ในฐานะผู้บริโภค ผมว่ามันน่าจะตกใจ และ รู้สึกถึงการเอาเปรียบ ผูกขาด และความไม่คุ้มค่าเงินมากกว่านะ แต่สาวกหลายๆท่านแสดงออกถึงอาการดีใจ ภูมืใจที่แอปเปิ้ลร่ำรวย มีส่วนต่างกำไรเยอะ ซึ่งมันก็มาจากการที่ผู้บริโภคต้องซื้อไอโฟนในราคาแพงมากๆ แต่เสปกต่ำมากๆ ต่ำกว่าฝั่งแอนดรอยมากนั่นเอง ตรงนี้แสดงว่ามันเป็นค่านิยมหรือเปล่า เป็นความภักดีต่อแบรนด์ที่ปราศจากการพิจารณาไตร่ตรอง ในแง่ของความคุ้มค่าในการใช้งานต่อราคาหรือเปล่า
พิจารณาถึงประสิทธิภาพในการทำกำไรและการขายไอโฟน ไอโฟนจะมีเสปกที่ต่ำมากๆตลอดมา จะต้องตามหลังฝั่งแอนดรอยในเรื่องเสปกของฮาร์ดแวร์ประมาณสามสี่ปีเสมอ เช่น ไอโฟน 6 6+ เสปกผมให้แบบเต็มที่จะได้แค่ NOTE 2 ที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบัน เมื่อเสปกต่ำก็ประหยัดต้นทุนได้มหาศาล เพราะต้นทุนเครื่องๆหนึ่ง มาจากฮาร์ดแวร์เป็นส่วนมาก และฮาร์ดแวร์ในวงการอิเลคทรอนิกส์คอมพิวเตอร์ก็ทราบกันดีว่า ฮาร์ดแวร์ที่ออกใหม่ๆ เสปกสูงๆจะมีราคาแพง แต่ถ้าผ่านไปอีกปีสองปี มีฮาร์ดแวร์ใหม่ๆเสปกสูงกว่าออกมา ฮาร์ดแวร์เมื่อสองปีที่แล้ว ราคาจะดิ่ง ต่ำลงไปเยอะ ดีไม่ดีเป็นของเหลือที่ขายไม่ออก ไม่มีใครใช้แล้ว ขายโละแบบชั่งกิโลขายทิ้งแบบถูกๆได้เลย ใครสามารถซื้อฮาร์แวร์เก่าๆตกรุ่นพวกนี้ไปสร้างเคสใหม่ขายเป็นของพรีเมี่ยมได้ย่อมทำกำไรได้มหาศาล
เมื่อมองในแง่ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ที่ต้องรองรับการทำงานของซอร์ฟแวร์ เสปกฮาร์แวร์เก่าๆประสิทธิภาพต่ำๆ ย่อมมาถึงทางตันในการรองรับซอร์ฟแวร์ ก่อนฮาร์แวร์เสปกสูงๆ ฮาร์ดแวร์กับซอร์ฟแวร์ต้องก้าวไปพร้อมๆกันในการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่อง การใช้งานรูปแบบต่างๆ จะอวดอ้างว่าฮาร์ดแวร์ต่ำแต่มีประสิทธิภาพสูงเพราะซอร์ฟแวร์ดีอย่างเดียว มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ครับ อย่าง NOTE2 ทุกวันนี้รองรับ OS ที่ใหญ่ขึ้นอย่าง แอนดรอย 4.4 คิทแคท ได้สบายๆ แต่จะให้ดีเทียบเท่า NOTE3 ที่เสปกสูงขึ้นอีกขั้นหนึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้ ตรงกันข้ามกับ ไอโฟน5 กับ ไอโฟน 6 ที่เสปกต่างกันมากเหมือนคนละยุค แบบนี้ถ้าเปลี่ยน OS เช่น จาก iOS7 เป็น iOS8 จะมีปัญหาเยอะกว่า และก็เป็นเหตุผลทางอ้อมกลายๆ ที่สาวกไอโฟนมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่อง นี่ก็อีกเหตุผลหนึ่งที่ช่วยดันยอดขายและผลกำไรของแอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลสามารถทำกำไรได้มหาศาลจากเหตุผลที่กล่าวมา ประกอบกับลูกค้ามีความภักดีในแบรนด์สูงหรือภาษาการตลาดเรียกว่า Brand Loyalty สูงมาก อีกทั้งยังเป็นระบบที่ผูกขาด มียี่ห้อเดียวที่ใช้ระบบ iOS ต่างจากแอนดรอยที่มีคูแข่งหลายยี่ห้อ มีการแข่งขันกันสูงมาก แต่ละยี่ห้อต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่คุ้มค่าเงินลูกค้าให้มากที่สุด จึงไม่แปลกอะไรที่ความสามารถในการทำกำไรต่อหน่วยของแอนดรอยทุกยี่ห้อจะสู้แอปเปิ้ลไม่ได้
