สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิพทุกคน
จริงๆ คิดไว้นานมากแล้วว่า อยากจะแชร์ประสบการณ์เรื่อง "การทำให้รักแร้ขาว" ที่พันทิพ
แต่ใจยังไม่กล้าพอ อาย "น้องจุกกะแร้" ตัวเองเมื่อก่อนมาก อีกอย่างก็คิดว่ารักแร้เราก็ไม่ได้เนียนเรียบกริบสักเท่าไหร่
รีวิวไปอาจจะมีคนด่า หรือตอกกลับหน้าหงายมาก็เป็นได้
จนเมื่อวานได้เล่าให้เพื่อนฟังว่า เมื่อก่อนรักแร้เราเป็นไง แล้วปัจจุบันนี้เป็นยังไง ไปทำอะไร ยังไงมาบ้าง
(เอาง่ายๆว่าโชว์นั้นแหละ อิอิ ก็เหม๋นะ อยากโชว์บ้างไรบ้าง 555+ เพราะเมื่อก่อนรักแร้เราดำมาก
ไม่เคยใส่แขนกุด ไม่เคยโชว์วงแขนอันดำมืดของเราเลย)
ซึ่งเราเองก็ถ่ายรูปเตรียมไว้นานละ เผื่อไว้ว่าสักวัน (ย้ำ สักวัน) ถ้า "จุกกะแร้ มันดีขึ้น" ก็อยากจะมารีวิว
ซึ่งเพื่อนเราก็บอกว่า เอาดิ รีวิวเลย อย่าไปกลัว วันนี้ก็เลยมีกำลังใจมาโชว์จักกะแร้ให้ชาวโลกได้ประจัก 555+
ง่ายๆเลยคือ อยากจะมาเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่คิดว่า
"ชาตินี้จุกกะแร้เราไม่มีวันขาวได้ สวยได้ ต้องเสียตังไปยิงเรเซอร์
ทำนู้นนี่(แบบเสียตังแพงๆ) เท่านั้นถึงจะขาว" อยากจะบอก ณ วันนี้ ตรงนี้เลยว่า ไม่เสมอไปค่ะ!!
เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ซื้อคอสยิงเรเซอร์ไว้ แต่ไม่ค่อยได้ไปทำเลย ไม่ว่างไปบ้างละ ขี้เกียจไปบ้างละ (เสียดายเหมือนกัน หลายตังอยู่)
สุดท้ายเราก็มาหาวิธีอื่นแทน ก็หารีวิวอ่านจากพันทิพนี้แหละค่ะ
"ทุกวิธี ทุกอย่างที่ดีๆ หาได้จากพันทิพนี่แหละ"
สิ่งที่เราใช้ มี 2 อย่างค่ะ คือ Ratin A 0.05 (ซื้อตามร้านขายยาทั่วไป) กับ สารส้ม (ซื้อตาม 7 ทั่วไป) เราลองค้นคว้าเกี่ยวกับ Ratin A สักพักได้
บางคนใช้แล้วดี บางคนใช้แล้วแย่ มีเยอะแยะปะปนกันไปค่ะ แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจไปซื้อมาลองใช้
แค่ใช้วันแรก คืนแรก เรื่องก็เกิดเลยค่ะ น้องจักกะแร้ เน่าหนักกว่าเดิมอีกค่ะ ตอนนั้นโครตเครียดเลย เครียดยิ่งกว่าแฟนบอกเลิกอีก 555+
ไอเจ้า Ratin A มันกัดผิวหนังตรงน้องจักกะแร้แดงเถือก เป็นจ้ำๆ เอาง่ายๆคงเรียกว่า "แพ้" นั้นแหละค่ะ
(ผิวตรงจักกะแร้บอบบางมากๆนะค่ะ น่าจะพอๆกับผิวหน้า แต่เราว่ามันน่าจะบอบบางกว่าหน้ามาก ก็หน้าเรามันเจอทั้งแดด ทั้งฝน ทั้งลม
ทั้งฝุ่น มันยังทนได้เลย แล้วจักกะแร้เรา เจออะไร วันๆมันก็แอบอยู่ในร่มผ้าตลอด จะทนอะไรกับเขาได้ อันนี้เป็นความคิดเรานะค่ะ)
