เผื่อใครมีเพื่อน หรือน้อง กำลังจะสอบเข้าแพทย์ปีนี้
จาก Unigang.com
การสอบเข้าแพทย์ครั้งใหญ่ที่สุดที่เรียกว่า กสพท.ในปีนี้ มีจำนวนรับทั้งสิ้น 1,487 คน จากจำนวนนักเรียนที่สมัครทั้งหมดเกือบสามหมื่นคน ในอัตราส่วนประมาณ 20 ต่อ 1 และนักเรียนทุกคนก็ฟิตซ้อมกันอย่างเต็มที่ สังเกตได้จาก พาร์ทเชื่อมโยงของวิชาเฉพาะแพทย์ ที่ได้คะแนนเต็มกันเกือบสองหมื่นคน
วิชาที่มีผลต่อการสอบเข้าแพทย์มากที่สุด คือวิชาเฉพาะแพทย์ โดยเมื่อเทียบคะแนนแล้ว น้ำหนักมากกว่า วิชาฟิสิกส์ เคมี หรือชีววิทยา ถึงสามเท่า มากกว่าวิชาคณิตศาสตร์สองเท่า ดังนั้นการสอบวิชานี้ จึงสำคัญมาก ถ้าทำได้เกิน 22 คะแนนจาก 30 คะแนน โอกาสสอบติดแพทย์สูงมากทีเดียว
ข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์ แบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนละ 10 คะแนน ส่วนแรกคือวัดไอคิว เป็นส่วนที่ยากที่สุด และคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ในปี 2557ได้คะแนนเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 4.38 คะแนน แต่ทั้งนี้ นักเรียนที่ทำได้ในระดับคะแนนเฉลี่ยจะอยู่ที่อันดับประมาณ 15,000 จากผู้เข้าสอบ 30,000 คน ดังนั้น ถ้าต้องการสอบเข้าแพทย์ได้ต้องทำให้สูงกว่าค่าคะแนนเฉลี่ยมากๆ ข้อสอบในส่วนวัดไอคิว มี 45 ข้อ ให้เวลาทำ 75 นาที ซึ่งจากที่ผ่านมานักเรียนเกือบทั้งหมดทำไม่ทัน เวลาสอบคือ 8.45 – 10.00 น. ถ้าต้องการสอบเข้าแพทย์ นักเรียนควรทำคะแนนส่วนนี้ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 5 คะแนน
หลังจากพักครึ่งชั่วโมง 10.30 น. ต้องมารายงานตัวก่อนเข้าห้องสอบ และเริ่มสอบส่วนจริยธรรม ในเวลา 10.45 – 12.00 ข้อสอบส่วนนี้ไม่มีคำนวณ และส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์สมมติ ข้อสอบมี 80 ข้อ ให้เวลาทำเท่ากับส่วนไอคิว คือ 75 นาที แต่ทำทันแน่นอน เพราะไม่ต้องคิดมาก แต่ที่น่าแปลกก็คือ คะแนนเฉลี่ยของส่วนจริยธรรมต่ำมาก คือ ปี 2556 อยู่ที่ 4.7 คะแนน และ ปี 2557 อยู่ที่ 5 คะแนน เต็ม 10 ทั้งๆที่ข้อสอบเป็นคำถามเชิงจิตวิทยา เพียงแต่ซ่อนเงื่อนไว้เพื่อดึงความรู้สึกที่แท้จริงของนักเรียนออกมา นักเรียนส่วนใหญ่จะตอบให้ดูดี โดยไม่ใช่ตัวของตัวเอง ทำให้คะแนนออกมาต่ำ คนออกข้อสอบส่วนนี้คือจิตแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำแบบสอบถามเพื่อดึงลักษณะนิสัยที่แท้จริงของนักเรียนออกมา ส่วนนี้ นักเรียนควรทำคะแนนได้ไม่ต่ำกว่า 7 คะแนน
เมื่อสอบส่วนที่สองเสร็จ จะพักกลางวันให้ทานอาหาร และมารายงานตัวในเวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมสอบส่วนที่ง่ายที่สุดของวิชาเฉพาะแพทย์ คือ ส่วนเชื่อมโยง สอบ เวลา 13.45 – 15.00 น. โดยมีบทความมาให้สองบทความ ไม่มีตัวหนา และไม่มีเลขกำกับ เหมือนอย่างข้อสอบ GAT บทความละ 10 ข้อ รวม 20 ข้อ 25 คำตอบ คำตอบละ 4 คะแนน แต่ถ้าตอบผิดติดลบคำตอบละ 3 คะแนน แต่ทั้งนี้ จำนวนบทความและคำตอบ ในแต่ละปีอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะส่วนนี้ทำทันแน่นอน เพียงแต่ว่าต้องระมัดระวังอย่าให้พลาด นักเรียนที่สอบเข้าทำส่วนนี้ได้เต็ม 10 ถึงสองหมื่นคน ดังนั้น ถ้านักเรียน ทำคะแนนได้ไม่เต็ม จะเสียเปรียบเป็นอย่างมาก ข้อสอบเชื่อมโยงคือส่วนที่ใช้แจกคะแนน
