คุยเรื่องแฟน...

กระทู้คำถาม
เล่าสรุปๆง่ายๆเลยนะคับ เรากับแฟนคุยกันมาตั้งแต่ตอนอยู่ม.ปลาย แล้วถึงจะมาคบกันก่อนที่จะจบม.6 (อยู่รร.เดียวกันด้วย)แรกๆผมยอมรับเลยว่าอยากจะลองคุยกันไปก่อนว่าเข้ากันได้ไหม เพราะตอนนั้นก็มีคนมาคุยกับผมอยู่บ้างส่วนมากเป็นรุ่นน้องนะคับ (แหม่..เราก็เสน่แรงไม่เบานะ55555)แต่ถึงยังไงผมก็เลือกเธอเพราะเธอคนนี้เป็นคนที่ผมเริ่มเข้าไปคุยก่อน เราอยู่ด้วยกันทุกเช้าผมก็จะไปหาเขาที่ห้องก่อนจะเข้าเรียน แฟนผมเขามารร.เช้าหน่ะคับ ผมก็รีบตื่นเพื่อที่จะไปหาได้ไปนั่งคุยกันตลอด ซื้อข้าวเหนียมหมูปิ้งหน้ารรเข้าไปให้บ้าง หิวน้ำก็วิ่งลงไปซื้อน้ำให้บ้างครั้งนะคับ(มาคิดๆดูแล้วตอนนั้นน่าจะอยู่ด้วยกันให้มากกว่านี้) แฟนผมเขาเรียนสายวิท-คณิต การบ้านงานก็เยอะแล้ว แล้วมีกิจกรรมให้ทำในโรงเรียนแฟนผมก็ทำแต่ก็ยังมีเวลาให้กันอยู่เหมือนบ้างนะคับ บางทีผมก็ไปช่วยงานกิจกรรมของเขาบ้าง ถ้าเขาทำงานไม่ทันหรืออยากให้ช่วยผมก็จะช่วยคับเพระาแฟนผมเขาขี้เกรงใจหน่ะคับ แล้วเขาก็รู้ว่าเราไปเรียนตอนเย็นต่ออีกกว่าจะกลับบ้านแล้วทำการบ้านของตัวเองอีกก็ดึกแล้วแฟนผมเขาไม่อยากให้ผมลำบาก แต่เราก็คุยกันว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยผมก็จะทำให้แฟนผมก่อนแล้วค่อยทำของตัวเอง ส่วนมากถ้าจะว่างไปเที่ยวก็คือ ตอนเย็นวันจันทร์ ก็ไปเที่ยวกันบ้างเป็นปกติของคนที่เป็นแฟนกันใช่ไหมคับ พอใกล้จะสอบแฟนผมเขาก็ต้องไปติวเหมือนกัน แฟนผมตอนนั้นเขากังวลมากว่าจะเข้าอะไรดี เหมือนยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ ตอนนั้นแฟนผมก็เครียดหนักเลยร้องไห้บ่อย ผมก็ได้แต่ให้กำลังใจบ้าง ถามบ้างว่าเป็นยังไง พูดตามตรงตอนนั้นผมก็เครียดไม่แพ้กับแฟน เพราะเราก็ไม่อยากเห็นคนที่เรารักเป็นแบบนี้ใช่ไหมหล่ะคับ แล้วไหนผมจะต้องไปสอบตรงแต่ล่ะที่อีกตอนนั้นแทบจะไม่ได้คิดเรื่องอื่นเลย แต่ตอนแรกแฟนผมก็สอบเข้าได้คณะการบิน อันนี้สอบตรงนะคับ(ขอไม่เอ่ยชื่อมหาลัยนะคับ) แต่เขาต้องไปอยู่หอ ซึ่งแฟนผมเขาไม่อยากจะอยู่หอ ก็เลยขอลาออก ก่อนจะไปขอลาออกเราก็คุยกันนะคับว่า ไม่ไหวจริงๆหรอเสียดายเงิน เสียดายโอกาสนะ แต่แฟนผมเขาก็บอกว่าไม่ได้จริงๆไม่อยากอยู่ เราก็โอเคตามใจแฟนล่ะกันเพราะเราไม่ได้เป็นคนเรียน จนมาสอบ gat pat อะไรเสร็จ ก็ไปเข้าที่ศิลปศาสตร์ตอนนั้นผมก็โล่งเลยคับ แฟนมีที่เรียนแล้ว ก็มีบ่นบ้างนะคับแต่ก็คงต้องอยู่แล้วแหละคับ 5555555 ก่อนจะเปิดเทอมขึ้นปี1 เราก็ไปเที่ยวกันบ่อยอยู่นะคับ ตอนนั้นมีความสุขมากได้คุยเปิดใจกัน แฟนผมเขาบอกว่า "เค้ากลัวนะถ้าเราไปอยู่มหาลัยแล้ว ตัวจะมีคนอื่นอ่ะ"ร้องไห้คือเรียกแทนกันว่า เค้า กับ ตัวเอง อะไรเงี้ยคับตามประสาคู่รักหลายๆคู่แล้วแต่คู่นะคับ) ผมก็ตอบเลยคับ "เค้ารักใครได้ทีล่ะคนนะ" (อย่างหล่อ55555) จริงๆมันมากกว่านี้คับแต่ขอเก็บไว้เป็นความทรงจำของเรา2คนนะคับ ..... ต่อจากนั้นเราก็เปิดเทอม ต่างกันต่างไม่มีเวลาล่ะ เหมือนเป็นยุคมืดของชีวิตคู่ มหาลัยไกลกันมาก กว่าจะหาเวลามาเจอกันได้นี่คือนานอยู่คับ แล้วกิจกรรมของเราก็เยอะกันมาก ตอนแรกแฟนก็บอกว่าเออเนี่ยพี่เขาเลือกให้ไปประกวดเป็นดาวอะไรงี้ ก็ต้องซ้อมการแสดง เลิกก็ดึก เรียนก็ต้องเรียน ผมก็ได้แต่ให้กำลังใจเขาจากการคุยโทรศัพท์กันบ้าง ถ้าแฟนผมอยู่บ้านก็สไกด์คุยกันเห็นเขาเครียดเราก็เครียดตามเหมือนกันนะคับ แต่เราก็ต้องฝืนยิ้ม เพื่อให้เขารู้สึกดีขึ้น พอแฟนผมได้เป็นดาวมหาลัยเท่านั้นแหละคับ ยุคที่มืดของชีวิตคู่ของเราก็ตกลงไปสู่ขั้นที่2 คือจากที่เสา-อาทิตจะว่างไปกินข้าวกันสักมื้อ หรือโทรคุยเล่นกัน ยิ่งไม่มีเลยคับ เขาก็ต้องไปถ่ายงานที่มหาลัย (บอกตรงนี้เลยว่ามันก็มีหึงบ้างที่เห็นแบบถ่ายรูปกับเดือนแล้วมีเอคชั่นที่ดูหวานๆเนอะคนเป็นแฟนทำไงได้ก็มีแต่เก็บไว้55555 จริงๆเรื่องนี้ก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะรู้ว่ามันเป็นแค่งาน ตัวจริงของเทอหน่ะอยู่ตรงนี้หัวใจ)พอกลับมาเย็นบ้างดึกบ้าง ก็ไม่ค่อยได้คุยล่ะ ผมก็ไม่อยากให้คุยเพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ถ้าเขาอยากนอนก็ปล่อยให้เขานอนดีกว่า ยอมรับเลยว่ารู้สึกกังวลว่าเขาจะมีคนมาคุยรึป่าว เพราะผมก็เป็นคนนึงที่อ่านกระทู้พันทิปมาเยอะพอสมควร เห็นบางคู่เขาคบกันมาหลายปียังมีเลิกกันเพราะมือที่3บ้างอะไรบ้าง แต่ที่ทำให้ผมไม่คิดเรื่องนี้แล้วก็คือ "ความเชื่อใจ" เรื่องนี้ผมให้แฟนเต็มร้อยคับ เขาไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มาก่อน แล้วผมก็ไม่อยากเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นปัญหาด้วย แฟนผมเขาก็บอกนะคับว่ามีคนแอดเฟสมาเยอะมากแต่เขาก็ไม่ได้สนใจถ้าไม่ใช่คนที่รู้จัก... ความรู้สึกที่2คือน้อยใจ คือถ้าเราว่างเราก็อยากจะพาเขาไปทานข้าวบ้างดูหนังด้วยกันคือผมคิดถึงตอนที่เรามีความสุขด้วยกันเหมือนตอนมัธยมหน่ะคับ แต่เราก็เข้าใจเขาเหมือนกันว่า มันเป็นประสบการณ์ของเขาที่เราก็อยากให้เขามี พอคุยกันเรื่องนี้ทีเราแฟนผมเขาก็มาขอโทษที่ไม่มีเวลาให้ แต่ผมไม่เคยโทษแฟนของผมเลยเพราะผมเข้าใจว่ามันจำเป็นจริงๆเรื่ิองนี้แฟนผมเขาจริงจังมากเรื่องที่ไม่มีเวลาให้ เขาก็มาบอกผมเลยนะว่า "ถ้าตัวไม่อยากให้เค้าทำก็บอกเลยนะ แล้วเค้าจะหยุด เพราะเค้าเลือกตัวนะ" เป็นประโยคที่ทำให้ผมซึ้งมากและทำให้ความน้อยใจนั้นหายไปทันที


ต่อจากนี้จะเป็นความรู้สึกที่ผมจะบอกกับแฟนถ้าแฟนผมได้มาอ่านก็คงจะดีนะยิ้ม
     "คือ.. ก็ยอมรับก่อนเลยว่าอาจจะไม่ใช่แฟนที่มีอะไรให้ ไม่มีรถที่จะขับไปรับไปส่ง หรือพาไปทานข้าวเหมือนคนอื่นๆ แต่พร้อมที่จะทำให้ทุกอย่างที่จะทำได้เพื่อทำให้ตัวยิ้มและมีความสุขที่สุด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นความรักของเค้าก็ยังให้ตัวคนเดียวเสมอ ถึงจะเป็นดาวในสายตาคนอื่นแต่ตัวก็ยังเป็นแฟนเค้าคนเดิมเหมือนตอนที่เราคบกันวันแรกนะหัวใจจุ๊บๆ"

ขอบคุณสำหรับทุกคนที่เขามาอ่านและคอมเม้นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่