เราก็ไม่หวั่นค่ะ ยังหน้าด้านใช้มันต่อ จน 1 อาทิตย์ผ่านไป เราเริ่มรู้สึกว่ามันแย่หนักกว่าเดิมอีก อยากเลิกใช้มาก
เป็นช่วงที่คิดไม่ตกมากๆเลยค่ะ ว่าชั้นจะเอายังไงกับ น้องจักกะแร้เน่าๆแบบนี้ดี
"ถ้าใช้ต่อจะดีขึ้นไหม หรือถ้าใช้ต่อจะเละยิ่งกว่านี้อีก ถ้าไม่ใช้แล้วหละจะเป็นไง" มาดูรูปกันดีกว่าค่ะ จะได้เห็นภาพ ว่าเน่าขนาดไหน
รูปนี้เป็นรูปที่เราใช้ ไปได้สัก 1 อาทิตย์ค่ะ เน่ามากกกกกกกกกกกกกกกกก อยากกลับไปเกิดใหม่ก็ว่าได้
เราทาครีมพวกบำรุงหน้า บำรุงดวงตา หลังจากทาเรตินเอไปด้วยนะ นี่ขนาดทาไปด้วยนะ ยังเป็นขนาดนี้ ถ้าไม่ทาจะขนาดไหน
เราตัดสินใจใช้ต่อค่ะ ใช้เรื่อยๆ ทาบ้างไม่ทาบ้างสลับกันไป ส่วนใหญ่ลืมทาค่ะ
จนเราอยากได้ตัวช่วยเพิ่มค่ะ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแน่ๆ เน่าแน่ๆรักแร้ชั้น ก่อนกลับบ้านเลยแวะ 7 ซื้อสารส้มมา 1 แท่ง
เราทาเฉพาะกลางวันหลังอาบน้ำเสร็จนะค่ะ เวลาผ่านไปสักพัก (1-2 วัน น่าจะได้)
เฮ้ยยยยยยยยยยยย............................. อู้วแม่เจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
พอเราเอาสารส้มมาทาเท่านั้นแหละค่ะ ดีขึ้นทันตาเห็น
เหมือนรักแร้มันแห้ง ไม่เปียก ไม่ชื้น เพราะเหงื่อไม่ออกแบบเมื่อก่อนอะค่ะ
เลยทำให้แผลที่เป็นอยู่มันแห้งไปด้วย (อันนี้ไม่รู้คิดไปเองเปล่า)
แต่แน่ๆเลยดับกลิ่นกายได้ดีมาก ดับเหงื่อได้ดีอีก สุดยอดอะ ฟินไปเลยค่ะ
หลังจากใช้ เรตินเอ ตั้งแต่วันแรก และสารส้ม (เริ่มใช้เมื่อไหร่จำไม่ได้) ราวๆแล้ว 4 อาทิตย์ ผลที่ได้คือ
แล้วเราก็ยังใช้ต่อมาเรื่อยๆนะค่ะ อันนี้เป็นรูปที่เราถ่ายไว้เมื่อวานค่ะ กริ้งๆ ๆ ๆ เลยค่ะ (สำหรับเรานะค่ะ)
พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ในวันนี้มากๆเลยค่ะ ฟินอะ จากรักแร้ที่ดำปืด กลายเป็นน้องรักแร้ผู้งดงาม
รูปนี้ก็ใช้มาแล้วประมาณเกือบๆ 2 เดือนได้มั้งค่ะ
(รูปใหญ่มาก ไม่รู้ย่อไงค่ะ 5555+ ระวังนะค่ะ เตือนแล้วนะ)
สรุปผลที่ได้นะค่ะ
1 เรารู้สึกว่าขนจุกกะแร้ขึ้นน้อยมาก น้อยกว่าเมื่อก่อน
2 เรื่องกลิ่นกาย ไม่มีกลิ่นตัวเลยค่ะ ดับกลิ่นดีมาก
3 รักแร้แห้ง ไม่เหนียวเหนอะหนะ
4 ตุ่มไก่ ขนคุดแทบไม่มีเลย มีบ้าง เพราะเรายังชอบถอนอยู่ค่ะ เลิกไม่ได้จริงๆ มันมันส์มืออะ
5 รักแร้สวยใส (รึเปล่า) แต่ดีขึ้นเยอะมากๆ ฟินอะตอนนี้ โชว์รักแร้แบบไม่อายใครเลยค่ะ
