …ถ้าประมูล เริ่มต้นวิเคราะห์ออกแบบ TOR กันอย่างไร กำหนดราคากลางด้วยวิธีใด มีใครเข้าประมูลบ้าง เสนอราคากันเท่าใด …ถ้าจัดซื้อวิธีพิเศษ ก็คงต้องเปิดเผยรายละเอียดยิ่งขึ้นอีก ว่าทำไมต้องพิเศษ เร่งด่วนอย่างไร สืบราคากันดีแล้ว วิเคราะห์ทางเลือกอื่นๆ (เช่น ต่อเองอย่างที่เคยทำ)
- ไอ้ที่งงกว่านี้ก็คือ ผลสุดท้ายของการได้คู่ค้านี่แหละครับ …ในกิจการร่วมค้าบีบีซี ที่ได้สัญญาไปนั้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ น่ะเข้าใจได้ไม่ยาก แต่อีกสองบริษัทไทยนี่สิครับ คือ บริษัท เขาหลักแบมบู ออร์คิด จำกัด กับ บริษัท ร่วมมิตรเหมืองแร่ จำกัด เห็นชื่อแล้วชวนให้สงสัยอยู่ครามครัน ว่าเข้ามามีส่วนร่วม มีบทบาทยังไงในเรื่องนี้ .....
เรื่องไมล์ยังไม่จบ มีคนสงสัยซื้อโบกี้รถไฟตู้ละ 40 ล้านเทียบรถทัวร์คันละ4 ล้าน
ยกมาบางส่วน
Date: 21 ตุลาคม 2014
บรรยง พงษ์พานิช
ใครเห็นข่าวการจัดซื้อรถไฟโดยสารรุ่นใหม่ของ ร.ฟ.ท. 115 คัน เกือบ 4,700 ล้านบาท แล้วรู้สึกยังไงบ้างครับ ผมขอเรียบเรียงความรู้สึกส่วนตัวให้ฟังนะครับ
- การจัดซื้อรถใหม่ย่อมเป็นเรื่องดี เพราะรถเก่านั้นสภาพโหลยโท่ย ไม่มีใครอยากนั่ง (แถมไม่ปลอดภัย…อย่างกรณีน้องแก้ม) แต่ผมสงสัยหน่อยๆ ว่า ได้มีการศึกษาเรื่องความเป็นไปได้ เรื่องความคุ้มทุนหรือเปล่า จะตั้งราคาดี แข่งกับรถทัวร์ และเครื่องบิน อย่างที่ท่านปลัดฯ (นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม) ว่าได้จริงไหม (พูดอย่างนี้ แสดงชัดว่าต้องการแข่งขัน ไม่ใช่สวัสดิการประชาชนที่อาจยอมขาดทุนได้อย่างที่ชอบอ้างๆ กัน) เรื่องนี้น่าจะมีการเปิดเผยรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ต่อสาธารณะได้นะครับ
- สมมติว่ามีการศึกษาความเป็นไปได้จริง..ซึ่งเขาก็ต้องทำให้เป็นไปได้อยู่แล้ว ผมก็ยังคงสงสัยอยู่ดีว่า การซื้อโบกี้ที่มีที่นั่ง 36 ที่ ในราคา 40 ล้านบาทนั้น มันคุ้มค่าได้อย่างไร ในเมื่อรถทัวร์ 36 ที่นั่ง มันคันละ 4.0 ล้านบาทเอง (ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ของ ร.ฟ.ท. มากกว่าของเอกชนแน่นอน) ร.ฟ.ท. ที่มีขาดทุนสะสมบักโกรกกว่าแสนล้านบาทควรที่จะลงทุนเพิ่มเรื่องนี้เองหรือไม่
สรุปเบื้องต้นว่า..ในประเด็นแรก ผมสงสัยมากว่า ที่ซื้อนี่ ควรซื้อ หรืออยากซื้อ
ทีนี้ก็มาถึงประเด็นสำคัญ คือ วิธีการจัดซื้อ
- ในข่าวไม่ได้มีการเปิดเผยว่าจัดซื้อกันอย่างไร มีการประมูล หรือจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษ …ถ้าประมูล เริ่มต้นวิเคราะห์ออกแบบ TOR กันอย่างไร กำหนดราคากลางด้วยวิธีใด มีใครเข้าประมูลบ้าง เสนอราคากันเท่าใด …ถ้าจัดซื้อวิธีพิเศษ ก็คงต้องเปิดเผยรายละเอียดยิ่งขึ้นอีก ว่าทำไมต้องพิเศษ เร่งด่วนอย่างไร สืบราคากันดีแล้ว วิเคราะห์ทางเลือกอื่นๆ (เช่น ต่อเองอย่างที่เคยทำ)
- ไอ้ที่งงกว่านี้ก็คือ ผลสุดท้ายของการได้คู่ค้านี่แหละครับ …ในกิจการร่วมค้าบีบีซี ที่ได้สัญญาไปนั้น บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ น่ะเข้าใจได้ไม่ยาก แต่อีกสองบริษัทไทยนี่สิครับ คือ บริษัท เขาหลักแบมบู ออร์คิด จำกัด กับ บริษัท ร่วมมิตรเหมืองแร่ จำกัด เห็นชื่อแล้วชวนให้สงสัยอยู่ครามครัน ว่าเข้ามามีส่วนร่วม มีบทบาทยังไงในเรื่องนี้ .....