มะเร็งร้ายลูกหนังไทย ''ไม่สร้างแต่มาทำลาย''


        จากเหตุการณ์จลาจลแฟนบอลที่เมืองทอง

        เชื้อร้ายทำลายวงการฟุตบอลเมืองไทย ด้วยการสร้างความรุนแรงก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย สร้างความเกลียดชังขึ้นมาระหว่างแฟนบอลคู่แข่ง มันกลับเข้ามาอีกแล้ว ทำท่าจะบานปลายหนักข้อยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย หลังจากกลางสัปดาห์เมื่อพุธ 15 ต.ค. นัดแรกของไทยพรีเมียร์ลีกที่กลับมาเล่นอีกครั้งหลังหยุดพักเบรกให้กับทีมชาติไทยไปแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ แฟนบอลแอร์ฟอร์ซ ส่วนหนึ่งก่อเหตุขว้างปาทำร้ายร่างกายแฟนบอล เอสซีจี เมืองทอง ผู้มาเยือน หลังจากจบเกมทีมทัพฟ้าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้คาบ้าน ซึ่งเหตุการณ์นี้ทาง พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์ ผู้บริหารของทีม แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล เอฟซี แสดงความเป็นสุภาพบุรุษ ออกมาขอโทษทีมเมืองทองและแฟนบอลที่ถูกทำร้ายบาดเจ็บไปหลายราย ที่ไม่อาจควบคุมแฟนบอลอารมณ์ร้อนที่ก่อเหตุในสนามได้ทันท่วงที พร้อมกับรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลให้

        แต่ไม่ทันเรื่องเก่าจะจางหายถัดมาอีกเพียงแค่ 2 วันในเกมโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก สุดสัปดาห์ เมื่อเสาร์ 18 ต.ค. 57 ทีม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เปิดรังรับมือทีม สิงห์ท่าเรือ ก็เกิดเหตุจลาจล แฟนบอลตัวแสบบางคนของสิงห์ท่าเรือก็ก่อเหตุไล่ตีทำร้ายร่างกายแฟนบอลกิเลนผยองอีกจนได้ ผลก็คือแฟนบอลเมืองทองที่ส่วนใหญ่ตั้งใจมาเชียร์ทีมรักอย่างเดียวและยังไม่หายขวัญเสียจากนัดไปเยือน แอร์ฟอร์ซ ต้องมาอ่วมอรทัยบาดเจ็บจากการโดนทำร้ายอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกแล้ว

        เกิดอะไรขึ้นกับทีมกิเลนผยอง ที่ต้องมาเจอเหตุร้ายกับกองเชียร์ 2 นัดติดๆ ในห่วง 2-3 วันนี้เอง โดยทางเจ้าหน้าที่ดูแลความพร้อมจัดการแข่งขันของทีมเอสซีจี เมืองทอง ได้เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ก่อนเกมทางทีมเจ้าบ้านเองรู้ถึงกิตติศัพท์ของแฟนบอลฮาร์ดคอร์บางกลุ่มของผู้มาเยือนว่า มีประวัติไม่ธรรมดา ถูกจารึกในหน้าข่าวสำนักต่างๆ มาก็หลายครั้งในช่วง 2-3 ปีมานี้ เราจึงมีการเตรียมรับมือไว้อย่างดี ด้วยการติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้มาดูแลความปลอดภัยถึง 120 นาย พร้อมกับเตรียมเบี้ยเลี้ยงสำหรับเจ้าหน้าที่ไว้ร่วม 40,000 บาท

        สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้ติดต่อมาดูแลความปลอดภัยมาจาก ปราบจลาจล นนทบุรี, กองร้อยคลุมถุงชน นนทบุรี, ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด, ตำรวจนนทบุรี และ นปอ.เก็บกู้ระเบิด นนทบุรี ซึ่งเราก็คิดว่า น่าจะเพียงพอ

        เจ้าหน้าที่สนามฝ่ายจัดการแข่งขันของทีม เอสซีจี เมืองทอง กล่าวถึงเหตุการณ์ในสนามว่า บรรยากาศการเชียร์ของทั้งสองทีมดูออกจะราบรื่นเกินคาดด้วยซ้ำ ทางฝั่งแฟนบอลฮาร์ดคอร์ของ สิงห์ท่าเรือ ก็มีร้องตะโกนแซวว่าตอบโต้กับฝั่งเจ้าบ้านบ้างเป็นปกติ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะถึงขั้นก่อเรื่องกัน ทางเราเองก็รู้สึกสบายใจว่า นัดนี้คงจบอย่างสวยงาม รูปเกมในสนามก็จบแบบไร้ข้อกังขาของการตัดสิน เมืองทองแม้จะโดนนำก่อน แต่ก็มายิงแซงเอาชนะอย่างเด็ดขาด 3-1 ดูแล้วไม่น่าจะมีชนวนให้ขัดแย้งจากกองเชียร์ทั้งสองทีม


