กระทู้นี้เป็นความเห็นส่วนตัว และ เป็นการเรียงลำดับความชอบ "ส่วนตัว" ของผู้เขียนเอง เพราะฉะนั้นหากมีข้อผิดพลาดทางเนื้อหาประการใดขออภัยล่วงหน้านะคะ
จริงๆอยากทำกระทู้แนวนี้มานาน ตั้งแต่ช่วงที่ Dane Dehaan กับ Anton Yelchin กำลังฮอต มารู้ตัวว่าอยากเขียนอีกที 2 คนที่ว่าก็แก่ และดังกันไปหมดแล้ว ฮ่าๆ เพราะงั้นเราเลยต้องไปเล็งเต๊าะเด็กรุ่นใหม่ๆแทน บางคนที่เรายกมาหากมีใครรู้จักอยู่แล้ว ก็ขอให้เป็นการแนะนำกับผู้อ่านท่านอื่นๆที่ยังไม่รู้จักนักแสดงเหล่านี้ดีนักไปก็แล้วกัน
กระทู้มีมันจะมีเนื้อหาบางส่วนที่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์นะคะ ใครกลัวสปอล์ยจัดๆ แนะนำว่าระวังๆในการอ่านนิดนึงค่ะ
10. Logan Lerman (22)
อันที่จริง โลแกนแทบจะไม่ต้องมาอยู่ในทำเนียบ "นักแสดงที่ต้องการการแนะนำตัว" อะไรอีกแล้ว เพราะหมอนี่โด่งดังมานานและเป็นขวัญใจสาวๆและบรรดาคอหนังหลายๆท่านอยู่แล้ว ด้วยหน้าตาที่หล่อกิ๊บก๊าบกับหนังหลายๆเรื่องที่เขารับเล่นก็เป็นหนังดัง ทั้งเอาใจตลาด ทั้งเอาใจนักวิจารณ์ ชื่อของเขาจึงแทบไม่มีอะไรให้น่าจะต้องมาแนะนำอะไรเพิ่มเติมอีก
แต่ก็อย่างที่บอก เราเรียงตามลำดับความชอบของตัวเอง และ โลแกนก็อยู่ในทำเนียบนักแสดง "เด็ก" ที่เราชอบมาก จนกระทั่งเขาโตขึ้นมานั่นแหละ
เราเห็นโลกแกนครั้งแรกใน Butterfly Effect
ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่าเด็กนี่คือ โลแกน จนกระทั่งเรามาเห็นเขาใน Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief หนังดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชน (ที่หลายคนคิดว่าคงมาเป็นซีรีส์เยาวชนที่ทำเงินต่อจาก Harry Potter ได้ไม่ยาก พลอตสนุกสนานและตัวละครหล่อเหลาบาดตาซะขนาดนี้) ตอนเห็นครั้งแรกนี่คิดว่า
โอ้ย เด็กอะไรหน้าตาหล่อมาก
คือหล่อจริงๆ
ดูไปเรื่อยๆเริ่มคุ้น แต่ยังไม่เอ๊ะอ๊ะอะไร ดูหนังจบรอดูชื่อเครดิต พอจำชื่อได้ ก็ออกมาเสิร์ชหาว่าหมอนี่เป็นใครมาจากไหน ก็พบว่า เชร้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด นี่คือไอ้เด็กที่แสดงเป็น แอชตัน คุชเชอร์ ตอนเด็กใน Butterfly Effect เหรอเนี่ย
จนมาเห็นอีกครั้งใน Gamer (ถ้าจำไม่ผิดในไทย Gamer น่าจะเข้าหลัง Percy Jackson หรือเราจำผิดเอง แต่เราดู Gamer หลัง Percy Jackson) หรือแม้กระทั่งใน 23 หนังจิตๆของจิม แคร์รี่ หรือ The Three Musketeers ที่เล่นกับดาราดังหลายๆคน แต่ก็ยังไม่มีเรื่องไหนถูกใจเลยจนกระทั่ง
The Perks of Being a Wallflower
นี่เป็นหนังมาสเตอร์พีซของ โลแกน
