ส่วนตัวเลย ผมมอง.....
1. หุ้นต้องมี volume พอสมควร
2. ผมจะต้องดูเขาเล่นกันเองก่อนสักพัก เพื่อดูนิสัยจ้าวของแต่ละหุ้น จับมาใน watch list แล้วนั่งดูเลย ว่าโหดมากน้อยแค่ไหน ผมให้เวลา มากกว่า 30 นาทีขึ้นไป ในการนั่งดูนิสัยการปั่นของจ้าวแต่ละจ้าว
3. ผมต้องดูถึงความเป้นไปได้ว่าหุ้นที่กำลังจะปั่นนั้น มีแนวโน้มที่จะปั่นต่อไปอีก 1-2 วันข้างหน้าด้วย เพื่อที่จะเอากำไรเยอะๆ ในการขายครั้งเดียว พูดง่ายๆคือ ถ้าผมจะซื้อหุ้นปั่นสักตัว ผมจะต้องค่อนข้างชัวร์ว่ามันจะปั่นอีกในวันข้างหน้า (ข้อ 3 นี้ คงต้องใช้วิจานณญานของแต่ละคนด้วย เพราะอาจคิดไม่เหมือนกัน ) ส่วนใหญ่อาการที่จะบอกว่าหุ้นจะไปต่อในวันนี้ วันพรุ่งหรือไม่นั้น ก็จะดูที่ volume กับ sentiment ของตลาดโดยรวมนั่นแหละ ที่จะเป็นตัวบอก (ความชัวร์ที่จะเกิดขึ้น = 50/50 ต้องใช้การนั่งเทียนมโนเอา)
4. ยากที่สุด คือ ตั้ง stop loss เช่น ต่ำกว่ากี่จุด จะต้องคัท ซึ่งต้องใจแข็งคัทจริงๆ กัดฟัน กัดเหงือกคัทกันเลยทีเดียว
5. ข้อนี้เป็นความเห็นส่วนตัว คือ ผมชอบเล่นหุ้นปั่นที่มีสตอรี่ ไม่ใช่ปั่นโดดๆ ไม่มีที่มาที่ไป ส่วนใหญ่ผมจะดูข่าว ข้อมูลประกอบจากเว็บ set.or.th ว่าที่ปั่นๆอยุ่นี่ มันมีที่มาจากอะไร มีข่าว Q3 จะดีมีกำไร และก็ดูพวก p/e p/bv dividend อะไรพวกนี้ด้วย เพราะ มันจะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เช่น หุ้นบางตัวเหมือนปั่น แต่อ่านไปอ่านมา เฮ่ย มันหุ้น growth นี่หว่า อาจถือต่อไปสักเดือนนึงเลยก้ได้ อะไรแบบนี้ เป็นต้น
ก็ประมาณนี้ฮะ
ขอเหตผลในการที่ท่านๆ จะเข้าซื้อหุ้น"ปั่น"ตัวนึง..... ท่านมองอะไรบ้างคับ ?
1. หุ้นต้องมี volume พอสมควร
2. ผมจะต้องดูเขาเล่นกันเองก่อนสักพัก เพื่อดูนิสัยจ้าวของแต่ละหุ้น จับมาใน watch list แล้วนั่งดูเลย ว่าโหดมากน้อยแค่ไหน ผมให้เวลา มากกว่า 30 นาทีขึ้นไป ในการนั่งดูนิสัยการปั่นของจ้าวแต่ละจ้าว
3. ผมต้องดูถึงความเป้นไปได้ว่าหุ้นที่กำลังจะปั่นนั้น มีแนวโน้มที่จะปั่นต่อไปอีก 1-2 วันข้างหน้าด้วย เพื่อที่จะเอากำไรเยอะๆ ในการขายครั้งเดียว พูดง่ายๆคือ ถ้าผมจะซื้อหุ้นปั่นสักตัว ผมจะต้องค่อนข้างชัวร์ว่ามันจะปั่นอีกในวันข้างหน้า (ข้อ 3 นี้ คงต้องใช้วิจานณญานของแต่ละคนด้วย เพราะอาจคิดไม่เหมือนกัน ) ส่วนใหญ่อาการที่จะบอกว่าหุ้นจะไปต่อในวันนี้ วันพรุ่งหรือไม่นั้น ก็จะดูที่ volume กับ sentiment ของตลาดโดยรวมนั่นแหละ ที่จะเป็นตัวบอก (ความชัวร์ที่จะเกิดขึ้น = 50/50 ต้องใช้การนั่งเทียนมโนเอา)
4. ยากที่สุด คือ ตั้ง stop loss เช่น ต่ำกว่ากี่จุด จะต้องคัท ซึ่งต้องใจแข็งคัทจริงๆ กัดฟัน กัดเหงือกคัทกันเลยทีเดียว
5. ข้อนี้เป็นความเห็นส่วนตัว คือ ผมชอบเล่นหุ้นปั่นที่มีสตอรี่ ไม่ใช่ปั่นโดดๆ ไม่มีที่มาที่ไป ส่วนใหญ่ผมจะดูข่าว ข้อมูลประกอบจากเว็บ set.or.th ว่าที่ปั่นๆอยุ่นี่ มันมีที่มาจากอะไร มีข่าว Q3 จะดีมีกำไร และก็ดูพวก p/e p/bv dividend อะไรพวกนี้ด้วย เพราะ มันจะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เช่น หุ้นบางตัวเหมือนปั่น แต่อ่านไปอ่านมา เฮ่ย มันหุ้น growth นี่หว่า อาจถือต่อไปสักเดือนนึงเลยก้ได้ อะไรแบบนี้ เป็นต้น
ก็ประมาณนี้ฮะ