ขอพื้นที่เล็กๆแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะ สกิล การโชว์ รูปแบบ คุณสมบัติของนักร้องคนนึงกันนะครับ รายการThe voiceคือเวทีการชิงชัยของสุดยอด นักร้องหรือศิลปินทั่วฟ้าเมืองไทย เพราะฉะนั้นสิ่งจำเป็นที่คุณจะต้องมีบ้างในการดูรายการThe voiceเพื่อให้มีความรู้สึกสนุกขึ้นไปอีกระดับนึงคือ

1. ลองสมมติให้ตัวเองเป็นกรรมการดูและลองนั่งหาผลการตัดสินในใจตัวเองว่าใครคือคนที่คุณจะเลือก(แต่อย่าไปโวยวายถ้าผลตัดสินไม่ได้ดั่งใจคุณนะและไปข้อ2)
2. หาเหตุผลที่คุณจะเลือกเค้าเข้ารอบหรือตกรอบ ก็ทำนองเดียวกันกับหาเหตุผลที่กรรมการทั้ง4ท่านเลือกใครเข้ารอบและตกรอบเช่นกัน แน่นอนว่าผลที่ได้อาจมีขัดแย้งกับคนที่คุณเลือกแน่นอน แต่ยังไงก็ต้องมานั่งวิเคราะห์หาเหตุผลสำหรับคนที่ผ่านเข้ารอบและตกรอบเช่นกัน แน่นอนว่ามีสิทธิ์วิจารณ์ได้แต่อย่าไปตีโพยตีพายอีกนั่นแหละ ถ้าผลตัดสินไม่เป็นไปตามที่คุณคิด และไม่ต้องไปบลั๊ฟอีกฝ่ายให้ดูแย่เพียงแค่ผลตัดสินไม่ได้ดั่งใจคุณ
3. ลองหาแนวเพลง หาสไตล์ที่คุณคิดว่าเหมาะกับนักร้องแต่ละคนดูครับ ว่าคนนั้นคนนี้เหมาะที่จะร้องแบบไหนแนวไหน โดยดูเพลงจากที่กรรมการทั้ง4ท่านเลือกดูนั่นแหละครับ

คราวนี้เมื่อได้เหตุผลในการดูThe voiceฝั่งกรรมการแล้ว มาดูฝั่งนักร้องบ้าง นักร้องนั้นโดยภาพรวมมันแบ่งได้กว้างๆหลายรูปแบบครับ

1. นักร้องที่มีเสียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆ - นักร้องประเภทเสียงที่มีเสน่ห์ในตัวเองแบบเฉพาะตัวสุดๆคือ กลุ่มที่มีน้ำเสียงไม่เหมือนใคร เป็นเสียงที่พิเศษมีเสน่ห์มากๆ ความเก่งอาจพิจารณาแค่ระดับนึง แต่ส่วนใหญ่มันดูที่เอกลักษณ์ของน้ำเสียงมากกว่า ผมบอกเลยว่านักร้องกลุ่มนี้คือกลุ่มที่โค๊ชจะหันมามากกว่า3ท่าน และจะหันเก้าอี้ทันทีหลังจากได้ฟังเสียงประโยคแรกๆเท่านั้น เพราะมันดูที่เอกลักษณ์ ไม่ใช่ดูที่ความเก่ง(แต่รอบลึกๆมีผลแน่นอน) แต่.................ในกรณีที่นักร้องกลุ่มนี้มีสกิลการร้องที่เก่งระดับอาชีพล่ะ แน่นอนว่าหันทั้ง4ท่านแน่นอนครับ คุณลองนึกภาพในใจดูครับว่าถ้าคุณจะเลือกนักร้องซักคนนึงเข้าสังกัด คุณจะเลือกนักร้องกลุ่มนี้หรือไม่  นักร้องThe voiceที่จัดอยู่ในประเภทนี้ ตัวอย่างเช่น เบียร์ วี ไวโอเล็ต กบ วีระศักดิ์ เป็นต้น