6 คิดไม่ออกแล้วอะค่ะ รู้แค่ว่า ผลลัพธ์ที่ได้ กว่จะมาถึงวันนี้ได้ พอใจมากค่ะ
ค่าเสียหายทั้งหมดไม่ถึง 200 บาทค่ะ เป็นกำลังจคนที่รักแร้ดำทุกท่านนะค่ะ สู้ๆค่ะ
ขนาดรักแร้อย่างเรายังขาวได้ คุณก็ขาวได้เช่นกันค่ะ
คำเตือนนะค่ะ
ไม่ใช่ว่าทุกคนใช้แล้วจะดีขึ้นแบบเรานะค่ะ มีหลายคนที่ใช้แล้วแย่ลงก็มีค่ะ อยากให้ทุกท่านหาข้อมูลกันให้ดีๆก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดนะค่ะ
สามารถหารีวิว ความรู้ดีๆได้จากกระทู้ในพันทิพนะค่ะ
แก้ไขคำผิดบางคำค่ะ
เพิ่มเติมนะค่ะ
1. เราใช้เรตินเอ เฉพาะตอนกลางคืนค่ะ ทาก่อนนอนเท่านั่น เราจะบีบยามาแค่เท่าเมล็ดถั่ว 2 อันค่ะ แบ่งกันข้างละครึ่ง
(แบบทาเสร็จแล้วปิดไฟนอนเลยอะค่ะ) เพราะคนขายเขาแนะนำมาว่า มันไวต่อแสงมาก
2. ทาเรตินเอเสร็จ เราจะทาครีมทับไปอีก (พวกครีมทาหน้า) เพื่อไม่ให้เรตินเอ มันกัดผิวอย่างเดียว
ต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรักแร้บ้าง (ความคิดเรานะค่ะ)
3. เราทาสารส้มหลังอาบน้ำทุกเช้า เอาสารส้มจุ่มน้ำแล้วมาทารักแร้ ทาตอนรักแร้แห้งๆนะค่ะ
เรตินเอ เราไม่ได้ทาทุกวันนะค่ะ บางวันก็ลืม ส่วนใหญ่จะลืมทา ส่วนสารส้มเราทาทุกวันค่ะ
[CR] แชร์ประสบการณ์ ::::::: รักแร้ขาว ด้วยวิธีง่ายๆ ::::::::::
จริงๆ คิดไว้นานมากแล้วว่า อยากจะแชร์ประสบการณ์เรื่อง "การทำให้รักแร้ขาว" ที่พันทิพ
แต่ใจยังไม่กล้าพอ อาย "น้องจุกกะแร้" ตัวเองเมื่อก่อนมาก อีกอย่างก็คิดว่ารักแร้เราก็ไม่ได้เนียนเรียบกริบสักเท่าไหร่
รีวิวไปอาจจะมีคนด่า หรือตอกกลับหน้าหงายมาก็เป็นได้
จนเมื่อวานได้เล่าให้เพื่อนฟังว่า เมื่อก่อนรักแร้เราเป็นไง แล้วปัจจุบันนี้เป็นยังไง ไปทำอะไร ยังไงมาบ้าง
(เอาง่ายๆว่าโชว์นั้นแหละ อิอิ ก็เหม๋นะ อยากโชว์บ้างไรบ้าง 555+ เพราะเมื่อก่อนรักแร้เราดำมาก
ไม่เคยใส่แขนกุด ไม่เคยโชว์วงแขนอันดำมืดของเราเลย)
ซึ่งเราเองก็ถ่ายรูปเตรียมไว้นานละ เผื่อไว้ว่าสักวัน (ย้ำ สักวัน) ถ้า "จุกกะแร้ มันดีขึ้น" ก็อยากจะมารีวิว
ซึ่งเพื่อนเราก็บอกว่า เอาดิ รีวิวเลย อย่าไปกลัว วันนี้ก็เลยมีกำลังใจมาโชว์จักกะแร้ให้ชาวโลกได้ประจัก 555+
ง่ายๆเลยคือ อยากจะมาเป็นกำลังใจให้กับเพื่อนๆที่คิดว่า "ชาตินี้จุกกะแร้เราไม่มีวันขาวได้ สวยได้ ต้องเสียตังไปยิงเรเซอร์
ทำนู้นนี่(แบบเสียตังแพงๆ) เท่านั้นถึงจะขาว" อยากจะบอก ณ วันนี้ ตรงนี้เลยว่า ไม่เสมอไปค่ะ!!
เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ซื้อคอสยิงเรเซอร์ไว้ แต่ไม่ค่อยได้ไปทำเลย ไม่ว่างไปบ้างละ ขี้เกียจไปบ้างละ (เสียดายเหมือนกัน หลายตังอยู่)
สุดท้ายเราก็มาหาวิธีอื่นแทน ก็หารีวิวอ่านจากพันทิพนี้แหละค่ะ "ทุกวิธี ทุกอย่างที่ดีๆ หาได้จากพันทิพนี่แหละ"
สิ่งที่เราใช้ มี 2 อย่างค่ะ คือ Ratin A 0.05 (ซื้อตามร้านขายยาทั่วไป) กับ สารส้ม (ซื้อตาม 7 ทั่วไป) เราลองค้นคว้าเกี่ยวกับ Ratin A สักพักได้
บางคนใช้แล้วดี บางคนใช้แล้วแย่ มีเยอะแยะปะปนกันไปค่ะ แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจไปซื้อมาลองใช้
แค่ใช้วันแรก คืนแรก เรื่องก็เกิดเลยค่ะ น้องจักกะแร้ เน่าหนักกว่าเดิมอีกค่ะ ตอนนั้นโครตเครียดเลย เครียดยิ่งกว่าแฟนบอกเลิกอีก 555+
ไอเจ้า Ratin A มันกัดผิวหนังตรงน้องจักกะแร้แดงเถือก เป็นจ้ำๆ เอาง่ายๆคงเรียกว่า "แพ้" นั้นแหละค่ะ
(ผิวตรงจักกะแร้บอบบางมากๆนะค่ะ น่าจะพอๆกับผิวหน้า แต่เราว่ามันน่าจะบอบบางกว่าหน้ามาก ก็หน้าเรามันเจอทั้งแดด ทั้งฝน ทั้งลม
ทั้งฝุ่น มันยังทนได้เลย แล้วจักกะแร้เรา เจออะไร วันๆมันก็แอบอยู่ในร่มผ้าตลอด จะทนอะไรกับเขาได้ อันนี้เป็นความคิดเรานะค่ะ)
เราก็ไม่หวั่นค่ะ ยังหน้าด้านใช้มันต่อ จน 1 อาทิตย์ผ่านไป เราเริ่มรู้สึกว่ามันแย่หนักกว่าเดิมอีก อยากเลิกใช้มาก
เป็นช่วงที่คิดไม่ตกมากๆเลยค่ะ ว่าชั้นจะเอายังไงกับ น้องจักกะแร้เน่าๆแบบนี้ดี
"ถ้าใช้ต่อจะดีขึ้นไหม หรือถ้าใช้ต่อจะเละยิ่งกว่านี้อีก ถ้าไม่ใช้แล้วหละจะเป็นไง" มาดูรูปกันดีกว่าค่ะ จะได้เห็นภาพ ว่าเน่าขนาดไหน
รูปนี้เป็นรูปที่เราใช้ ไปได้สัก 1 อาทิตย์ค่ะ เน่ามากกกกกกกกกกกกกกกกก อยากกลับไปเกิดใหม่ก็ว่าได้
เราทาครีมพวกบำรุงหน้า บำรุงดวงตา หลังจากทาเรตินเอไปด้วยนะ นี่ขนาดทาไปด้วยนะ ยังเป็นขนาดนี้ ถ้าไม่ทาจะขนาดไหน
เราตัดสินใจใช้ต่อค่ะ ใช้เรื่อยๆ ทาบ้างไม่ทาบ้างสลับกันไป ส่วนใหญ่ลืมทาค่ะ
จนเราอยากได้ตัวช่วยเพิ่มค่ะ เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแน่ๆ เน่าแน่ๆรักแร้ชั้น ก่อนกลับบ้านเลยแวะ 7 ซื้อสารส้มมา 1 แท่ง
เราทาเฉพาะกลางวันหลังอาบน้ำเสร็จนะค่ะ เวลาผ่านไปสักพัก (1-2 วัน น่าจะได้)
เฮ้ยยยยยยยยยยยย............................. อู้วแม่เจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
พอเราเอาสารส้มมาทาเท่านั้นแหละค่ะ ดีขึ้นทันตาเห็น