ตอนที่หนังมีข่าวว่าจะให้แม่มดน้อยเฮอร์ไมโอนี่ เจ้าหญิงแห่งวงการ เอมม่า วัตสันมาประกบคู่กับโลแกน ในหนังรักวุ่ยรุ่นเรื่องนี้ หลายคนนคงกรี๊ดสลบไปหลายรอบ เพราะ หล่อเจอสวย ในหนังชีวิตรักวัยรุ่น คงเป็นอะไรที่พีคสุดๆ นี่ยังไม่นับว่ายังมีตัวพ่ออย่าง เอซร่า มิลเลอร์ด้วยอีกนะ
หนังมันต้องเจิดมากแน่ๆ
และมันก็เจิดจริงๆ ในฐานะหนังก้าวพ้นวัย(รุ่น)ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง
ทั้งรวดร้าว เจ็บปวด และ เติบโต ไปในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่แค่หนังรักกุ๊กกิ๊ก หวานแหววอย่างที่เราเคยเข้าใจ
ก่อนอื่นเลย มันไม่ใช่หนังรักโรแมนติคของวัยรุ่น แต่พูดถึงปัญหาในชีวิตของวัยรุ่นที่หลายคนต้องเจอ
บางคนเป็นพวกเก็บตัว เข้ากับเพื่อนไม่ได้
บางคนใช้ชีวิตเหลวแหลก ฉาบฉวย ไม่เคยพบเจอความสัมพันธุ์ที่จริงจัง
บางคนต้องเจ็บปวดกับเพศสภาพที่ไม่อาจเปิดเผย
The Perks of Being a Wallflower ไม่ได้หมายถึงตัวเอกอย่าง ชาร์ลี ที่เข้ากับคนยากและมีอาการของพวกเก็บกด แค่เพียงคนเดียว แต่ยังหมายถึงทุกๆตัวละครในเรื่อง แม้แต่ แซม และ แพทริก ที่ดูมีความสุขกับชีวิตวัยรุ่นและการเป็นคนดังก็ตามที
ทุกคนสวยงามและเจ็บปวด และต่างรอคอยให้คนมองเห็นความงามที่แท้จริงของพวกเขาอยู่
เหมือนดอกไม้ที่ขึ้นในซอกกำแพง ไร้คนสนใจจนกว่าจะได้เข้าไปเพ่งมองดีๆ จึงจะเห็นว่า ดอกไม้ดอกนี้มันงดงามแค่ไหน
การแสดงของโลแกนในเรื่องนี้งดงามมาก เขารับบทเป็น ชาลี เด็กพูดน้อย เก็บกด ที่ชอบเขียนจดหมายระบายเรื่องต่างๆส่งไปให้คนที่เขาไม่รู้จัก และเมื่อเขาขึ้นม.ปลาย และคิดว่าชีวิตของตัวเองอาจดัขึ้น แต่เปล่าเลย เขายังเข้ากับใครไมไ่ด้เหมือนเดิมจนได้เจอ แพทริค หนุ่มหน้าตาดีและดูร่าเริงสดใส เขามีน้องสาวบุญธรรมสุดเฟี้ยวที่ชื่อแซม พวกเขาทั้งคู่ดูเพอร์เฟ็ค และแตกต่างกับชาร์ลีเหลือเกิน
ครั้งแรกที่เราร้องไห้ให้กับการแสดงของ โลแกน คือตอนที่เขากำลังจับดินสอเพื่อเขียนจดหมายในฉากแรกของเรื่อง มันก็แค่การจับดินสอ มันไม่มีการแสดงสีหน้าและบทพูดอะไรทั้งสิ้น มันเงียบมาก แต่มันทรงพลังมากในเวลาเดียวกัน ฉากจับดินสอฉากนั้นทำให้เราร้องไห้ เพราะเรารู้สึกว่า ตัวละครนี้มันเหงาเหลือเกิน การเใช้ดินสอก็เหมือนกับการทำอะไรที่ขัดกับการกระทำในยุคปัจจุบัน ใครยังจะมาเหลาดินสอใช้เขียนจดหมายอีก บางทีการใช้ปากกาเขียนจดหมายมันอาจไม่เหงาเท่าดินสอ สำหรับเรามันลึกซึ้งขนาดนั้นจริงๆ
โลแกนทำได้ดีทั้งในฉากที่ต้องร้องไห้ ฉากที่ต้องโดดเดี่ยว และ ฉากที่ต้องระเบิดอารมณ์ เพราะงั้นเขาถึงกลายมาเป็น 1 ในนักแสดงที่เราชอบมากจากหนังเรื่อง The Perks of Being a Wallflower จริงๆ จากที่เคยมองแค่หน้าตาที่หล่อเหลาของเขา ก็ได้เห็นแล้วว่า เขามีดีมากกว่าแค่หน้าตาจริงๆ
ผลงานที่แนะนำ
- The Perks of Being a Wallflower
- Stuck in Love
