"บีม" เปิดใจท้อง 4 เดือน หวั่นทำชื่อเสียง "พ่อดี๋" เสื่อมเสีย ลั่นไม่ใช่เรื่องผิดพลาดในชีวิต


“บีม วรานิษฐ์” แถลงขอโอกาส ขอความเห็นใจ ย้ำท้องก่อนแต่งไม่ใช่เรื่องดี เพราะทำผิดขนบธรรมเนียมประเพณีดีงาม แต่ไม่ใช่ความผิดพลาดในชีวิต แค่ลูกมาผิดจังหวะ เผยเตรียมเป็นซิงเกิลมัมเต็มตัว รับกังวลหวั่นทำชื่อเสียง “พ่อดี๋” เสื่อมเสีย ส่วนแฟนเก่าไร้พันธะ ลั่นไม่แต่งงานเพราะทัศนคติไม่ตรงกัน ส่วนเรื่องเซ็นรับรองบุตรและค่าเลี้ยงดูเป็นเรื่องอนาคต
       
        อยู่ดีๆ ก็ทำเอาแฟนๆ พากันช็อก เพราะออกมาประกาศว่ากำลังตั้งครรภ์ 4 เดือนแล้ว อีกทั้งไม่ง้อแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกรากันไป งานนี้หลังมีกระแสข่าวหลุดออกไป แฟนๆ ต่างให้กำลังใจ “บีม-วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ” ลูกตลกดัง “ดี๋ ดอกมะดัน” เป็นจำนวนมาก และล่าสุดวันนี้(21 ตุลาคม 2557) เจ้าตัวก็ขอเปิดใจอีกครั้งพร้อมครอบครัว ณ Surface ทองหล่อ 11 ถึงการเตรียมตัวเป็นซิงเกิลมัม พร้อมแก้คำครหาไม่แต่งงานเพราะฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว
       
        “วันนี้บีมได้จัดงานให้มาเจอกันเพราะว่าทุกๆ ท่านก็ดูแลครอบครัวบีมเป็นอย่างดี ตั้งแต่คุณพ่อมาแล้ว และเราก็เป็นคนในวงการและยังทำงาน และยังมีรายได้จากการทำงานในวงการก็อยากจะให้เกียรติทุกๆ คนที่ดูแลครอบครัวเราเป็นอย่างดีที่จะมาแจ้งข่าวดีที่จะมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบ ว่าบีมมีข่าวดีคือกำลังตั้งครรภ์ (ยิ้ม) ตอนนี้ 4 เดือนกว่าแล้ว เป็นผู้ชายค่ะ (ยิ้ม) ก็อยากที่จะมาให้ทุกคนได้ยินจากปากบีมมากกว่า เพราะว่าบีมก็ไม่ได้ไปไหนยังทำงานอยู่ตรงนี้ ไม่อยากให้มีการพูดกันไปเองก่อน อันนี้เป็นความตั้งใจจริงที่บีมอยากจะออกมาบอกกับทุกๆ คนในเรื่องนี้ค่ะ เพราะเป็นเรื่องที่ดี”
       