โดยสรุป นักเรียน ต้องทำ Part ไอคิว ให้ได้อย่างน้อย 5 คะแนน Part จริยธรรม 7 คะแนน และ Part เชื่อมโยง 10 คะแนน รวมเป็น 22 คะแนน (คะแนนเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 16.52คะแนน) แล้วไปเก็บในวิชาสามัญอีก 38 จาก 70 คะแนน นักเรียนจะสอบติดแพทย์แล้ว
การสอบเข้าแพทย์ ยากกว่า การสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา หรือ มหิดลวิทยานุสรณ์ อย่างน้อยสิบเท่า เพราะนักเรียนที่เก่งๆ จะมาสอบพร้อมกันทั่วประเทศ แต่การสอบเข้าตอน ม.4 นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ได้มาสอบเข้าเตรียมอุดม ซึ่งแม้แต่นักเรียนเตรียมอุดมศึกษาเอง ก็สอบเข้าแพทย์ไม่ได้มากมาย
อีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงวันสอบวิชาเฉพาะแพทย์แล้ว และถึอว่าเป็นวันหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต การสอบต่างๆนับแต่ชั้นประถมปีที่ 1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งนับครั้งไม่ถ้วนเป็นเพียงการซ้อมเท่านั้น ซ้อมเพื่อที่จะแข่งจริงในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยครั้งนี้ เป็นการสอบที่จะตัดสินชีวิตในอนาคตของน้องๆในอีกหกสิบปีข้างหน้าเลยทีเดียว ดังนั้นจงทำให้ดีที่สุด พยายามให้มากที่สุด แล้วจะรู้ว่า ผลลัพธ์ของมันคุ้มค่ามากทีเดียว
อ่านบทความเพิ่มเติม เรื่อง เคล็ดลับการทำข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์
http://unigang.com/Article/8789 
ข้อสอบ วิชาเฉพาะแพทย์
จาก Unigang.com
การสอบเข้าแพทย์ครั้งใหญ่ที่สุดที่เรียกว่า กสพท.ในปีนี้ มีจำนวนรับทั้งสิ้น 1,487 คน จากจำนวนนักเรียนที่สมัครทั้งหมดเกือบสามหมื่นคน ในอัตราส่วนประมาณ 20 ต่อ 1 และนักเรียนทุกคนก็ฟิตซ้อมกันอย่างเต็มที่ สังเกตได้จาก พาร์ทเชื่อมโยงของวิชาเฉพาะแพทย์ ที่ได้คะแนนเต็มกันเกือบสองหมื่นคน
วิชาที่มีผลต่อการสอบเข้าแพทย์มากที่สุด คือวิชาเฉพาะแพทย์ โดยเมื่อเทียบคะแนนแล้ว น้ำหนักมากกว่า วิชาฟิสิกส์ เคมี หรือชีววิทยา ถึงสามเท่า มากกว่าวิชาคณิตศาสตร์สองเท่า ดังนั้นการสอบวิชานี้ จึงสำคัญมาก ถ้าทำได้เกิน 22 คะแนนจาก 30 คะแนน โอกาสสอบติดแพทย์สูงมากทีเดียว
ข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์ แบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนละ 10 คะแนน ส่วนแรกคือวัดไอคิว เป็นส่วนที่ยากที่สุด และคะแนนเฉลี่ยต่ำสุด ในปี 2557ได้คะแนนเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 4.38 คะแนน แต่ทั้งนี้ นักเรียนที่ทำได้ในระดับคะแนนเฉลี่ยจะอยู่ที่อันดับประมาณ 15,000 จากผู้เข้าสอบ 30,000 คน ดังนั้น ถ้าต้องการสอบเข้าแพทย์ได้ต้องทำให้สูงกว่าค่าคะแนนเฉลี่ยมากๆ ข้อสอบในส่วนวัดไอคิว มี 45 ข้อ ให้เวลาทำ 75 นาที ซึ่งจากที่ผ่านมานักเรียนเกือบทั้งหมดทำไม่ทัน เวลาสอบคือ 8.45 – 10.00 น. ถ้าต้องการสอบเข้าแพทย์ นักเรียนควรทำคะแนนส่วนนี้ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 5 คะแนน