แล้วเราในฐานะผู้บริโภค ควรจะเลือกสิ่งไหน
ทำไมต้องมีคนดีใจด้วยที่แอปเปิ้ลทำกำไรต่อเครื่องได้มากมายมหาศาล
พิจารณาถึงประสิทธิภาพในการทำกำไรและการขายไอโฟน ไอโฟนจะมีเสปกที่ต่ำมากๆตลอดมา จะต้องตามหลังฝั่งแอนดรอยในเรื่องเสปกของฮาร์ดแวร์ประมาณสามสี่ปีเสมอ เช่น ไอโฟน 6 6+ เสปกผมให้แบบเต็มที่จะได้แค่ NOTE 2 ที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบัน เมื่อเสปกต่ำก็ประหยัดต้นทุนได้มหาศาล เพราะต้นทุนเครื่องๆหนึ่ง มาจากฮาร์ดแวร์เป็นส่วนมาก และฮาร์ดแวร์ในวงการอิเลคทรอนิกส์คอมพิวเตอร์ก็ทราบกันดีว่า ฮาร์ดแวร์ที่ออกใหม่ๆ เสปกสูงๆจะมีราคาแพง แต่ถ้าผ่านไปอีกปีสองปี มีฮาร์ดแวร์ใหม่ๆเสปกสูงกว่าออกมา ฮาร์ดแวร์เมื่อสองปีที่แล้ว ราคาจะดิ่ง ต่ำลงไปเยอะ ดีไม่ดีเป็นของเหลือที่ขายไม่ออก ไม่มีใครใช้แล้ว ขายโละแบบชั่งกิโลขายทิ้งแบบถูกๆได้เลย ใครสามารถซื้อฮาร์แวร์เก่าๆตกรุ่นพวกนี้ไปสร้างเคสใหม่ขายเป็นของพรีเมี่ยมได้ย่อมทำกำไรได้มหาศาล
เมื่อมองในแง่ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ที่ต้องรองรับการทำงานของซอร์ฟแวร์ เสปกฮาร์แวร์เก่าๆประสิทธิภาพต่ำๆ ย่อมมาถึงทางตันในการรองรับซอร์ฟแวร์ ก่อนฮาร์แวร์เสปกสูงๆ ฮาร์ดแวร์กับซอร์ฟแวร์ต้องก้าวไปพร้อมๆกันในการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่อง การใช้งานรูปแบบต่างๆ จะอวดอ้างว่าฮาร์ดแวร์ต่ำแต่มีประสิทธิภาพสูงเพราะซอร์ฟแวร์ดีอย่างเดียว มันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ครับ อย่าง NOTE2 ทุกวันนี้รองรับ OS ที่ใหญ่ขึ้นอย่าง แอนดรอย 4.4 คิทแคท ได้สบายๆ แต่จะให้ดีเทียบเท่า NOTE3 ที่เสปกสูงขึ้นอีกขั้นหนึ่งมันก็เป็นไปไม่ได้ ตรงกันข้ามกับ ไอโฟน5 กับ ไอโฟน 6 ที่เสปกต่างกันมากเหมือนคนละยุค แบบนี้ถ้าเปลี่ยน OS เช่น จาก iOS7 เป็น iOS8 จะมีปัญหาเยอะกว่า และก็เป็นเหตุผลทางอ้อมกลายๆ ที่สาวกไอโฟนมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่อง นี่ก็อีกเหตุผลหนึ่งที่ช่วยดันยอดขายและผลกำไรของแอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลสามารถทำกำไรได้มหาศาลจากเหตุผลที่กล่าวมา ประกอบกับลูกค้ามีความภักดีในแบรนด์สูงหรือภาษาการตลาดเรียกว่า Brand Loyalty สูงมาก อีกทั้งยังเป็นระบบที่ผูกขาด มียี่ห้อเดียวที่ใช้ระบบ iOS ต่างจากแอนดรอยที่มีคูแข่งหลายยี่ห้อ มีการแข่งขันกันสูงมาก แต่ละยี่ห้อต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์ ที่คุ้มค่าเงินลูกค้าให้มากที่สุด จึงไม่แปลกอะไรที่ความสามารถในการทำกำไรต่อหน่วยของแอนดรอยทุกยี่ห้อจะสู้แอปเปิ้ลไม่ได้
แล้วเราในฐานะผู้บริโภค ควรจะเลือกสิ่งไหน