เดี๋ยวนี้คอนโดผุดเป็นดอกเห็ด คอนโดใหม่ๆ เริ่มเน้น Infinity Edge pool กันมากขึ้น
แต่ก็ยังคงมีคอนโดใหม่ๆอีกหลายตึกเช่นกัน ที่ยังคงออกแบบให้มีสระอยู่ในร่ม
โดยส่วนตัวชอบว่ายน้ำ แต่ขอเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ของสระ 3 แบบครับ
A. คือสระกลางแจ้งแต่อยู่ชั้นล่างๆ มีตึกรอบสระ เปิดโล่ง แต่ไม่ใช่ชั้นดาดฟ้า ยกตัวอย่างเช่น Parkland งามวงศ์วาน-แคราย
B. คือสระในร่มทั้งหมด เช่น อยู่ชั้น 5 ทั้งชั้น ยกตัวอย่าง เช่น สระของ Bangkok Horizon รามคำแหง
C. คือสระชั้นบนสุด แบบ Infinite Edge pool อย่าง The tree บางโพ หรือ Urbano Absolute
ผมตั้งข้อสังเกตอย่างนี้ครับ
1. ด้านความสะอาด หมายถึง สิ่งแวดล้อมที่จะทำให้สระสกปรก
- สระแบบ A เวลาชั้นบนๆสูบบุหรี่ กวาดขยะ ขากน้ำลาย แล้วมีสระว่ายอยู่ข้างล่าง สกปรกแน่ๆครับ ยิ่งจำนวนยูนิตเหนือหัวขึ้นไปเยอะยิ่งเสี่ยงเยอะ มันรู้สึกว่ายแล้วไม่สะบายใจครับเวลาเงยหน้าแล้วเห็นคนกำลังตากผ้า กวาดหลังห้องอยู่ แถมยังต้องระวังเรื่องขี้นก ฝุ่น น้ำฝนที่ชะความสกปรกลงสระด้วย
- ส่วนแบบ B คงต้องระวังพวกขี้จิ้งจก แมลงที่มาตอมไฟ แล้วร่วงลงน้ำ แต่ผมว่าค่อนข้างน้อยและไม่แตกต่างจากอีก2แบบเท่าไร
- ส่วนสระแบบ C คือ Infinity edge pool ชั้นบนสุดนี่ ถ้ามีก็คงเป็นขี้นกครับ ฝุ่นครับ มันร่วงลงสระตอนไหนเราก็ไม่รู้ รวมถึงน้ำฝนสกปรกๆที่ชะเอาความสกปรกมาด้วย สะสมอยู่ในสระตลอดทั้งอาทิตย์ แต่อันนี้ก็แค่หน้าฝนครับ นกโอกาสที่จะเผอิ๊ญบินมาแล้วขี้ร่วงลงสระก็ถือว่าน้อยมาก
แถมสระแบบนี้ยังมีข้อดีที่ได้แสงแดด ฆ่าเชื้อโรคเพิ่มไปอีกอย่างด้วย
สรุป : ในประเด็นเรื่องความสะอาดของสระ ผมว่าแบบ C ดีที่สุด
2. ความสะดวกสบาย ในการใช้บริการ
- แบบ A สะดวกดีครับ เนื่องจากอยู่ชั้นล่าง ใช้บริการง่าย ไม่ต้องรอลิฟต์นาน ยิ่งถ้าวันไหนลิฟต์ขัดข้องก็ยังพอเดินลงบันไดไปใช้ได้บ้าง แต่เสียตรงที่บางช่วงเวลาของวัน สระจะร้อนแดด ว่ายน้ำไม่ได้ (โดยเฉพาะสระที่รับแดดบ่าย) และหน้าฝนว่ายน้ำไม่สนุก เพราะว่ายไปฝนตกไป
- แบบ B ก็สะดวกไม่ต่างจาก A แต่ดีกว่าตรงที่สระจะร่มทั้งวัน ว่ายได้ทั้งวัน ไม่ว่าอากาศข้างนอกจะร้อน จะฝนตก ก็ว่ายได้ แถมอุณหภูมิน้ำคงที่เกือบตลอดวันว่ายช่วงไหนก็ได้ สระแบบนี้ใช้ได้จริงทุกฤดูกาลครับ
