หลายปีมาแล้วที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมีพระราชปรารภกับผู้ใกล้ชิดว่า ในภาคอีสานนั้น มีพรรณไม้เล็กๆ สวยงามตามท้องทุ่ง ซึ่งไม่เคยทอดพระเนตร ห็นในภาคอื่นๆ เลย โดยเฉพาะในจังหวัดสกลนคร บริเวณที่ตั้งพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ใกล้ๆ กับเชิงเขาจะมีดอกหญ้าป่า เล็กๆ ชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นสีม่วงและสีนำ้ำเงินสด มีกลิ่นหอม และจะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งทุ่ง เป็นลานกว้างในช่วงปลายฤดูฝนต้นหนาว ซึ่งได้พระราชทานนามดอกไม้ป่าดอกเล็กๆ นี้ว่า "ดอกดุสิตา"
ณ บริเวณพื้นที่ใกล้ๆ พระตำหนัก ภูพานราชนิเวศน์ ในเนื้อที่ประมาณ ๕๐ ไร่ คือบริเวณที่เกิดของทุ่งดอกหญ้าป่าเล็กๆ หลากสีสันและโดยเฉพาะจะละลานตาด้วยสีม่วงของดอกดุสิตาที่ได้พระราชทานชื่อให้
นอกจากดอกดุสิตาสีม่วงที่มีเสน่ห์เด่นที่สุดแล้ว ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นขึ้นแซมอีกหลายหลากชนิด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้พระราชทานนามดอกไม้ป่าแตกต่างกันไป อาทิ มณีเทวา จะเป็นดอกกลมสีขาว หรือสีขาวอมม่วง สร้อยสุวรรณา จะสีเหลืองทองมีรูปทรงละม้ายกล้วยไม้ขนาดจิ๋ว
ทิพเกสร ดอกสีม่วงซึมอมชมพูอ่อน สรัสจันทรเป็นดอกเดี่ยวคล้ายดอกทิวลิปขนาดจิ๋ว มีสีฟ้าหม่น ดอกไม้นานาพรรณที่แซมขึ้นมาสลับกับสีม่วงของดอกดุสิตานั้น ยิ่งเพิ่มความสวยงามเป็นเสน่ห์ติดตาตรึงใจให้กับท้องทุุ่งดอกไม้ป่าธรรมชาติแห่งลานดุสิตามากยิ่งขึ้น
คราใดที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนัก ภูพานราชนิเวศน์ มักจะเสด็จพระราชดำเนินไปประทับพักผ่อนอิริยาบถในตอนเย็น ณ บริเวณทุ่งดอกหญ้าลานดุสิตาอยู่เสมอๆ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้พระราชทานพระราชดำริให้ปลูกดอกไม้ป่าและไม้ประดับเสริมธรรมชาติบริเวณลานดุสิตาและลานก้อนหินใหญ่ที่เรียงรายบนเนินเขา โดยทรงกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ว่าจ้างราษฎรที่ยากจนจากบ้านดงยอ จำนวน ๒๐ คน ทำการปรับปรุงตกแต่งลานดุสิตาและปลูกพันธุ์ไม้ป่าเพิ่มเติม ในการนี้ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นค่าตอบแทนให้กับชาวบ้านเหล่านั้น
ข้อมูลจาก : วารสารจดหมายข่าวห้องสมุดเฉพาะ สำนักราชเลขาธิการ ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๒ กุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ๒๕๓๖
ดุสิตา มณีเทวา สรัสจันทน์ ดอกหญ้าแสนสวยบนลานหินภูพานครับ ดอกหญ้าเหล่านี้จะเริ่มบานรับลมหนาวตั้งแต่ต้นเดือน พย -กพ ซึ่งจะพบกระจายตัวกันบนลานหิน เทือกเขาภูพาน อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จนถึง อุบลราชธานี
สกลนคร เคยวัดอุณหภูมิต่ำสุด -1.4 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2517 ที่สถานีอากาศเกษตร อำเภอเมืองสกลนคร และวัดได้ -2.5 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2542 สถานีตรวจอากาศเกษตรสกลนคร ลมหนาวเริ่มพัดมา ปีนี้อากาศดีๆ น่าขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์กันนะครับ
รับลมหนาวบนลานหิน ที่ทุ่งดอกหญ้าป่า "ดุสิตา" พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์