- Noah
เคยรีวิว PERKS ไว้เมื่อนานมาแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://jaypop.exteen.com/20121018/3-argo-the-perks-of-being-a-wallflower-looper
10(+1) นักแสดงชายวัยรุ่น ที่เราอยากให้คุณรู้จัก
จริงๆอยากทำกระทู้แนวนี้มานาน ตั้งแต่ช่วงที่ Dane Dehaan กับ Anton Yelchin กำลังฮอต มารู้ตัวว่าอยากเขียนอีกที 2 คนที่ว่าก็แก่ และดังกันไปหมดแล้ว ฮ่าๆ เพราะงั้นเราเลยต้องไปเล็งเต๊าะเด็กรุ่นใหม่ๆแทน บางคนที่เรายกมาหากมีใครรู้จักอยู่แล้ว ก็ขอให้เป็นการแนะนำกับผู้อ่านท่านอื่นๆที่ยังไม่รู้จักนักแสดงเหล่านี้ดีนักไปก็แล้วกัน
กระทู้มีมันจะมีเนื้อหาบางส่วนที่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์นะคะ ใครกลัวสปอล์ยจัดๆ แนะนำว่าระวังๆในการอ่านนิดนึงค่ะ
อันที่จริง โลแกนแทบจะไม่ต้องมาอยู่ในทำเนียบ "นักแสดงที่ต้องการการแนะนำตัว" อะไรอีกแล้ว เพราะหมอนี่โด่งดังมานานและเป็นขวัญใจสาวๆและบรรดาคอหนังหลายๆท่านอยู่แล้ว ด้วยหน้าตาที่หล่อกิ๊บก๊าบกับหนังหลายๆเรื่องที่เขารับเล่นก็เป็นหนังดัง ทั้งเอาใจตลาด ทั้งเอาใจนักวิจารณ์ ชื่อของเขาจึงแทบไม่มีอะไรให้น่าจะต้องมาแนะนำอะไรเพิ่มเติมอีก
แต่ก็อย่างที่บอก เราเรียงตามลำดับความชอบของตัวเอง และ โลแกนก็อยู่ในทำเนียบนักแสดง "เด็ก" ที่เราชอบมาก จนกระทั่งเขาโตขึ้นมานั่นแหละ
ตอนนั้นยังไม่รู้หรอกว่าเด็กนี่คือ โลแกน จนกระทั่งเรามาเห็นเขาใน Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief หนังดัดแปลงจากวรรณกรรมเยาวชน (ที่หลายคนคิดว่าคงมาเป็นซีรีส์เยาวชนที่ทำเงินต่อจาก Harry Potter ได้ไม่ยาก พลอตสนุกสนานและตัวละครหล่อเหลาบาดตาซะขนาดนี้) ตอนเห็นครั้งแรกนี่คิดว่า
คือหล่อจริงๆ
ดูไปเรื่อยๆเริ่มคุ้น แต่ยังไม่เอ๊ะอ๊ะอะไร ดูหนังจบรอดูชื่อเครดิต พอจำชื่อได้ ก็ออกมาเสิร์ชหาว่าหมอนี่เป็นใครมาจากไหน ก็พบว่า เชร้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด นี่คือไอ้เด็กที่แสดงเป็น แอชตัน คุชเชอร์ ตอนเด็กใน Butterfly Effect เหรอเนี่ย
จนมาเห็นอีกครั้งใน Gamer (ถ้าจำไม่ผิดในไทย Gamer น่าจะเข้าหลัง Percy Jackson หรือเราจำผิดเอง แต่เราดู Gamer หลัง Percy Jackson) หรือแม้กระทั่งใน 23 หนังจิตๆของจิม แคร์รี่ หรือ The Three Musketeers ที่เล่นกับดาราดังหลายๆคน แต่ก็ยังไม่มีเรื่องไหนถูกใจเลยจนกระทั่ง
The Perks of Being a Wallflower
นี่เป็นหนังมาสเตอร์พีซของ โลแกน
ตอนที่หนังมีข่าวว่าจะให้แม่มดน้อยเฮอร์ไมโอนี่ เจ้าหญิงแห่งวงการ เอมม่า วัตสันมาประกบคู่กับโลแกน ในหนังรักวุ่ยรุ่นเรื่องนี้ หลายคนนคงกรี๊ดสลบไปหลายรอบ เพราะ หล่อเจอสวย ในหนังชีวิตรักวัยรุ่น คงเป็นอะไรที่พีคสุดๆ นี่ยังไม่นับว่ายังมีตัวพ่ออย่าง เอซร่า มิลเลอร์ด้วยอีกนะ