หลังจากพักครึ่งชั่วโมง 10.30 น. ต้องมารายงานตัวก่อนเข้าห้องสอบ และเริ่มสอบส่วนจริยธรรม ในเวลา 10.45 – 12.00 ข้อสอบส่วนนี้ไม่มีคำนวณ และส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์สมมติ ข้อสอบมี 80 ข้อ ให้เวลาทำเท่ากับส่วนไอคิว คือ 75 นาที แต่ทำทันแน่นอน เพราะไม่ต้องคิดมาก แต่ที่น่าแปลกก็คือ คะแนนเฉลี่ยของส่วนจริยธรรมต่ำมาก คือ ปี 2556 อยู่ที่ 4.7 คะแนน และ ปี 2557 อยู่ที่ 5 คะแนน เต็ม 10 ทั้งๆที่ข้อสอบเป็นคำถามเชิงจิตวิทยา เพียงแต่ซ่อนเงื่อนไว้เพื่อดึงความรู้สึกที่แท้จริงของนักเรียนออกมา นักเรียนส่วนใหญ่จะตอบให้ดูดี โดยไม่ใช่ตัวของตัวเอง ทำให้คะแนนออกมาต่ำ คนออกข้อสอบส่วนนี้คือจิตแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำแบบสอบถามเพื่อดึงลักษณะนิสัยที่แท้จริงของนักเรียนออกมา ส่วนนี้ นักเรียนควรทำคะแนนได้ไม่ต่ำกว่า 7 คะแนน
เมื่อสอบส่วนที่สองเสร็จ จะพักกลางวันให้ทานอาหาร และมารายงานตัวในเวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมสอบส่วนที่ง่ายที่สุดของวิชาเฉพาะแพทย์ คือ ส่วนเชื่อมโยง สอบ เวลา 13.45 – 15.00 น. โดยมีบทความมาให้สองบทความ ไม่มีตัวหนา และไม่มีเลขกำกับ เหมือนอย่างข้อสอบ GAT บทความละ 10 ข้อ รวม 20 ข้อ 25 คำตอบ คำตอบละ 4 คะแนน แต่ถ้าตอบผิดติดลบคำตอบละ 3 คะแนน แต่ทั้งนี้ จำนวนบทความและคำตอบ ในแต่ละปีอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะส่วนนี้ทำทันแน่นอน เพียงแต่ว่าต้องระมัดระวังอย่าให้พลาด นักเรียนที่สอบเข้าทำส่วนนี้ได้เต็ม 10 ถึงสองหมื่นคน ดังนั้น ถ้านักเรียน ทำคะแนนได้ไม่เต็ม จะเสียเปรียบเป็นอย่างมาก ข้อสอบเชื่อมโยงคือส่วนที่ใช้แจกคะแนน
โดยสรุป นักเรียน ต้องทำ Part ไอคิว ให้ได้อย่างน้อย 5 คะแนน Part จริยธรรม 7 คะแนน และ Part เชื่อมโยง 10 คะแนน รวมเป็น 22 คะแนน (คะแนนเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 16.52คะแนน) แล้วไปเก็บในวิชาสามัญอีก 38 จาก 70 คะแนน นักเรียนจะสอบติดแพทย์แล้ว
การสอบเข้าแพทย์ ยากกว่า การสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา หรือ มหิดลวิทยานุสรณ์ อย่างน้อยสิบเท่า เพราะนักเรียนที่เก่งๆ จะมาสอบพร้อมกันทั่วประเทศ แต่การสอบเข้าตอน ม.4 นักเรียนส่วนใหญ่ไม่ได้มาสอบเข้าเตรียมอุดม ซึ่งแม้แต่นักเรียนเตรียมอุดมศึกษาเอง ก็สอบเข้าแพทย์ไม่ได้มากมาย
อีกเพียงไม่กี่วันก็จะถึงวันสอบวิชาเฉพาะแพทย์แล้ว และถึอว่าเป็นวันหนึ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต การสอบต่างๆนับแต่ชั้นประถมปีที่ 1 จนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งนับครั้งไม่ถ้วนเป็นเพียงการซ้อมเท่านั้น ซ้อมเพื่อที่จะแข่งจริงในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยครั้งนี้ เป็นการสอบที่จะตัดสินชีวิตในอนาคตของน้องๆในอีกหกสิบปีข้างหน้าเลยทีเดียว ดังนั้นจงทำให้ดีที่สุด พยายามให้มากที่สุด แล้วจะรู้ว่า ผลลัพธ์ของมันคุ้มค่ามากทีเดียว
อ่านบทความเพิ่มเติม เรื่อง เคล็ดลับการทำข้อสอบวิชาเฉพาะแพทย์ http://unigang.com/Article/8789