Kansai ครั้งแรกกับการพาเด็กๆเที่ยวเอง

สวัสดีค่ะ ครั้งแรกกับการพาลูกๆเที่ยวต่างประเทศ และไม่ได้ใช้บริการบริษัททัวร์

ลูกคนโต 7ขวบ และคนเล็ก 5ขวบ ค่ะ

การจะเที่ยวกับเด็กๆอายุประมาณนี้ ทำให้ต้องวางแผนการเดินทาง ค่ะ จึงอยากแบ่งปันสำหรับใครที่มีลูกในวัยเล็กๆ แล้วอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นค่ะ

ข้อมูลที่จะลง จะเน้นวิธีการเตรียมตัวและการหาข้อมูลสำหรับการวางแผนเดินทางเองค่ะ

ขออภัยหากข้อมูลไม่ละเอียดครบถ้วน และไม่ถูกต้อง แต่เป็นการเล่าจากประสบการณ์ที่เราได้จากการเดินทางครั้งนี้ค่ะ
หากใครเห็นว่าข้อมูลผิดผลาด หรือต้องการแนะนำอะไรเพิ่มเติม ช่วยกันใส่มาได้เลยนะคะ
อยากให้คนไทยได้มีโอกาสเที่ยวแบบไม่ต้องใช้บริการบริษัททัวร์บ้างค่ะ เพราะจะมีความอิสระเรื่องเวลามากกว่า

ควรจะหาข้อมูลเรื่องมารยาทในการใช้รถไฟ รถเมล์ การใช้บริการในร้านอาหาร และอื่นๆ ถ้ามีเวลาควรหาข้อมุลอะไรแบบนี้อ่านไว้ด้วยค่ะ เวลาเราไป จะได้ไม่ทำในสิ่งที่อาจจะเป็นการเสียมารยาทสำหรับคนญี่ปุ่น

ไปญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องเก่งภาษาอังกฤษ ก็ไปได้จริงๆค่ะ เพราะคนญี่ปุ่น ก็ไม่พูดภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่ ถ้าถามทาง ก็ควรมีภาพหรือชื่อสถานที่นั้นๆ แล้วก็รอฟังคำชื่อถนน หรือชื่อสถานี และมองมือเค้าให้ดีๆ ว่าจะชี้ไปทางไหนบ้าง

ถ้าที่พักใคร ไม่ได้อยู่ในใจกลางเมือง และต้องเดินเท้า ควรจะเตรียมชื่อที่พักหรือที่อยู่ของสถานที่ ที่เราต้องการจะเดินทางไป เป็นภาษาญี่ปุ่นมาด้วยค่ะ ช่วยได้เยอะเลย

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความละเอียดทางด้านข้อมูล ทำให้การจะหาข้อมูลก่อนการเดินทางจึงเป็นเรื่องไม่ยากมากนักค่ะ แต่ก็มีข้อมูลที่ละเอียดจนบางทีอ่านแล้วก็มึนเหมือนกัน

ควรวางแผนแบบบริษัททัวร์เลยก็ดีค่ะ ประมาณว่า วันที่1 ไปไหนบ้าง วันที่2 ไปไหนบ้าง อะไรประมาณนั้น

สายการบินก็มีหลากหลาย ถ้าแบบถูกๆ เป็นของประเทศอื่นที่ไม่ใช่สายการบินสัญชาติไทย ส่วนใหญ่ก็ต้องแวะประเทศเจ้าของสายการบินก่อน ซึ่งบางทีก็อ้อมน่าดู ทำให้ใช้เวลาเดินทางเพิ่มขึ้น
ด้วยความที่เรามีเด็กๆ และต้องลางานเพื่อการเดินทางครั้งนี้ ทำให้ไม่อยากเสียเวลากับการเดินทางมากนักค่ะ เลยเลือกสายการบินที่ให้บริการบินตรงไป Kansai เลย


เตรียมตัววางแผนการเดินทาง
หาสถานที่ ที่เราสนใจในเขต Kansai เราหาข้อมูลจาก
Japan guide: [url] http://www.japan-guide.com/list/e1105.html/url]
ควบคู่ไปกับ Tripadvisor: [url] http://www.tripadvisor.com/Tourism-g298199-Osaka_Prefecture_Kinki-Vacations.html/url]
ใน tripadvisor เราเน้นอ่าน comment สถานที่เที่ยวและที่พักค่ะ

