[เทคนิค] ว่าด้วยเรื่อง ค่าความแรง และค่าคุณภาพ บนกล่อง Set Top Box และ iDTV

ก็เห็นมีคนถามคำถามนี้อยู่เป็นระยะ ก็ขอมาอธิบายความหมายทางเทคนิคลงรายละเอียดสักเล็กน้อย เผื่อเป็นประโยชน์ได้ครับ

ความแรงคือ ความแรงของสัญญาณ (Signal Strength) ที่เข้ามาที่กล่อง โดยทั่วไปวัดเป็นหน่วย dBm หรือ dBuV แต่ทางโรงงานจะ
set ให้กล่องแสดงผลเป็นรูปของเปอร์เซนต์

คุณภาพ คือ ค่าความแรงของสัญญาณเทียบกับระดับของสัญญาณรบกวน (Carrier to Noise Ratio, C/N) มีหน่วยเป็น dB แต่ทางโรงงาน
set ให้กล่องแสดงผลเป็นรูปของเปอร์เซนต์

โดยหลักการแล้ว set top box ต้องการความแรงของสัญญาณขั้นต่ำระดับนึงเพื่อที่มันจะสามารถไป process สัญญาณต่อได้ สมมติว่ามีสัญญาณเข้า
มาแรงเพียงพอแล้ว แต่การแสดงภาพออกมาได้ถูกต้องหรือไม่ (มี Error ที่ต่ำ หรือ Bit Error Rate ต่ำ) ขึ้นกับ ระดับคุณภาพของสัญญาณ  ดังนั้น ค่าความแรงมีความสำคัญระดับนึง แต่ค่าคุณภาพมีความสำคัญกว่า

ค่าคุณภาพ หรือ C/N  อย่างที่ทราบมันประกอบไปด้วยสองส่วนคือ ระดับของสัญญาณ (Signal Strength) ที่เทียบกับระดับของสัญญาณรบกวน

แล้วสัญญาณรบกวนมาจากไหน ?

ก็มาจากหลายส่วน มาจากสภาพแวดล้อม มาจาก noise ภายในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในกล่องเอง ซึ่ง noise จากสภาพแวดล้อมเราควบคุมมันไม่ค่อยได้ ไม่รู้มันมาจากที่ไหนบ้าง แต่สามารถทำให้มันลดลงได้ระดับนึงโดยการเลือกใช้สายอากาศ ถ้าใช้สายอากาศแบบก้างปลาที่มีทิศทางการรับทิศนึงทิศใดชัดเจน จะกันสัญญาณรบกวน จากข้างๆไปได้มาก พวกสายอากาศหนวดกุ้งโดยเฉพาะที่รับแบบรอบทิศทางก็จะมีโอกาศรับ noise ได้รอบทิศทางเช่นกัน  

ส่วน noise ที่มาจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในกล่อง เขาจะวัดออกมาในรูปของค่า Noise Figure ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะออกแบบให้ Noise Figure มีค่าที่ต่ำ การเลือกใช้ชิ้นส่วน การ shield ที่ดี ก็จะช่วยทำให้ระดับ Noise Figure ต่ำได้
หรือสรุปง่ายๆก็ขึ้นกับคุณภาพของกล่องด้วยครับ ค่า Noise Figure ของกล่องก็จะอยู่ประมาณที่ 6-7 dB แต่กล่องที่คุณภาพดีๆอาจจะคุมได้ต่ำถึง 3-4 dB ได้ กล่องพวกนี้จะรับสัญญาณได้ดีมาก ค่า spec พวกนี้รู้กันในโรงงานแต่มักไม่ค่อยเปิดเผยออกมา ต้องทำการวัดค่ากันในห้องปฎิบัติการทดสอบกันเอง
นอกจากนี้ ถ้าใช้สายอากาศแบบ Active ก็จะได้ noise อีกส่วนนึงมาจากชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของวงจรขยายของสายอากาศแบบ active เช่นเดียวกัน
เขาก็วัดเป็นค่า Noise Figure สายอากาศ active ดีๆก็ต้องควบคุม noise figure ให้อยู่ในระดับที่ต่ำเช่นกันโดยทั่วไปอยู่ระดับไม่เกิน 1-2 dB

บางทีค่าความแรงสูงมาก แต่ค่าคุณภาพต่ำ หมายความว่าอะไร ?