เหมือนรักแร้มันแห้ง ไม่เปียก ไม่ชื้น เพราะเหงื่อไม่ออกแบบเมื่อก่อนอะค่ะ
เลยทำให้แผลที่เป็นอยู่มันแห้งไปด้วย (อันนี้ไม่รู้คิดไปเองเปล่า)
แต่แน่ๆเลยดับกลิ่นกายได้ดีมาก ดับเหงื่อได้ดีอีก สุดยอดอะ ฟินไปเลยค่ะ
หลังจากใช้ เรตินเอ ตั้งแต่วันแรก และสารส้ม (เริ่มใช้เมื่อไหร่จำไม่ได้) ราวๆแล้ว 4 อาทิตย์ ผลที่ได้คือ
แล้วเราก็ยังใช้ต่อมาเรื่อยๆนะค่ะ อันนี้เป็นรูปที่เราถ่ายไว้เมื่อวานค่ะ กริ้งๆ ๆ ๆ เลยค่ะ (สำหรับเรานะค่ะ)
พอใจกับผลลัพธ์ที่ได้ในวันนี้มากๆเลยค่ะ ฟินอะ จากรักแร้ที่ดำปืด กลายเป็นน้องรักแร้ผู้งดงาม
รูปนี้ก็ใช้มาแล้วประมาณเกือบๆ 2 เดือนได้มั้งค่ะ
(รูปใหญ่มาก ไม่รู้ย่อไงค่ะ 5555+ ระวังนะค่ะ เตือนแล้วนะ)
สรุปผลที่ได้นะค่ะ
1 เรารู้สึกว่าขนจุกกะแร้ขึ้นน้อยมาก น้อยกว่าเมื่อก่อน
2 เรื่องกลิ่นกาย ไม่มีกลิ่นตัวเลยค่ะ ดับกลิ่นดีมาก
3 รักแร้แห้ง ไม่เหนียวเหนอะหนะ
4 ตุ่มไก่ ขนคุดแทบไม่มีเลย มีบ้าง เพราะเรายังชอบถอนอยู่ค่ะ เลิกไม่ได้จริงๆ มันมันส์มืออะ
5 รักแร้สวยใส (รึเปล่า) แต่ดีขึ้นเยอะมากๆ ฟินอะตอนนี้ โชว์รักแร้แบบไม่อายใครเลยค่ะ
6 คิดไม่ออกแล้วอะค่ะ รู้แค่ว่า ผลลัพธ์ที่ได้ กว่จะมาถึงวันนี้ได้ พอใจมากค่ะ
ค่าเสียหายทั้งหมดไม่ถึง 200 บาทค่ะ เป็นกำลังจคนที่รักแร้ดำทุกท่านนะค่ะ สู้ๆค่ะ
ขนาดรักแร้อย่างเรายังขาวได้ คุณก็ขาวได้เช่นกันค่ะ
คำเตือนนะค่ะ
ไม่ใช่ว่าทุกคนใช้แล้วจะดีขึ้นแบบเรานะค่ะ มีหลายคนที่ใช้แล้วแย่ลงก็มีค่ะ อยากให้ทุกท่านหาข้อมูลกันให้ดีๆก่อนจะใช้ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดนะค่ะ
สามารถหารีวิว ความรู้ดีๆได้จากกระทู้ในพันทิพนะค่ะ
แก้ไขคำผิดบางคำค่ะ
เพิ่มเติมนะค่ะ
1. เราใช้เรตินเอ เฉพาะตอนกลางคืนค่ะ ทาก่อนนอนเท่านั่น เราจะบีบยามาแค่เท่าเมล็ดถั่ว 2 อันค่ะ แบ่งกันข้างละครึ่ง
(แบบทาเสร็จแล้วปิดไฟนอนเลยอะค่ะ) เพราะคนขายเขาแนะนำมาว่า มันไวต่อแสงมาก
2. ทาเรตินเอเสร็จ เราจะทาครีมทับไปอีก (พวกครีมทาหน้า) เพื่อไม่ให้เรตินเอ มันกัดผิวอย่างเดียว
ต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรักแร้บ้าง (ความคิดเรานะค่ะ)
3. เราทาสารส้มหลังอาบน้ำทุกเช้า เอาสารส้มจุ่มน้ำแล้วมาทารักแร้ ทาตอนรักแร้แห้งๆนะค่ะ
เรตินเอ เราไม่ได้ทาทุกวันนะค่ะ บางวันก็ลืม ส่วนใหญ่จะลืมทา ส่วนสารส้มเราทาทุกวันค่ะ