และต่อด้วยหาข้อมูลรถไฟ
อันนี้จะงงและเหนื่อยมาก เพราะ แพคเกจรถไฟของญี่ปุ่นมีเยอะจริงๆ
ตามที่เราเข้าใจ มีรถไฟ สายเอกชน และของรัฐบาล ถ้าเป็น subway มักจะเป็นของรัฐบาล และ subway จะบริการเฉพาะในเขตของแต่ละเมือง
(หากเราเข้าใจผิด ขอใครมาช่วยแก้ไขด้วยค่ะ)
ซึ่งถ้าไปในแต่ละเมืองแล้วต้องใช้บริการรถไฟ ถ้าแพคเกจไม่แถม subway เราก็ต้องเสียเงินซื้อตั๋ว subway ค่ะ
เพราะฉะนั้นต้องดูว่า แผนการเดินทางท่องเที่ยวของเรา จะมีการใช้ subway มากน้อยแค่ไหน

เราสามารถหาข้อมูลแพคเกจรถไฟจากเวป ก็จะเป็นพวก
JR West Pass: [url] https://www.westjr.co.jp/global/en/travel-information/pass//url]
Icoca+Haruka: [url] http://www.westjr.co.jp/global/en/travel-information/pass/icoca-haruka//url]
Kansai Thru Pass: [url] http://www.surutto.com/tickets/kansai_thru_english.html/url]
Hankyu Tourist Pass: [url] http://www.kansai360.net/en/ticket//url]
Nakai Electric Raitway: [url] http://www.howto-osaka.com/en/top.html/url]

หรือจะลองเข้าไปที่ [url] http://www.osaka-info.jp/en/plan/practical_information/travel_passes//url]
เวปนี้ก็มีบอกพวกแพคเกจรถไฟเยอะดีค่ะและมีบอกเฉพาะแพคเกจสำหรับเดินทางใน Osaka ด้วยค่ะ

และสามารถลองหาวิธีการเดินทางจาก [url] http://www.hyperdia.com/en//url]
เวปนี้ก็สะดวกดีค่ะ เหมาะกับการวางแผนเดินทาง จะบอกระยะเวลาของการเดิทาง ข้อมูลออกมาละเอียดใช้ได้ และที่เราชอบที่สุดคือ บอกราคาด้วย
เพียงแค่เราพิมพ์สถานีที่เราต้องการจะเดินทางออก และใส่สถานีที่เราต้องการจะไป
ใส่เวลาไปด้วยนะคะ คร่าวๆ ช่วยให้เรารู้ว่า ใช้ระยะเวลาโดยรวมประมาณกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมง

ตระกูล JR ซื้อได้จาก agency ที่เมืองไทย ซึ่งก็พิมพ์หาได้จากเน็ตค่ะ
เจ้าที่เราลองถาม ถ้าจ่ายบัตรเครดิต ชาร์จเพิ่ม 1.5%
ไม่ทราบว่ามียี่ห้ออื่นอีกไม๊ ที่ขายในเมืองไทย แต่เราไม่ได้คิดจะซื้อจากเมืองไทยค่ะ เลยไม่ได้หาข้อมูลไว้

แนะนำว่าให้ทำเป็นตารางของยี่ห้อรถไฟแต่ละเจ้าเลยค่ะ เพราะจะได้เปรียบเทียบราคาและรายละเอียดต่างๆได้ง่ายค่ะ คือบางเจ้า แถม subway อย่างเดียว แต่บางเจ้าให้subway+bus  อะไรแบบนั้น
หรือบางเจ้าก็เป็นแบบ unlimited ride ด้วย
และส่วนใหญ่ เมื่อซื้อแพคเกจ ก็จะมีแถมพวกส่วนลดตั๋วเข้าสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งด้วย

ตั๋วแพคเกจ ไม่ทราบว่าทุกยี่ห้อไม๊ คือถ้าซื้อแบบ ตั๋ว 2 วัน หรือ 3 วัน  ไม่จำเป็นต้องขึ้นวันติดๆกัน เค้าจะแยกมาเป็น 2 ใบ (ในกรณีซื้อแบบสองวัน) เพราะฉะนั้น วันแรก เราอาจจะใช้ไปแล้ว 1 ใบ แล้วอีก 3 วันค่อยหยิบอีกใบมาใช้ได้
แต่อันนี้ไม่แน่ใจว่าทุกยี่ห้อเค้าเป็นยังไงนะคะ ต้องดูรายละเอียดของแต่ละ แพคเกจอีกที