แฟนบอลสิงห์ท่าเรือรวมตัวก่อเหตุบริเวณ 4 แยก หน้าสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม โดยไม่ยอมกลับบ้าน

        แต่เมื่อจบเกมและมีการกันกองเชียร์ให้ออกจากสนามเพื่อเดินทางกลับบ้าน ผ่านไปประมาณ 20 กว่านาที กลับมีเหตุร้ายขึ้นมาจนได้ ในช่วงบริเวณแยกไฟแดงใกล้ๆ กับสนาม ทางเราก็มีคนไปคอยสังเกตการณ์อยู่ ปรากฏว่ามีรถกระบะเปิดท้าย 4 ประตู สีบรอนซ์เงิน ซึ่งมีกองเชียร์ทีมเยือนนั่งมาประมาณ 8 คนติดไฟแดงอยู่ ขณะที่แฟนบอลเมืองทองก็มีทยอยเดินทางกลับ มีเดินมุ่งไปทางทะเลสาบด้วย โดยกลุ่มจะข้ามถนนตรงไฟแดง กลายเป็นว่าเกิดมีการด่าทอท้าทายกัน กองเชียร์สิงห์ท่าเรือบนกระบะดังกล่าวกรูลงจากรถกระบะเข้าไปตีกองเชียร์เมืองทองทันที จากนั้นก็ชุลมุนเป็นจลาจลย่อมๆ ใส่กันเละ ทางฝั่งสิงห์ท่าเรือมีการเรียกพวกที่อยู่ใกล้ๆ เข้ามาช่วยไล่ตีทำร้ายฝั่งเจ้าบ้านจนต้องถอยร่นกลับเข้าไปประตูทางเข้าสนาม และเมื่อกองเชียร์เมืองทองที่อยู่ในบริเวณสนามทราบเหตุการณ์ก็กรูกันมาช่วยยันไม่ให้ฝั่งทีมเยือนที่อยู่ๆ ก็มารวมตัวกันอย่างรวดเร็วนับร้อยคนมาตีแฟนบอลเจ้าบ้านแบบบ้าเลือดไม่เลือกว่าใครไม่เกี่ยวข้องด้วย


กลุ่มแฟนบอลอันตพาล

        ทั้งผู้หญิง คนแก่ และเด็กๆ หลายคนที่กำลังทยอยกลับบ้านถึงกับตื่นตระหนก กลัวตายกันอย่างมาก เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุแต่ละคนท่าทางดุร้ายท่าทางเอาเรื่องทุกคน ประชิดมาทางสนามใกล้กับร้านขายของที่ระลึก ทั้งขว้างปา ไล่ตี แฟนบอลผู้ชายของเมืองทองต้องเข้าปะทะไม่ให้เข้าถึงในสนามร้านค้า โดยที่ผู้หญิงและเด็กจำนวนมากต้องเข้าไปหลบในห้องน้ำ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีกองเชียร์อันธพาลอีกกลุ่มหนึ่งไม่รู้มายังไง ในช่วงที่ด้านหน้าสนามถูกต้านถูกกันไม่ให้เข้ามาง่ายๆ กลับไปโผล่ทางด้านลานจอดรถข้างหลังสนามกรูเข้ามาจะเอาเรื่องทำร้ายกันอีก ต้องต้านกันสุดฤทธิ์กว่าเหตุการณ์จะยุติลงได้อย่างทุลักทุเล รวมแล้วเวลาระทึกขวัญหลังจบเกมฟุตบอลที่แฟนบอลก่อจลาจลย่อมๆ กว่า 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว แฟนบอลเมืองทองได้รับบาดเจ็บ ทั้งเลือดตกยางออกต้องเย็บแผล ส่งโรงพยาบาล และฟกช้ำกว่าสิบคนเลยทีเดียว


กองเชียร์วัยรุ่นชายหญิงต่างได้รับบาดเจ็บ ต้องปฐมพยาบาลในห้องปฐมพยาบาลสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม

        ที่น่าเสียใจก็คือเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่าร้อยคนที่เราติดต่อมาดูแลความปลอดภัย ต่างยืนดูโดยไม่ทำอะไรเลย บางคนบอกผู้บังคับบัญชายังไม่สั่งมาก็ทำอะไรไม่ได้ ทั้งๆ ที่เหตุการณ์ไล่ทำร้ายกันเกิดต่อหน้า บางคนก็บอกว่า กำลังเราไม่พอจะจัดการได้ นายตำรวจท่านหนึ่ง พ.ต.ต.สมประสงค์ มีสุดเพียร ที่อยู่ในเหตุการณ์กลับพูดกับทางเราที่ไปขอความช่วยเหลือให้จัดการจับกุมระงับเหตุในทำนองว่า ผมก็คนนะเจ็บเป็นเหมือนกัน รถตำรวจเองก็จะโดนทุบ  อ้าวเป็นงั้นไป เท่ากับว่า ตำรวจที่นี่พึ่งไม่ได้เลยหรือ