หลายปีมาแล้วที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงมีพระราชปรารภกับผู้ใกล้ชิดว่า ในภาคอีสานนั้น มีพรรณไม้เล็กๆ สวยงามตามท้องทุ่ง ซึ่งไม่เคยทอดพระเนตร ห็นในภาคอื่นๆ เลย โดยเฉพาะในจังหวัดสกลนคร บริเวณที่ตั้งพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ใกล้ๆ กับเชิงเขาจะมีดอกหญ้าป่า เล็กๆ ชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นสีม่วงและสีนำ้ำเงินสด มีกลิ่นหอม และจะบานสะพรั่งไปทั่วทั้งทุ่ง เป็นลานกว้างในช่วงปลายฤดูฝนต้นหนาว ซึ่งได้พระราชทานนามดอกไม้ป่าดอกเล็กๆ นี้ว่า "ดอกดุสิตา"
ณ บริเวณพื้นที่ใกล้ๆ พระตำหนัก ภูพานราชนิเวศน์ ในเนื้อที่ประมาณ ๕๐ ไร่ คือบริเวณที่เกิดของทุ่งดอกหญ้าป่าเล็กๆ หลากสีสันและโดยเฉพาะจะละลานตาด้วยสีม่วงของดอกดุสิตาที่ได้พระราชทานชื่อให้
นอกจากดอกดุสิตาสีม่วงที่มีเสน่ห์เด่นที่สุดแล้ว ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นขึ้นแซมอีกหลายหลากชนิด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้พระราชทานนามดอกไม้ป่าแตกต่างกันไป อาทิ มณีเทวา จะเป็นดอกกลมสีขาว หรือสีขาวอมม่วง สร้อยสุวรรณา จะสีเหลืองทองมีรูปทรงละม้ายกล้วยไม้ขนาดจิ๋ว
ทิพเกสร ดอกสีม่วงซึมอมชมพูอ่อน สรัสจันทรเป็นดอกเดี่ยวคล้ายดอกทิวลิปขนาดจิ๋ว มีสีฟ้าหม่น ดอกไม้นานาพรรณที่แซมขึ้นมาสลับกับสีม่วงของดอกดุสิตานั้น ยิ่งเพิ่มความสวยงามเป็นเสน่ห์ติดตาตรึงใจให้กับท้องทุุ่งดอกไม้ป่าธรรมชาติแห่งลานดุสิตามากยิ่งขึ้น
คราใดที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนัก ภูพานราชนิเวศน์ มักจะเสด็จพระราชดำเนินไปประทับพักผ่อนอิริยาบถในตอนเย็น ณ บริเวณทุ่งดอกหญ้าลานดุสิตาอยู่เสมอๆ ในปี พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้พระราชทานพระราชดำริให้ปลูกดอกไม้ป่าและไม้ประดับเสริมธรรมชาติบริเวณลานดุสิตาและลานก้อนหินใหญ่ที่เรียงรายบนเนินเขา โดยทรงกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ว่าจ้างราษฎรที่ยากจนจากบ้านดงยอ จำนวน ๒๐ คน ทำการปรับปรุงตกแต่งลานดุสิตาและปลูกพันธุ์ไม้ป่าเพิ่มเติม ในการนี้ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นค่าตอบแทนให้กับชาวบ้านเหล่านั้น
ข้อมูลจาก : วารสารจดหมายข่าวห้องสมุดเฉพาะ สำนักราชเลขาธิการ ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๒ กุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม ๒๕๓๖
ดุสิตา มณีเทวา สรัสจันทน์ ดอกหญ้าแสนสวยบนลานหินภูพานครับ ดอกหญ้าเหล่านี้จะเริ่มบานรับลมหนาวตั้งแต่ต้นเดือน พย -กพ ซึ่งจะพบกระจายตัวกันบนลานหิน เทือกเขาภูพาน อุดรธานี หนองบัวลำภู สกลนคร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จนถึง อุบลราชธานี
สกลนคร เคยวัดอุณหภูมิต่ำสุด -1.4 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2517 ที่สถานีอากาศเกษตร อำเภอเมืองสกลนคร และวัดได้ -2.5 เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2542 สถานีตรวจอากาศเกษตรสกลนคร ลมหนาวเริ่มพัดมา ปีนี้อากาศดีๆ น่าขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์กันนะครับ