ถ้าสรุปว่าตัวเองไม่ได้สนใจเรื่องราคาอะไรมากนัก ก็ซื้อยี่ห้อไหนก็ได้มั้งคะ แต่นี่ด้วยความที่เป็นคุณสามีจ่ายสำหรับ 4 ชีวิต เราจึงต้องพยายามหาตั๋วที่คุ้มราคาที่สุด

บางคนก็แนะนำว่า ให้เลือกแพคเกจรถไฟ แล้วให้เที่ยวตามที่แพคเกจรถไฟนั้นจะผ่าน แต่ด้วยความที่ ความสนใจของเราแตกต่างเล็กน้อย เลยขอศึกษาละเอียดนิดนึง

นั่งรถไฟนี่ ถ้าจะไปถึงสถานีที่ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะลง ก็จะมีภาษาอังกฤษบอกค่ะ แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นแบบนี้ทุกยี่ห้อรถไฟหรือเปล่า

และแต่ละช่องที่เราจะยืนรอขึ้นรถไฟ จะมีสัญลักษ์ภาพบอกไว้ค่ะว่า ช่องนี้ จะเป็นสำหรับผู้หญิงล้วนเท่านั้น (จะมีระบุเป็นเวลา) หรือช่องนี้ สำหรับรถเข็น เด็ก และคนชรา อะไรแบบนั้น

ที่พื้นบางทีก็จะมีลูกศรบอกค่ะ ว่าให้เดินชิดทางไหน โดยเฉพาะเวลาขึ้นลงบรรได จะเห็นเลยว่า มีลูกศรให้ชิดซ้าย เพราะคนญี่ปุ่นจะไม่หยุดเดินกันเลย ถ้าอยู่ดีๆเราหยุดเดิน หรือไปเดินผิดเลน อาจจะไปกีดขวางเค้าได้ค่ะ
เราก็ต้องหยุดเดินเพื่อมองหาช่องที่จะออกจากสถานีเหมือนกันค่ะ ก็ต้องเดินแล้วดูจังหวะดีๆ เพื่อจะหาที่ยืนหลบคนได้

ถ้าใครที่มาถึง Kansai Airport แล้วอยากไปโกเบเลย ก็มีบริการเรือ Ferry ด้วยค่ะ ดูจาก เวป [url] http://www.kansai-airport.or.jp/en/Access/ferry/index.html/url]
สำหรับนักท่องเที่ยว ลดครึ่งราคาด้วยค่ะ

รถเมล์ในญี่ปุ่น
รถเมล์ของคนญี่ปุ่น ก็สะดวกดีค่ะ และก็เป๊ะในเรื่องการจอดมากๆ จะมีประตูลง และประตูขึ้น
เวลาจะขึ้นรถ ก็ต้องไปยืนเข้าแถวเป็นระเบียบเรียบร้อยในช่องที่กำหนด รถจะจอดที่ป้ายและให้คนลงก่อน แล้วจึงเลื่อนรถ ให้ประตูทางขึ้นตรงกับช่องที่คนยืนรอ
ต้องเตรียมเหรียญเงินให้พอดีค่ะ เด็กขึ้นฟรี
ถ้าเป็นสถานีที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว จะมีภาษาอังกฤษพูดบอกค่ะว่ากำลังจะถึงสถานีอะไร
แต่นี่คือประสบการณ์ขึ้นรถเมล์ในเกียวโตนะคะ

ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ หรือ รถเมล์ เวลาเด็กขึ้น ไม่มีคนลุกให้เด็กนะคะ ยกเว้นจะเป็นคุณแม่ที่อุ้มเด็กแบบวัยยังเดินไม่ได้ มีเพื่อนบอกว่า เป็นวิธีการสอนเด็กให้รู้จักดูแลตัวเองค่ะ
แต่รถไฟและรถเมล์ก็ไม่ได้ยืนยากเลย ไม่กระชากเวลาออกตัวเท่าไหร่ค่ะ

ถ้าขึ้นรถไฟช่วงเวลาคนออกไปทำงานหรือกลับบ้านจากการทำงาน ก็จะแน่นค่ะ

การใช้บริการรถไฟหรือรถเมล์ พอเราเข้าไปแล้ว ก็ไม่ควรคุยกันเสียงดัง เพราะจะเป็นการรบกวนผู้อื่นค่ะ
เรามีเด็กๆไปด้วย ต้องคอยเตือนเด็กๆเราตลอดเลย เรื่องเสียงดัง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่