2. นักร้องที่มีเสน่ห์แม้เสียงอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ(พูดหยาบๆคือขายหน้าตานั่นแหละ) - นักร้องกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เน้นคาริสม่าบนเวที ดังง่าย เสียงอาจจะไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากนัก เวลาดูรูปแบบโชว์แล้วจะมีความรู้สึกที่ดีต่อโชว์เพราะเมื่อเห็นหน้าตานักร้องแล้วมันจะมีคาริสม่าบนเวทีอยู่ทำให้ดึงดูดความสนใจได้ดีมากๆ(ไอดอลเกาหลีก็เน้นกลุ่มนี้แหละเป็นหลัก) ตัวอย่างเช่น แม็ก Season1 เอกลักษณ์ของเสียงนั้นไม่จัดอยู่กลุ่ม1 แต่ความเก่งมีระดับนึงแถมเสน่ห์บนเวทีก็เหลือล้นมากๆ(สุดท้ายชนะด้วยคะแนนโหวตจากเราๆท่านๆนี่แหละ เพราะแสตมป์ให้แพ้) แต่อย่าลืมว่ารายการThe voiceไม่ได้คัดหน้าตา เพราะฉะนั้นในรอบBlind Audition นักร้องกลุ่มนี้ต้องมีสกิลการร้องดีระดับนึงเพื่อดึงดูดความน่าสนใจจากโค๊ชและต้องทำให้โค๊ชหันมาให้ได้ก่อน ถ้าโค๊ชหันมาได้ทุกอย่างก็ไปได้สวย.........แต่ปัญหาคือคุณจะทำยังไงถึงให้โค๊ชหันมา นี่คือสิ่งที่นักร้องกลุ่มนี้ต้องตอบโจทย์ให้ได้ และถ้านักร้องกลุ่มนี้มีทักษะการร้องที่เก่งในระดับนึงแน่นอนว่าเส้นทางมักไปได้สวย นักร้องกลุ่มนี้ตัวอย่างเช่น ตุ๊กตา จมาพร แม็ก เป็นต้น ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นโค๊ชคุณจะเลือกนักร้องกลุ่มนี้หรือไม่(แต่ถ้าเป็นเจ้าของค่ายคุณต้องเลือกแน่นอนเพราะมันเกี่ยวกับความอยู่รอดของคุณ55555++++)


3. นักร้องกลุ่มที่มีสไตล์หรือแนวเพลงเฉพาะตัวสุดๆ - กลุ่มนี้คงไม่พูดมากเพราะดูลูกทีมพี่โจอี้บอยเป็นหลักได้ แต่ละคนของทีมพี่โจอี้ส่วนใหญ่มักเป็นแนวนี้ เอกลักษณ์ของเสียงอ่ะไม่เกี่ยว(ถ้ามีด้วยก็ถือว่าพิเศษกว่าคนอื่นๆ เรียกว่าออฟชั่นเสริมก็ได้) ความเก่งมีระดับนึงอยู่แล้ว(ไม่งั้นไม่เข้ารอบThe voiceแน่ๆ) แต่แนวเพลงที่ชัดเจนและเสียงที่เหมาะกับสไตล์แนวเพลงแบบเฉพาะตัวสุดๆต่างหากที่จัดว่ากลุ่มนี้มีมากกว่าคนอื่นๆ แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องสุดโต่งเสมอไปนะ อาจจะเฉพาะตัวแบบเรียบๆง่ายๆก็ได้ ถ้าใครชอบนักร้องที่มีการครีเอท(Creative)เยอะๆไม่น่าพลาดนักร้องกลุ่มนี้แน่นอน ตัวอย่างเช่น เก่ง ธชย เป็นต้น