        “และในเรื่องราวที่บีมเป็นซิงเกิ้ลมัม ไม่ได้แต่งงาน อันนี้เป็นความตั้งใจและเป็นการคิดไตร่ตรองมาอย่างดีแล้วค่ะ คือเริ่มจากบีมกับคุณพ่อของน้องเราก็รู้จักกันมานานแล้ว ก็มีช่วงเวลาที่ไม่ดี ไม่พอใจกันหลายๆ ครั้ง ก็พยายามอย่างที่สุดที่จะเป็นคนรักกัน แต่ว่าในเมื่อมันเป็นไม่ได้ก็เลยตัดสินใจที่จะเลิกกัน แต่พอดีว่าเกิดเรื่องราวตรงนี้ขึ้นมา เราก็หันกลับมาพยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่จะทำให้เรากลายเป็นครอบครัวกันได้ เพราะว่าเรามีลูกด้วยกัน แต่พอถึงเวลาหนึ่งบีมก็มาคิดอีกทีเป็นความคิดตัดสินใจของบีมและได้ปรึกษากับเขา ว่าในเมื่อเราไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้ เป็นสามีภรรยากันหรือว่าจะแต่งงานกัน ถ้าเกิดจะแต่งงานเพราะว่าเรามีลูกด้วยกัน บีมรู้สึกว่ามันไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับลูกบีม เพราะว่าการที่คนเราแต่งงานกันมันไม่ใช่แค่งานแต่งงานเท่านั้น แต่ว่ามันคือชีวิตที่เราต้องใช้ร่วมกัน ถ้าเกิดเราไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกัน มีทัศนคติที่ตรงกันในการใช้ชีวิต บีมเชื่อว่าลูกของบีมก็คงจะเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีน่ะค่ะ ในการไตร่ตรองตรงนี้บีมก็ขอข้อมูลทุกอย่างว่าการที่คนเราเป็นครอบครัวเดียวกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน ถึงแม้ว่าจะอยู่บ้านเดียวกันก็ตามแต่ลูกของเขาก็อาจจะมีปัญหาได้ แต่ถ้าเกิดเราทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ให้ความรัก ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม แต่บีมเชื่อว่าลูกจะต้องเติบโตมาอย่างแข็งแรงที่สุด เพราะว่าความรักที่เรามอบให้”
       
        “เราไม่ได้โกรธกันนะคะ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังพูดคุยกันได้ แต่เราไม่สามารถจะเป็นสามีภรรยากันได้ ก็เลยเป็นการตัดสินใจที่เห็นลูกเป็นคนสำคัญที่สุดค่ะ คิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว บีมไม่ต้องการการแต่งงานถ้ามันจะทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง ก็อยากที่จะตัดสินใจตั้งแต่วันนี้มากกว่าแต่งไปแล้วรู้สึกแย่ทีหลังว่ามันไม่ใช่แล้วต้องมาเลิกทีหลัง คือบีมมองไปถึงอนาคตว่ามันคงไม่โอเคสำหรับเราเพราะว่าบีมปรึกษาทั้งเบลล์ ทั้งแม่แล้ว และทุกคนก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้ แล้วเราก็ตื่นเต้นกันมากที่จะมีสมาชิกใหม่เข้ามา (ยิ้ม) เพราะบีมก็เพิ่งสูญเสียคุณพ่อไป เราก็เป็นผู้หญิงสามคนอยู่ในบ้าน แต่ตอนนี้เรากำลังจะมีผู้ชายในบ้านแล้ว และจะเป็นคนที่จะมาดูแลทั้งแม่ ทั้งคุณยาย ทั้งคุณน้า และจะได้มีความสุขกัน ซึ่งเราก็ไม่ได้กีดกันคุณพ่อเขานะคะ ก็ยังช่วยกันรับผิดชอบ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดในการเป็นพ่อเป็นแม่และดูแลลูก ซึ่งบีมก็เลี้ยงลูกได้ไม่มีปัญหาอะไร(ยิ้ม)"
       
        เผยตกใจหลังรู้ว่าท้องแต่ต้องตั้งสติ ยันฝ่ายชายไร้พันธะ ส่วนตนหวั่นทำชื่อเสียงพ่อเสื่อมเสีย
       “ตอนแรกที่รู้ว่าท้องก็ตกใจค่ะ คือเขามาแบบไม่คาดฝันน่ะค่ะ แต่ก็ต้องตั้งสติและบอกคนใกล้ชิด บอกแม่กับเบลล์(ชยานิษฐ์) แล้วก็ช่วยกันแก้ไขปัญหาไป”
       