กรณีเช่นนี้ถ้าความแรงสูง แต่ค่าคุณภาพต่ำ ภาพก็ยังสามารถกระตุกได้ รับชมไม่ได้ ค่าคุณภาพ หรือ C/N ต่ำ คือ ค่า C มันสูงจริง (จากค่าความแรง) แต่ N มันก็สูงตามด้วย เอามาหารกันแล้วก็ได้ค่าต่ำ แล้ว N สูงๆนี่มันมาจากไหน เห็นได้บ่อยคือ การใช้ booster ขยายสัญญาณในพื้นที่ที่สัญญาณอ่อนมาก คือแล้วพยายามใช้ booster ไปเพิ่มสัญญาณให้แรงขึ้นในขณะที่สัญญาณตั้งต้นมันอ่อนมาก ก็จะเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก แต่ที่เพิ่มขึ้นมามากคือตัวสัญญาณรบกวน ผลคือก็ค่าคุณภาพเปอร์เซนต์ที่ต่ำ ภาพกระตุกอยู่ดี วิธีแก้ไขให้เปลี่ยนสายอากาศ หรือตำแหน่งสายอากาศให้รับสัญญาณตั้งต้นให้แรงขึ้น เมื่อแรงได้ระดับนึงแล้วตัว booster จะขยายสัญญาณได้ดี

บางทีค่าความแรงต่ำ แต่ค่าคุณภาพสูง จะเป็นอะไรไหม ?

ถึงแม้ค่าความแรงต่ำ แต่ค่าคุณภาพสูง ก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ค่าคุณภาพสูง ก็จะรับชมภาพได้อย่างดี ไม่มีปัญหาอะไร ที่เจอแบบนี้บ่อยมันเจอที่ต่างจังหวัดไกลๆ ใช้สายอากาศแบบก้างปลา คือรับสัญญาณได้อ่อน แต่ noise มันก็ต่ำมาก ผลคือ C/N ก็จะได้ค่าที่สูง หรือค่าคุณภาพสูงนั่นเอง ก็ไม่ต้องแก้ไขอะไรครับ เห็นบางคนหงุดหงิดว่าค่าความแรงต่ำ อยากแก้ไข ก็ไม่ต้องทำอะไรนะครับ เพราะค่าคุณภาพมันสูง ดีอยู่แล้วครับ

สรุปคือเวลาติดตั้ง ต้องดูค่าความแรง กับค่าคุณภาพ อย่างไร ?

ก็ให้ดูทั้งสองค่าครับ ก็ให้ทำการปรับสายอากาศให้มีความแรงระดับนึง แต่ให้ดูค่าคุณภาพเป็นสำคัญ ให้ค่าคุณภาพมีเปอร์เซนต์ที่สูงกว่าระดับต่ำสุด ซึ่งหลายยี่ห้อไม่ได้บอกไว้ว่าคือ ค่าเปอร์เซนต์เท่าไหร แต่เห็นของ samart บอกไว้ว่าให้ค่าคุณภาพ เกิน 40% ไว้ ก็ต่องปรับให้เกินสัก 5-10% เช่น 45-50% ก็จะสามารถรับชมได้ smooth ทั้งวันครับ เพราะ แต่ละช่วงเวลามีระดับสัญญาณรบกวนไม่เท่ากัน โดยเฉพาะตอนหัวค่ำ
มีการเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้ามาก จึงทำให้ระดับ noise floor มันสูงขึ้นทำให้ % คุณภาพมันลดลงได้ ก็เลยต้องติดตั้งให้ค่าคุณภาพสูงเผื่อไว้อย่างที่ว่าครับ

ก็ใช้เป็นข้อมูลนะครับ ดูทีวีดิจิตอลอย่างสุขสันต์ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่