- แบบ C ลำบากตรงที่อยู่สูง รอลิฟต์นาน แถมหน้าร้อน แดดร้อนมาก น้ำในสระจะร้อนมาก บ่ายๆนี่ว่ายไม่ได้เลยครับ เย็นๆค่ำๆมาว่ายก็ยังเป็นน้ำอุ่นอยู่เลย พอหน้าหนาวก็หนาวจับจิต ยิ่งลมหนาวพัดมาทีบรื๋อๆเลยครับ หน้าฝนไม่ต้องพูดถึง ฝนตกมาแรงๆก็รับเต็มๆครับ เจ็บหนังหัวเลย แล้วยิ่งถ้าฟ้าคะนอง ฟ้าผ่ารอบๆนะ ไม่กล้าว่ายครับ กลัว
สรุป : ในประเด็นนี้ ผมให้แบบ B ดีที่สุด
(ส่วนตัวเวลาว่ายสระแบบ C ตอนกลางคืน ที่ไม่มีคน รู้สึกเปลี่ยวๆ วังเวงๆ ไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้สิครับ ไม่เหมือนแบบ B มันสว่างไสว ดูอบอุ่น ไม่น่ากลัวแฮะ)
3. ความเป็นส่วนตัว
- แบบ A แย่หน่อยครับ ยิ่งติดรถไฟฟ้ายิ่งแล้วใหญ่ เพราะทั้งเปิดโล่งให้คนภายนอกเห็น แถมคนภายในชั้นบนๆก็เห็นอีก หุ่นเผละๆว่ายน้ำก็มีอายเหมือนกันนะ แต่คนที่ชอบแบบครึกครื้นสนุกสนาน แบบนี้คงถูกใจ แต่เสียงดังจากสระจะรบกวนคนพักอาศัยมากครับ
- แบบ B ดีขึ้นมานิดนึงครับ คนพักอาศัยไม่มามองเรา แล้วเสียงของเราก็ไม่รบกวนเขามาก ว่ายแบบสบายใจ แต่อยู่ชั้นล่างๆ ถ้าไม่พ้นแนวสายตาตึกอื่นรอบๆก็ถือว่ายังไม่ส่วนตัวมากนัก
แต่ทั้ง A และ B อย่าลืมว่าจะได้ยินเสียงรถรา เสียงรถไฟฟ้า เสียงนู่นนี่นั่นเยอะกว่าแบบ C นะครับ
- แบบ C นี่ดีครับ อยู่ชั้นบนสุด สบายใจ ไพรเวทสุดๆ แต่สำหรับผมมันดูวิเวกวังเวงยังไงบอกไม่ถูก บางทีก็รู้สึกไพรเวทเกิน ขึ้นมาปุ๊บ แอะ ไม่มีคนเลย ขึ้นจากสระที ทั้งๆที่หน้าร้อน แต่พอลมพัดมาปะทะนะ ยังรู้สึกหวิวๆ แม้ว่าตอนนั้นมีคนใช้บริการเยอะมันก็รู้สึกหวิวอยู่ดี เอหรือผมจะเป็นโรคกลัวความสูงรึเปล่าไม่รู้นะ เสียงโทรศัพท์ก็ไม่มี คนคุยโทรศัพท์ก็ไม่มี สงสัยเพราะสัญญาณมือถือจะน้อยบนชั้นบนสุด รวมๆเลยทำเอาวังเวง หวิววาบ บอกไม่ถูก
สรุป : ด้านความเป็นส่วนตัว ผมให้แบบ C (แต่ชอบแบบ B มากกว่า)
4. บรรยากาศ ความสนุก ความฟิน ขณะว่ายน้ำ
- แบบ A ก็ได้บรรยากาศแบบ ขยักขย่อนครับ แต่ถ้าวิวสวยก็โอเค
- แบบ B นี่ Poor เลยครับ ขาดความสวยงามของวิวไปเยอะ อุดอู้ อึดอัด เสียงดัง เวลาคนว่ายเยอะๆจะเสียงก้อง ดังมาก แต่ถ้าออกแบบดีๆให้เพดานสูงมากๆ ก็จะดูโปร่งโล่งขึ้นมาได้ ลดปัญหาเสียงดังได้บ้าง แถมรับลมภายนอกได้เต็มๆเหมือนกัน
- แบบ C ดูจะฟินที่สุด เกาะขอบสระ ดูเส้นขอบฟ้า ดูพระอาทิตย์ตก เงยหน้าเจอทะเลดาว โรแมนติกมากๆ ยิ่งวันเฉลิมฯจุดพลุกันนะ สวยสุดๆ ปุปะๆ สว่างไสวเป็นดอกเห็ดรอบตัวเราเลย แต่บางคนกลับเสียวนะครับ บางคนไม่ชอบความสูง บางครั้งแอบคิด ถ้ากระจก temper มันแตก น้ำมันจะพาเราไหลออกจากสระจนตกตึกไปเลยรึเปล่านะ อันนี้ก็แล้วแต่คนครับ
