จดหมายเปิดผนึก ถึง นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง แก้ไข พรบ. มหาชน มาตรา 89/28 ลดความเหลื่อมหล้ำ

เรียน    นายกรัฐมนตรี (คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา)

สำเนาถึง   นายกรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง   (คุณสมหมาย  ภาษี)

               นายอัชพร จารุจินดา  ประธานกรรมการ ก.ล.ต

               นางเกศรา มัญชุศรี   กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

               สมาคมนักลงทุนไทย   และ   สภาทนายความแห่งประเทศไทย

          เนื่องด้วยการประชุมผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ผ่านมา  ที่ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมประชุมกลับพบข้อกฏหมายที่ทำให้เกิดการเสียเปรียบและเหลื่อมหล้ำสำหรับสังคมไทยเป็นอย่างมาก ว่าด้วยเรื่องการคัดเลือกกรรมการที่มาจากส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อย
    อนึ่ง ข้อกฏหมาย พรบ. มหาชน มาตรา 89/28 ซึ่งปัจจุบันที่ได้ใช้นั้น  ไม่ทันสมัยต่อโลกประชาธิปไตยในการปิดกั้นสิทธิ  ความเท่าเทียม   และความสามารถของผู้ถือหุ้นรายย่อยที่จะสมัคร เป็นกรรมการในส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อย  เพื่อเป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างแท้จริง
    กระบวนการคัดเลือกส่วน กรรมการต้องมาจากการถือหุ้นรายย่อยดังกล่าวร้อยละ 0.05 ของทุนที่ออกชำระแล้ว  จึงจะเสนอชื่อกรรมการได้    และคะแนนต้องผ่านกึ่งหนึ่งโดยนับรวมเสียงจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ด้วย    นี้เองจึงเป็นตัวเจ้าปัญหาที่เกิดขึ้นและมีการทะเลอะกันเองในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวิสามัญของบริษัทที่ผ่านมา  ระหว่างผู้ถือหุ้นรายย่อยและรายใหญ่  ที่ยังคาซังกันอยู่
    
         ความจริงในปัจจุบัน    กลับพบว่าเป็นเรื่องยากมาก  ที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยจะสามารถรวบรวมจำนวนหุ้นให้ครบตามระเบียบกำหนด    และอีกด้านหนึ่งที่สำคัญหากได้รับการคัดเลือกด้านคุณสมบัติแล้ว   ผู้ถือหุ้นรายใหญ่จะไม่ยกมือสิทธิสนับสนุนในการประชุมผู้ถือหุ้นที่จะคัดเลือก   เพราะหากกลุ่มรายย่อยมีโอกาศเข้ามาเป็นกรรมการ ก็จะสามารถตรวจสอบการทุจริตกระบวนการทำงาน ธุรกรรม  การบริหารงาน  และการทุจริตของกรรมการบริษัท ที่ ไม่ต้องการให้ใครผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ตำแหน่ง กรรมการบริษัท  (ที่มาจากส่วนของผู้ถือหุ้นรายย่อย)
    หากสังคมไทยตระหนัก   ป้องกันปราบปรามการทุจริตตามที่กล่าวอ้าง  ว่าด้วยการ  ซื่อสัตย์  โปร่งใส  และมีธรรมภิบาลที่ดีแล้วนั้น  ขอให้ประชาชนชาวไทย ผู้ถือหุ้นรายย่อยช่วยกัน  ให้เกิดการแก้ไข  พรบ. มหาชน มาตรา 89/28   โดยด่วน    ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี ประสานไปยัง  หน่วยงาน กลต  หน่วยงานที่ใส่เกียร์ว่าง   แก้ไขกฏหมายเจ้าบัญหานี้ด่วน   เป็นกฏหมายที่ทำให้เกิดความเหลื่อมหล้ำและไม่ส่งเสริมให้เกิดการตรวจสอบที่ดี