        “ที่มีกระแสว่าไม่แต่งงานเพราะเขามีครอบครัวแล้วก็ไม่ใช่นะคะ เขาเป็นคนโสด ไม่ได้แต่งงานค่ะ และก็ยอมรับว่าตอนแรกก็กังวลกับกระแสสังคม เพราะด้วยความที่เป็นลูกพ่อดี๋ พ่อก็เป็นคนที่มีคนรู้จัก เราก็คิดว่าจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของพ่อหรือเปล่า แต่ว่าในเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ต้องแก้ไขปัญหาให้ดีที่สุด ลูกเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ เราก็ต้องแก้ไขให้เขามีชีวิตที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความสุข และบีมก็อยากจะขอความเห็นใจ ขอโอกาสตรงนี้ว่าบีมก็ยอมรับที่อาจจะทำผิดขนบธรรมเนียมประเพณี แต่ว่าจะไม่ทำผิดอีก จะไม่ทำผิดต่อลูก บีมกล้าที่จะออกมาบอกกับทุกๆ คนว่าบีมจะเลี้ยงลูก จะไม่แต่งงาน เพราะฉะนั้นอยากให้เข้าใจว่ามันเป็นการแก้ไขปัญหาของบีมที่ดีที่สุดแล้วค่ะ”
       
        บอกครอบครัวอีกฝ่ายโอเคกับการตัดสินใจของตน ต่างคนต่างพร้อมทำหน้าที่ของตัวเอง
       “เป็นการตัดสินใจของบีมค่ะ คือเราก็มีแนวคิดการตัดสินใจของเรา แต่เราก็ปรึกษากันว่าเป็นทางออกที่เราเห็นว่าดีที่สุดสำหรับลูกเราน่ะค่ะ ซึ่งพอบอกเขาแล้วเขาก็โอเคค่ะ เพราะว่าเป็นการตัดสินใจที่ทำเพื่อลูก ตอนนี้เราไม่ได้เล็งเห็นถึงตัวเอง เราต้องนึกถึงลูกเป็นคนสำคัญที่สุด ทางครอบครัวเขาก็รับรู้ค่ะ ตอนนี้ก็โอเคทุกฝ่ายกับการตัดสินใจตรงนี้ อย่างที่บอกว่าคนที่สำคัญที่สุดคือเด็กในท้อง ตอนนี้ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองค่ะ ก็เป็นพ่อเป็นแม่ ช่วยกันรับผิดชอบค่ะ คือเราพยายามอย่างดีที่สุดแล้วที่เราจะเป็นครอบครัวกัน แต่มันไม่ได้จริงๆ ค่ะ"
       
        เผยยังไม่คิดถึงเรื่องให้อีกฝ่ายเซ็นรับรองเป็นลูก ไม่ซีเรียสค่าเลี้ยงดูบุตร
       “ยังไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย(หัวเราะ) คงอีกสักพักน่ะค่ะ เรื่องรายละเอียดยังไม่ได้พูดคุยกันมากค่ะ เป็นเรื่องดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ค่ะ เราไม่ได้ซีเรียสเรื่องตรงนี้”
       
        “เรื่องรายละเอียดมันก็อธิบายยากนะคะ มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่ไม่ได้มีใครผิด แต่ว่ามันอาจจะไม่ลงล็อกในการที่จะคบกัน เรื่องการใช้ชีวิตต่างๆ ทัศนคติอาจจะมองกันคนละมุม แต่ก็เป็นเพื่อนที่ดีและไม่ได้เกลียดกัน ไม่ได้โกรธกัน ยังคุยกันได้”
       
        ย้ำไม่คิดว่าการมีลูกเป็นมรสุมชิต แค่ผิดขนบธรรมเนียนประเพณีไทย โชคดีไม่มีอาการแพ้ท้อง
       “แต่ว่าอันนี้ไม่ใช่มรสุมนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีค่ะ(ยิ้ม) อาจจะผิดตรงที่ว่าไม่ได้ตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ไม่ได้แต่งงานแล้วค่อยมีลูก แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีค่ะ ไม่ได้คิดว่าเป็นมรสุมในชีวิต(ยิ้ม)"
       
