ไปดูมาแล้ว ... โอ.ที. ผี OVERTIME

จริง ๆ แล้วผมได้ไปดูมาตั้งแต่รอบ 2 ทุ่มเมื่อวานนี้ (21 ต.ค.57) ซึ่งน่าจะเป็นรอบแรกที่ฉายเพราะว่ามีงานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ก่อนฉายด้วย  ผมได้ตั๋วฟรี 2 ที่นั่งจากการเล่นเกมส์ในพันทิปที่แจกตั๋วชมภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ  ผมได้ตั๋วมา 2 ที่นั่งแต่หาคนไปนั่งดูข้าง ๆ ด้วยไม่ได้  ในใจตอนแรกก็รู้สึกกลัวเหมือนกันครับว่าถ้าผีมันโผล่มาแล้วจะกอดใครดี?  แต่ก็แอบคิดในใจว่าถ้าเกิดมีผีโผล่มาแล้วผมตกใจไปกอดคนที่นั่งข้าง ๆ คงจะน่ากลัวกว่าแน่ (เพราะตัวผมไปดูคนเดียว)  ผมเลยเอากระเป๋าวางไว้ที่เบาะนั่งข้าง ๆ ที่ว่างอยู่ครับ

แล้วผมต้องขอบอกว่ากระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่องนี้นะครับ  เพราะว่าผมไม่มีความรู้และความสามารถทางด้านภาพยนตร์มากพอที่จะวิจารณ์ได้  เอาเป็นว่าผมไปดูแล้วก็เลยมาเล่าความรู้สึกให้ฟังครับ  โดยผมจะพยายามไม่สปอย์เนื้อเรื่องครับ


ภาพบรรยากาศบนเวทีวันเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง โอ.ที. ผี OVERTIME




ดารานำของเรื่อง โอ.ที. ผี OVERTIME





ปกติแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะดูหนังผีสักเท่าไหร่เลยครับ  สาเหตุคงไม่ใช่เพราะว่าผมกลัวผีหรอกครับ  แต่เป็นเพราะว่าผมเป็นชายโสดครับ  หนังผียิ่งดูคนเดียวยิ่งน่ากลัวครับ  แล้วผมก็เป็นคนที่ขี้สะดุ้งด้วยครับ  ถ้าผมเจอผีตกใจ (มุกที่อยู่ดี ๆ ผีก็โผล่ออกมาทำให้คนดูตกใจ) ผมจะตกใจสะดุ้งจนต้องอายคนที่นั่งใกล้แน่ ๆ ครับ  แต่ที่ผ่านมาผมก็เคยเข้าไปดูหนังผีในโรงดูบ้างแล้วครับ  (นับเฉพาะหนังไทยนะครับ)  โดยหนังผีเรื่องที่ผมดูแล้วชอบมาก ๆ ก็น่าจะเป็นเรื่อง  บุปผาราตรี และ กระสือวาเลนไทน์ ครับ  ส่วนเรื่องอื่น ๆ ผมอาศัยรอดูทางฟรีทีวีหรือเคบิ้ลทีวีเอาครับ

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง  โอ.ที. ผี OVERTIME นี้  ตามความคิดเห็นของผมเรื่องนี้น่าจะตั้งชื่อเรื่องผิดครับ  เพราะว่าถ้าพูดถึงผีที่มาหลอกคนที่อยู่ทำ โอ.ที. ตอนดึก ๆ นั้น  น่าจะเป็นเรื่อง ตีสาม 3D  ในภาคที่แล้วมากกว่า  โดยในเรื่องเจ้านายที่เป็นเจ้าของบริษัทแกล้งทำเป็นผีเพื่อหลอกพนักงานที่ชอบอ้อยอิ่งในเวลากลางวัน  แล้วก็ทำงานไม่ทันจนต้องอยู่ทำโอ.ที. ตอนดึก ๆ   แต่ในหนังภาคนี้ผมคิดว่าน่าจะตั้งชื่อเรื่องประมาณว่า “เล่น-แสร้ง-หลอก” หรือ “เล่น-หลอก-หลอน” หรือ “แค้น-แกล้ง-หลอก” มากกว่าครับ  เพราะว่าในเรื่องไม่ได้เป็นการทำงานโอ.ที. ตอนดึก ๆ ในออฟฟิตอีกแล้ว  แต่เป็นการออกไปทำงานอีเวนท์นอกสถานที่  โดยมีผีจากที่ออฟฟิตติดสอยห้อยตามไปด้วยเท่านั้นเอง

ในภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามเล่นกับคำว่า “ผี” หรือ “แผน”   เพื่อให้ต่อจากคอนเซ็ปท์ของเรื่องจากภาคก่อนที่มีการแกล้งหลอกผีกันตลอดเรื่อง  ซึ่งในภาคนี้ก็ยังแกล้งหลอกผีกันต่อ แล้วเป็นการหลอกแบบจัดฉากอภิมโหฬารหลอนด้วยครับ  แต่วัตถุประสงค์ของการหลอกผีนั้นต่างจากภาคก่อนโดยสิ้นเชิง  ดังนั้นเมื่อมีผีจริงและผีปลอมปรากฏตัวสลับกันไปมาตลอดในเรื่อง  หนังผีเรื่องนี้จึงพยายามใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบที่ (ตัวละคร)ทุกคนรู้  แต่มี(ตัวละคร)ที่ไม่รู้อยู่ 1 คน  โดยในเรื่องตอนท้ายจะมาเฉลยว่าใครไม่รู้และใครรู้บ้าง  สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าเดินเรื่องในลักษณะนี้ได้ดีในระดับหนึ่งเลย  ซึ่งจริง ๆ แล้วเทคนิคการเล่าเรื่องแบบนี้เรียกว่าเทคนิคการสมรู้ร่วมคิด  ถ้าผู้สร้างจะทำให้พลิกแพลงมากขึ้นไปอีก  ผู้สร้างต้องทำให้ตัวละครทุกตัวรู้  แต่ผู้ชมภาพยนตร์ทุกคนที่นั่งอยู่ในโรงไม่รู้   โดยไม่ต้องเฉลยในตอนท้ายแต่ต้องทำให้ผู้ชมสามารถรู้ได้ก็เมื่อถึงตอนที่เดินออกจากโลงแล้ว  ถ้าทำได้ถึงขั้นนี้จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนั้นติดคาอยู่ในใจผู้ชมได้นาน  อย่างน้อยก็หลายวันแน่ ๆ ครับ

แต่ภาพยนตร์เรื่อง โอ.ที. ผี OVERTIME นี้ถือว่าสามารถดูจบได้ใน 1 วัน  สำหรับคนที่กลัวผีมาก ๆ ผมก็คิดว่ายังสามารถดูได้  ผมไม่ได้บอกว่าผู้สร้างทำผีในเรื่องไม่เหมือน  ไม่น่ากลัวหรือว่าไม่สมจริงหรอกนะครับ  แต่ผมคิดว่าฉาก (โลเคชั่น) ของเรื่องนั้นทำให้เรื่องนี้น่ากลัวอยู่เพียงแค่ได้ดูในโรงเท่านั้น  แต่พอออกนอกโรงคนดูก็เลิกกลัวแล้ว  เพราะว่าในชีวิตจริงของเราคงจะมีโอกาสน้อยมากที่จะต้องไปสัมผัสโรงแรมร้างขนาดนั้น  ดังนั้นจึงทำให้ผีที่อยู่ในบ้าน, ผีที่อยู่ในภาพถ่าย, ผีที่อยู่ในโรงพยาบาล, ผีที่อยู่ในหลุม หรือผีที่อยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เราสามารถเจอได้นั้นน่ากลัวมากกว่า

เอาเป็นว่าถ้าต้องเสียเงินซื้อตั๋วชมภาพยนตร์เรื่องนี้  สำหรับผมถือว่าโอเคครับ  ดูแบบขำขำไม่คิดมากก็ไม่เสียดายเงินครับ  ดูเพื่อฆ่าเวลาหรือรอเวลาก็โอเคดูได้ไม่ถึงกับผิดหวัง  เรื่องนี้สร้างความบันเทิงเชิงหลอนได้ดีพอสมควร แต่สำหรับคนที่ต้องการเสพความหลอนโดยเฉพาะแล้วก็อาจจะผิดหวังก็เป็นได้  ก็อย่างที่บอกว่าผีในหนังเรื่องไม่สามารถหลอกหลอนให้ความกลัวคิดตัวผู้ชมออกมานอกโรงได้ครับ

แต่สำหรับคอหนังไทย  ผู้ที่ชอบอุดหนุนหนังไทย  ชอบชมภาพยนตร์ไทยเป็นชีวิตจิตใจ  ผมคิดว่าควรไปซื้อตั๋วชมภาพยนตร์เรื่องนี้เพื่อให้กำลังใจแก่ทีมผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยก็คงจะเป็นการดีครับ  แล้วผมก็อยากจะบอกว่าผมชอบพี่เรย์ แม็คโดนัลด์ในเรื่องนี้มากเลยครับ  ภาพลักษณ์พี่เรย์ในเรื่องดูเซอร์ได้ใจดีครับ บทบาทการแสดงดูเหมือนจะเป็นผู้ที่แบกเรื่องนี้ไว้เกือบทั้งเรื่อง  (พี่เรย์ดึงเข้า  แต่อนันดาผลักออกตลอดเลยครับ  ซึ่งน่าจะเป็นความตั้งใจของผู้สร้างด้วยครับ)




นักแสดงและผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่อง โอ.ที. ผี OVERTIME





ท้ายสุดนี้ต้องขอขอบคุณคนทำหนังไทย  ที่ยังทำให้ภาพยนตร์ไทยยังคงอยู่ได้ ถึงแม้ว่าคุณภาพของหนังจะเป็นไปตามมาตราฐานของภาพยนตร์ไทยที่เรารู้กันอยู่ก็ตาม  ผมก็ยังต้องขอขอบคุณที่ท่านมีความตั้งใจที่จะสร้างภาพยนตร์ไทยที่ดี ๆ ออกมาครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้  ขอให้ท่านมีความสุขมาก ๆ ครับ


อิอิ

พาพันชอบพาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่