        หากท่านประธานกรรมการบริษัทซึ้งอ้างว่าเป็นคนดี  แต่ไม่กล้าให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ตรวจสอบ   จะพูดได้อย่างไรว่าเป็นคนดี  บริหารงานเก่ง  ไม่คดโกงต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย   ส่วนประธานกรรมการตรวจสอบและคณะก็เป็นกลุ่มคนพวกเดียวกัน  ที่ได้สมประโยชน์กับเรื่องนี้
    ข้าพเจ้า ขอเล่าเหตุการณ์   ที่แจ้งเรื่องร้องเรียนให้  ก.ล.ต   ข้าพเจ้าได้ใช้ทุกช่องทางที่ระเบียบของ  กลต  ได้จัดไว้สำหรับการร้องเรียน  ดังนี้
1. ข้าพเจ้าได้ร้องเรียนไปทาง อีเมลล์   complain@sec.co.th
2. ได้โทรไปที่หมายเลข  1207    คุณปัฐวี  เป็นคนรับโทรศัพท์และอ้างว่า  ทำไม่ได้  ประมาณว่าเยอะ และกวนๆ หน่อย นี้หรือเจ้าหน้าที่รัฐผู้ทำงานเพื่อประชาชน    ข้าพเจ้าทราบดีว่า  ท่านไม่มีอำนาจตัดสินใจในเรื่องนี้ เลยขอสายผู้ที่มีอำนาจตอบได้มากกว่านี้     คือ  นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต  คนปัจจุบันแต่กลับพบว่า    ท่านตอบกลับจนน่าตกใจว่า     " ท่านไม่สามารถ  โอนสายไปให้ได้เนื่องจากไม่มีอำนาจในเรื่องนี้ "       นี้แหละคงเป็นสาเหตุให้ข้าพเจ้าได้   เขียนจดหมายเปิดผนึกให้ท่านนายกได้รับทราบเหตุการณ์ในเรื่องนี้

3. ข้าพเจ้าไม่ละความพยายาม   ได้โทรไปที่เบอร์   02-2636001   คุณจิตติวัฒน์  ฝ่ายงานเลขาธิการ   เพื่อว่าจะได้ต่อสายคุยกันโดยตรง   กลับบ่ายเบี่ยงอีกแหละองค์กรนี้    หรือว่าไม่สำนึกว่าเงินเดือนที่พวกท่านได้มา  คือ ภาษีของประชาชน   จะทำอย่างไรก็ได้    ท่านนี้ก็คงพูดประเด็นแบบกวน  ๆ  และวางสายข้าพเจ้าทันที    ข้าพเจ้าไม่ละความพยายาม  ก็โทรไปอีก  คราวนี้ให้ผู้หญิงท่านหนึ่งรับ  ข้าพเจ้าถามชื่อก็ไม่บอก  และบอกว่าให้กลับไปร้องเรียนตามเดิมและโอนสายไปคุยที่หมายเลข  1207   คุณปัฐวีแทน     นี้คงเพราะไม่ต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น  เพราะอาจจะกลัวเหนื่อย  หรือ   ว่าอาจจะเป็นการตกลงกันไว้แล้วระหว่างนักธุรกิจกับองค์กรนี้    ไม่ให้แก้ไขมาตรานี้   เพราะจะทำให้พวกกลุ่มนักธุรกิจ  โดนการตรวจสอบจากภาคประชาชน .
ข้าพเจ้าขอตำหนิ  หน่วยการทำงานของหน่วยงานรัฐอย่างร้ายแรง  และเป็นภัยต่อสังคม   อย่าให้ต่างประเทศ ว่า  ประเทศไทยไม่มีมาตาฐาน  ต่อการดูแลภาคประชาชนเลย   

4. ข้าพเจ้าลองโทรไป  ที่  นางเกศรา มัญชุศรี   กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  เบอร์โทรศัพที่   02-2292000  ต่อ  2392  ตามที่ท่านได้ให้ไว้ในเวบไซค์  http://www.set.or.th/th/about/overview/board_p1.html       ข้าพเจ้ากลับรอสายท่านเป็น  30  นาที ก็ไม่รับสาย ข้าพเจ้า ก็ไม่ละความพยายาม  ก็ลองโทรไปในช่วงเวลาราชการ  อีกสัก 2 ครั้ง    ก็เลิกที่จะโทรหาแล้วเพราะไม่มีผู้ใดรับสายสักที     เป็นอันว่าลอง   ที่จะร้องเรียนทุกวิถีทางแล้ว