        “โชคดีที่ไม่แพ้เลย สามารถทำงานได้ปกติค่ะ ดูแลเป็นพิเศษเรื่องของอาหารการกิน การบำรุง ดูแลตัวเองมากหน่อยเวลาจะเดินก็ต้องระวังมากขึ้น เพราะว่าเรามีอีกชีวิตหนึ่งอยู่ในท้อง แต่ตอนนี้ยังงงๆ อยู่เลยว่านี่จะเป็นแม่คนแล้วเหรอ ยังทำอะไรไม่ค่อยถูก แต่บีมว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่มันก็เริ่มมาแล้ว เราเริ่มรู้สึกเพราะทุกวันนี้เวลาจะเดินเราก็ระวังเป็นพิเศษ ต้องดูแลตัวเอง อยากจะทานอะไรก็ต้องดูอย่างดี ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุดตั้งแต่เขาอยู่ในท้องเรา(ยิ้ม)”
       
        รับฝ่ายชายอยากดูแล แต่ตนแข็งแรงมาก คาดพ่อดี๋คงดีใจที่จะมีผู้ชายมาดูแลแทนพ่อ
       “เขาก็พยายามที่จะถามไถ่ทุกอย่าง พยายามที่จะดูแล แต่ว่าด้วยความที่เราแข็งแรงมากมาตลอด ก็เลยไม่ได้เจอกันขนาดนั้น แต่ก็มีการโทรศัพท์พูดคุยกันเรื่องลูกค่ะ คิดว่าพ่อดี๋ก็คงดีใจค่ะ คือทุกวันนี้บ้านเราไม่มีผู้ชายที่จะมาดูแลผู้หญิงสามคน เขาก็น่าจะดีใจที่ต่อไปนี้เราจะมีผู้ชายอีกคนที่จะมาดูแลแทนคุณพ่อ(ยิ้ม)”
       
        “จริงๆ ทุกวันนี้ก็ทำงานหนักอยู่ค่ะ แต่ว่าทำงานหนักแบบมีความสุขค่ะ ไม่ได้อารมณ์เหมือนใช้หนี้ตอนนั้น(ยิ้ม) แต่ตอนนี้เรามีเป้าหมายที่อยากจะดูแลลูกเราให้ดีที่สุด ฉะนั้นการทำงานตรงนี้เป็นการทำงานที่ยิ้มทุกวัน มีความสุขทุกวัน และตอนนี้เราก็วางรากฐานนอกจากการทำงานในวงการเป็นพิธีกร ก็มีธุรกิจ ซันคลาร่า พลัส เป็นธุรกิจอาหารเสริม เพราะช่วงที่เราคลอดลูกก็ต้องพักงานไม่ได้ทำพิธีกรก็ต้องดูแลกัน”
       
        บอกฝากครรภ์เรียบร้อย ลูกแข็งแรงดี ส่วนกำลังใจจากคนรอบข้างมีให้ตนเยอะมาก
       “เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณหมอบอกว่าแข็งแรงมาก คุณหมอบอกเป็นคนที่โชคดีมากที่ไม่แพ้เลย ไปอัลตร้าซาวด์มาก็เป็นเด็กที่แข็งแรงค่ะ(ยิ้ม) ทุกคนดีใจและให้กำลังใจเยอะมากค่ะ เพราะด้วยวัยก็ควรจะมีแล้ว ถ้าไม่มีตอนนี้ก็อาจจะไม่ได้มีแล้ว(หัวเราะ) คนให้กำลังใจเยอะจนน่าตกใจ พอหลังจากที่ข่าวออกไป ทั้งในอินสตาแกรม ทั้งโซเชียลต่างๆ หรือเพื่อนๆ ที่อาจจะไม่ได้พูดคุยกันนานแล้วทุกคนก็ให้กำลังใจหมดเลย ซึ่งรู้สึกดีมากๆ ไม่คิดว่าทุกคนจะให้กำลังใจกันล้นหลามขนาดนี้ บีมก็รู้สึดตื้นตันใจที่ส่วนใหญ่แล้วเข้าใจความรู้สึกของบีม และเห็นใจเรา”
       
        “พอถึงเวลาก็จะบอกความจริงกับเขาค่ะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของคนสองคนที่ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ แต่ว่าในความเป็นพ่อเป็นว่าก็คิดว่ามีครบถ้วน น้องไม่ได้ขาดอะไรเลย"
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่