        อย่างไรก็ตามยังดีที่เมื่อมีการแจ้งถึงเกิดเหตุการณ์ไปยังสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์แทบทุกค่าย เพื่อมาทำข่าว และมีทางตำรวจส่วนอื่นเมื่อรับทราบได้รับการประสานไปจึงส่งกำลังมาเสริมเพื่อช่วยคลี่คลายเหตุการณ์ดังกล่าว

        เจ้าหน้าที่ทีมและแฟนบอลส่วนหนึ่งของเมืองทอง รวมทั้งสื่อบางคนได้ตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีเงื่อนงำบางอย่างที่เหมือนจงใจเตรียมการณ์ไว้กับการก่อให้เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย และการทำร้ายแฟนบอลทีมเมืองทองขึ้นมา จะด้วยต้องการดิสเครดิต หรือประสงค์อย่างอื่น เพราะความเป็นคู่แข่ง หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้เกิดเหตุการณ์ลามปามมีปัญหากับทีมอื่นๆ ทั้งที่ไม่น่ามีปัจจัยให้ขัดแย้งกันเลย

        อย่างกรณีกับทีม แอร์ฟอร์ซ ที่เป็นพันธมิตรกันมาอย่างดี เกมในสนามก็ไม่มีปัญหา แฟนบอลทัฟฟ้าอาจจะข้องใจผู้ตัดสินแต่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับกองเชียร์เลย ก็ไม่รู้มีการจุดชนวนให้ทำร้ายแฟนบอลเมืองทองอย่างไร้เหตุผลได้อย่างไร กับทีมสิงห์ท่าเรือ ในสนามก็ไม่มีปัญหา เกมก็จบใสสะอาดไร้กังขา แต่กลับมีปัญหานอกสนามหลังจบเกมเหมือนจะจงใจดักหาเรื่อง พร้อมที่จะจุดชนวนเล็กๆ ให้ลามเป็นเรื่องใหญ่ และมีการรวมตัวระดมพลจากกองเชียร์ทีมเยือนกลุ่มฮาร์ดคอร์มาเร็วเหลือเกิน ทั้งสองกรณีผลที่ออกมาคือกองเชียร์เมืองทองที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยบาดเจ็บจำนวนมาก

        แต่สิ่งที่เสียหายมาอย่างใหญ่หลวงคือ ศรัทธาจากแฟนบอล ที่รักการเข้ามาชมมาเชียร์ฟุตบอล จะจางหายไปเรื่อยๆ การชมฟุตบอลที่วันหยุดน่าจะเป็นวันพักผ่อนของครอบครัวของคนรักกีฬาได้มีความสุขกับการชมการเชียร์ทีมที่ตนเองรัก นักเตะที่ตนเองโปรด มันจะไม่ใช่แล้ว ถ้าหากมีตัวการเข้าทำลายที่เหมือนจงใจเล่นเกมการเมืองนอกสนาม หรือทางเจ้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ใส่ใจจัดการจับกุม ระงับเหตุและดำเนินคดีอันธพาลในคราบกองเชียร์เถื่อนถ่อย วงการฟุตบอลจะถอยหลังลงคลอง ไร้คนดู ไร้สปอนเซอร์สนับสนุน นักฟุตบอลที่กำลังจะมีเงินทองจากรายได้ค่าเหนื่อยที่มากมหาศาลขึ้นทุกวัน สิ่งเหล่านี้ก็จะหายไป

        นี่มันอาจจะเป็นจบที่น่าเศร้า หากมีคนที่ไม่ได้มีใจรักจริงกับเกมฟุตบอล กับกีฬามายาวนานตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่เข้ามาเพราะเห็นว่า ฟุตบอลบ้านเรากำลังบูม ผู้คนคลั่งไคล้เข้าสนาม มองเห็นช่องทางกอบโกยสร้างภาพ สร้างคะแนนเสียง แต่กลับใช้ยุทธวิถีสกปรกกลับมาฆ่าวงการฟุตบอลโดยทางอ้อม  หรือกองเชียร์ประเภทเมื่อตอนฟุตบอลลีกบ้านเรายังไม่ดัง ก็ไม่รู้มุดหัวอยู่ที่ไหน แต่พอเป็นกระแสปุ๊บก็มาร่วมเฮ ร่วมเชียร์แบบอันธพาล ฮูลิแกนลูกหนัง ใครฝ่ายตรงข้ามเป็นศัตรูหมด

        สิ่งที่จะฝากไว้กับพวกเหลือบมะเร็งร้ายของวงการก็คือ

        ...ในเมื่อคุณไม่ได้เริ่มสร้าง แต่คุณก็อย่าเข้ามาทำลายเลย ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม

จากคอลัมม์ ข่าว : http://www.siamsport.co.th/Column/141020_062.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่