ขอตั้ง ข้อสังเกต

1.  นายวรพล โสคติยานุรักษ์ ซึ่งเป็นเลขาธิการ ก.ล.ต   ปัจจุบัน  ได้ทำประโยชน์หรืออยู่เคียงข้างผู้ถือหุ้นรายย่อยหรือไม่  และได้ใช้ความรู้ได้เหมาะสมกับตำแหน่งนี้หรือไม่   กรณีที่ประชาชนต้องการความช่วยเหลือ ท่านจะไม่ลงมาคุยกับ ประชาชนรากหญ้าเลยหรือ      ท่านควรพิจารณาในความเหมาะสมของตำแหน่งนี้     เพราะเจ้าหน้าที่อ้างว่าไม่สามารถ  โอนสายไปถึงท่านได้.   ท่านรับสายใครหรือ  .     (การไม่มีอำนาจโอนสายนี้   ข้าพเจ้ากลับงง)
หน้าที่ของท่าน  คือ  ขึ้นเวทีแจกรางวัล   set award  หรือเปล่า   /  หรือทำอะไรกันแน่ ในหน้าที่ของท่าน

2.นายอัชพร  จารุจินดา ประธาน กลต    ในช่วงเวลาราชการท่านไม่ได้อยู่ใน  ก.ล.ต   ตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง   อยากทราบว่า  ท่านเอาเวลาราชการไปไหนกัน เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่า  ท่านไม่ได้เข้ามาทำงาน  จะมาแค่บางครั้ง    ท่านเป็นถึงประธานกลับไม่ได้มาทำงานในช่วงเวลาราชการ  ท่านต้องตอบคำถามให้สังคมชาวไทยรับรู้  ว่าหายไปไหนกัน  เป็นถึงเจ้าพนักงาน  โปรดระบุแบบตรงไปตรงมา ไปเลยว่าอะไร  เป็นอย่างไร  ที่ไหนยังไง

    กรณีของคุณป้าสังเวียนก็เช่นกัน    นี้เป็นนิสัยความมักง่ายของ  ข้าราชการไทยบางคนเท่านั้น  ที่ควรปรับปรุงอย่างยิ่งยวด  ผู้ร้องฝากความหวังไว้กับท่านนายกรัฐมนตรี   และหน่วยงานที่ควบคุมการทำงานของ  กลต. ที่เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้น   อย่างอิสระ    และทำงานจนเป็นอิสระอย่างเกินควร   จนวันๆ  ไม่ต้องทำงานอะไร  เจอปัญหาที่ควรแก้ไข   ก็กลับใส่เกียร์ว่าง    

                ข้าพเจ้า  ในฐานะตกสภาพเดียวกับคุณป้าสังเวียน  หาทางออกไม่เจอ  ก็หวังว่าจะมีข้าราชการ  หน่วยงานของรัฐ หรือท่านนายกรัฐมนตรีที่รักความเป็นธรรม  ขอให้มีกระบวนการตรวจสอบได้ทุกมิติ    แก้ไขปัญหานี้ลดความเหลื่อมหล้ำกัน
    ข้าพเจ้าขอให้สิ่งศักสิทธิ์  ในประเทศไทย   ช่วยดลบันดาล  ให้สุขภาพ    และจิตใจที่ประสบอยู่  ของคุณป้าสังเวียน  กลับมาเป็นปกติ  ด้วยเทอญ   ให้หายจากอาการที่ประสบอยู่อย่างเร็ววัน

           และที่สำคัญที่สุด   ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดี   ถึงท่านนายกรัฐมนตรี  ประยุทธิ์  ขอให้มีแรงกาย  แรงใจ  ให้ทำงานเพื่อประชาชนต่อไป   ข้าพเจ้า  หวังว่า  สิ่งร้องเรียน ท่านจะรับทราบ  และแก้ไขโดยด่วน    เราจะเป็นประชาชนที่อยู่เคียงข้างท่านเสมอ


                                                                                                         ด้วยความเคารพอย่างสูง

                                                                                                            ผู้ร้องเรียนไปประสงค์ออกนาม




To   คนในสังคม  Pantip  และผู้ที่ได้รับผลกระทบและเห็นว่า  มาตราดังกล่าวไม่เป็นธรรมตามจริงแล่วนั้น    ข้าพเจ้าขอเชิญชวน  พลังมืด  พลังจากประชาชนไปส่งหนังสือร้องเรียนให้ถึงมือ  ท่านนายกรัฐมนตรีกันที่ทำเนียบรัฐบาบ  

      กฏหมายฉบับดังกล่าว   ควรได้รับการแก้ไข     และขอเชิญชวนกลุ่มสื่อมวลชนทุกสำนัก  เสนอข่าวในมาตรานี้ด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่