4. นักร้องกลุ่มที่เน้นด้านทักษะการร้องขั้นเทพ - กลุ่มนี้ส่วนใหญ่ต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์ทางด้านการร้องเพลงเยอะมากๆ ความเก่งของตัวเองคือการที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน ทำให้ได้เปรียบเรื่องสกิลการร้องมากกว่ากลุ่มอื่นๆ(โค๊ชคิ้มปีแรกได้นักร้องกลุ่มนี้เยอะครับ) แต่อย่าลืมว่านักร้องกลางคืนที่เก่งๆในประเทศไทยส่วนใหญ่ก็มักจะมีฝีมือที่ไม่ห่างกันมากมายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคนที่มีออฟชั่นเสริม เช่น เอกลักษณ์ของเสียง สไตล์และแนวเพลงที่เหมาะเจาะกับเสียงของตัวเองสุดๆ เป็นต้น มักได้เปรียบอยู่แล้ว แต่...............ถ้าเจอคนที่เรียกว่าครบเครื่องทั้งกลุ่ม1.2.3และ4 คนนี้แหละคือคนที่จะเป็นนักร้องดาวรุ่งพุ่งแรงแบบสุดๆซึ่งหาได้ยากมากๆ(พี่เบิร์ดขาดข้อไหนช่วยบอกผมที-*-) ส่วนใหญ่ผมบอกได้เลยว่านักร้องในรายการ The voice ขาดข้อ2มากที่สุด การที่โค๊ชจะเลือกนักร้องกลุ่มนี้บอกได้เลยว่าแค่ประโยคแรกๆก็หันแล้วครับ เพราะประสบการณ์ทางด้านดนตรีของโค๊ชมันดูออกว่าเสียงแบบนี้เก่งจริงหรือเก่งหลอก ตัวอย่างเช่น แนท บัณฑิตา ครูกฤษณ์ เป็นต้น

5. นักร้องกลุ่มที่มีเสียงแนวอินเนอร์ - นักร้องกลุ่มนี้จัดว่าหาได้ยากสุดๆ เท่าที่มีอัตราส่วนเทียบกับกลุ่มอื่นๆน่าจะน้อยที่สุดแล้วครับ เป็นกลุ่มที่มีเสียงที่มีอารมณ์และความรู้สึกร่วมเวลาร้องเพลงมากกว่ากลุ่มอื่นๆแม้จะใช้สัดส่วนของอารมณ์เท่ากันก็ตาม ถามว่านักร้องส่วนใหญ่เข้าถึงอารมณ์มั้ย เข้าถึงครับ แต่ใช้อารมณ์ของตัวเองบีบและประสบการณ์ชีวิตดันมันออกมา แต่นักร้องที่มีเสียงแนวนี้บางครั้งร้องออกมาเฉยๆเสียงก็ให้ความรู้สึกลึกกว่าคนอื่นๆแล้วครับ แต่อย่างที่บอกมันหาได้น้อยมากๆกับนักร้องกลุ่มนี้

สรุป - การที่นักร้องในรายการ The voice ที่โดดเด่นในทุกๆซีซั่นส่วนใหญ่ก็มักจะจัดอยู่มากกว่า1ในกลุ่มนี้แน่นอน(คนที่จะเข้ารอบลึกๆได้ต้องมีกลุ่มข้อ4. บวกเพิ่มด้วยอย่างน้อยก็ต้องให้ดีกว่าคนอื่นๆ) แต่หลายๆคนก็ครอบคลุมหลายกลุ่มนะ ซึ่งได้เปรียบคนอื่นๆแน่นอนแต่มันก็ไม่ได้การันตีว่าจะได้แชมป์นะ นักร้องที่ครอบคลุมหลายๆกลุ่มตัวอย่างเช่น กบ วีระศักดิ์ ฟางข้าว กีต้าร์ พีรนันท์ เป็นต้น

ลองคิดในใจตัวเองนะครับว่าถ้าคุณเป็นโค๊ชคุณอยากได้นักร้องกลุ่มไหนเป็นพิเศษ คุณเหมาะกับแนวไหน ถ้าคุณจะเลือกใครเข้ารอบ คุณจะพิจารณาคุณสมบัติต่างๆว่าอย่างไร วิเคราะห์ วิจารณ์ดูครับ เพียงแต่การวิเคราะห์วิจารณ์ในรายการThe voiceมันเป็นศิลปะและความรู้สึก ไม่ใช่ความรู้ทางวิชาการให้ปวดหัวครับ