หนังมันต้องเจิดมากแน่ๆ
และมันก็เจิดจริงๆ ในฐานะหนังก้าวพ้นวัย(รุ่น)ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง
ทั้งรวดร้าว เจ็บปวด และ เติบโต ไปในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่แค่หนังรักกุ๊กกิ๊ก หวานแหววอย่างที่เราเคยเข้าใจ
ก่อนอื่นเลย มันไม่ใช่หนังรักโรแมนติคของวัยรุ่น แต่พูดถึงปัญหาในชีวิตของวัยรุ่นที่หลายคนต้องเจอ
บางคนเป็นพวกเก็บตัว เข้ากับเพื่อนไม่ได้
บางคนใช้ชีวิตเหลวแหลก ฉาบฉวย ไม่เคยพบเจอความสัมพันธุ์ที่จริงจัง
บางคนต้องเจ็บปวดกับเพศสภาพที่ไม่อาจเปิดเผย
The Perks of Being a Wallflower ไม่ได้หมายถึงตัวเอกอย่าง ชาร์ลี ที่เข้ากับคนยากและมีอาการของพวกเก็บกด แค่เพียงคนเดียว แต่ยังหมายถึงทุกๆตัวละครในเรื่อง แม้แต่ แซม และ แพทริก ที่ดูมีความสุขกับชีวิตวัยรุ่นและการเป็นคนดังก็ตามที
ทุกคนสวยงามและเจ็บปวด และต่างรอคอยให้คนมองเห็นความงามที่แท้จริงของพวกเขาอยู่
เหมือนดอกไม้ที่ขึ้นในซอกกำแพง ไร้คนสนใจจนกว่าจะได้เข้าไปเพ่งมองดีๆ จึงจะเห็นว่า ดอกไม้ดอกนี้มันงดงามแค่ไหน
การแสดงของโลแกนในเรื่องนี้งดงามมาก เขารับบทเป็น ชาลี เด็กพูดน้อย เก็บกด ที่ชอบเขียนจดหมายระบายเรื่องต่างๆส่งไปให้คนที่เขาไม่รู้จัก และเมื่อเขาขึ้นม.ปลาย และคิดว่าชีวิตของตัวเองอาจดัขึ้น แต่เปล่าเลย เขายังเข้ากับใครไมไ่ด้เหมือนเดิมจนได้เจอ แพทริค หนุ่มหน้าตาดีและดูร่าเริงสดใส เขามีน้องสาวบุญธรรมสุดเฟี้ยวที่ชื่อแซม พวกเขาทั้งคู่ดูเพอร์เฟ็ค และแตกต่างกับชาร์ลีเหลือเกิน
ครั้งแรกที่เราร้องไห้ให้กับการแสดงของ โลแกน คือตอนที่เขากำลังจับดินสอเพื่อเขียนจดหมายในฉากแรกของเรื่อง มันก็แค่การจับดินสอ มันไม่มีการแสดงสีหน้าและบทพูดอะไรทั้งสิ้น มันเงียบมาก แต่มันทรงพลังมากในเวลาเดียวกัน ฉากจับดินสอฉากนั้นทำให้เราร้องไห้ เพราะเรารู้สึกว่า ตัวละครนี้มันเหงาเหลือเกิน การเใช้ดินสอก็เหมือนกับการทำอะไรที่ขัดกับการกระทำในยุคปัจจุบัน ใครยังจะมาเหลาดินสอใช้เขียนจดหมายอีก บางทีการใช้ปากกาเขียนจดหมายมันอาจไม่เหงาเท่าดินสอ สำหรับเรามันลึกซึ้งขนาดนั้นจริงๆ
โลแกนทำได้ดีทั้งในฉากที่ต้องร้องไห้ ฉากที่ต้องโดดเดี่ยว และ ฉากที่ต้องระเบิดอารมณ์ เพราะงั้นเขาถึงกลายมาเป็น 1 ในนักแสดงที่เราชอบมากจากหนังเรื่อง The Perks of Being a Wallflower จริงๆ จากที่เคยมองแค่หน้าตาที่หล่อเหลาของเขา ก็ได้เห็นแล้วว่า เขามีดีมากกว่าแค่หน้าตาจริงๆ
ผลงานที่แนะนำ
- The Perks of Being a Wallflower
- Stuck in Love
- Noah
เคยรีวิว PERKS ไว้เมื่อนานมาแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้