แต่ประเด็นที่ 4 นี้ มันก็อยู่ที่การออกแบบ ก่อสร้างด้วย ทัศนียภาพ ภูมิสถาปัตย์บางส่วนช่วยได้จากการสร้างขึ้นมา บางคอนโด มีสระชั้นบนสุด แต่ว่ายแล้วรู้สึกแย่กว่าสระแบบล่างๆก็มีนะครับ
5. การดูแลรักษา ค่า Maintenace
- แบบ A ค่าก่อสร้าง ค่าดูแลรักษา น่าจะระดับกลางๆ ระหว่าง B กับ C
- แบบ B น่าจะถูกสุด ระบบต่างๆน่าจะดูแลง่าย เพราะอยู่ในร่ม และชั้นล่างกว่า ค่าส่วนกลางน่าจะไม่ต้องหมดไปกับการดูแลสระมากนัก
- แบบ C น่าจะแพงสุด เพราะสระอยู่ชั้นบนสุด ค่าก่อสร้างก็แพง ดูแลรักษาก็แพง ค่าส่วนกลางเลยอาจจะสูงหน่อย
ประเด็นนี้ผมยังไม่ค่อยแน่ใจว่าถ้าเราเปรียบเทียบ B กับ C สระแบบ B นั้นเขายอมลงทุนเอาทั้งชั้นที่ควรจะเป็นที่พักมาเป็นสระหรือส่วนกลาง เช่น ทั้งชั้นถ้านำไปสร้างห้องพักได้ 20 ห้อง ห้องละ 2.5 ล้าน รวม 50 ล้าน + ค่าก่อสร้างอีก 30 ล้าน = 80 ล้าน สมมตินะครับ
เทียบกับเอาไปสร้างข้างบนสุด อันไหนมันจะแพงกว่ากัน เคยมีคนบอกว่า สระชั้นบนสุดจะสร้างแพงกว่าสระชั้นล่างๆ เท่าตัวนึงเลยทีเดียว จริงรึเปล่าครับ
สรุป : ประเด็นเรื่องค่าดูแลรักษา แบบ B น่าจะถูกที่สุด แต่ค่าก่อสร้างก็น่าจะลงทุนต่ำสุดด้วย
สุดท้าย ถ้าให้ผมเลือกสระที่อยากว่ายที่สุด ผมเลือกสระแบบ C infinity edge pool
แต่ถ้าให้เลือกสระที่คอนโดผมควรจะมี ผมขอสระ B นะ ขอเอาเน้นสะดวกเป็นหลักไว้ก่อนครับ
ท่านอื่นคิดเห็นเป็นยังไงบ้างครับ
ชอบแบบไหนครับ ระหว่างสระว่ายน้ำชั้นบนสุด กับสระว่ายน้ำในร่ม
แต่ก็ยังคงมีคอนโดใหม่ๆอีกหลายตึกเช่นกัน ที่ยังคงออกแบบให้มีสระอยู่ในร่ม
โดยส่วนตัวชอบว่ายน้ำ แต่ขอเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ของสระ 3 แบบครับ
A. คือสระกลางแจ้งแต่อยู่ชั้นล่างๆ มีตึกรอบสระ เปิดโล่ง แต่ไม่ใช่ชั้นดาดฟ้า ยกตัวอย่างเช่น Parkland งามวงศ์วาน-แคราย
B. คือสระในร่มทั้งหมด เช่น อยู่ชั้น 5 ทั้งชั้น ยกตัวอย่าง เช่น สระของ Bangkok Horizon รามคำแหง
C. คือสระชั้นบนสุด แบบ Infinite Edge pool อย่าง The tree บางโพ หรือ Urbano Absolute
ผมตั้งข้อสังเกตอย่างนี้ครับ
1. ด้านความสะอาด หมายถึง สิ่งแวดล้อมที่จะทำให้สระสกปรก
- สระแบบ A เวลาชั้นบนๆสูบบุหรี่ กวาดขยะ ขากน้ำลาย แล้วมีสระว่ายอยู่ข้างล่าง สกปรกแน่ๆครับ ยิ่งจำนวนยูนิตเหนือหัวขึ้นไปเยอะยิ่งเสี่ยงเยอะ มันรู้สึกว่ายแล้วไม่สะบายใจครับเวลาเงยหน้าแล้วเห็นคนกำลังตากผ้า กวาดหลังห้องอยู่ แถมยังต้องระวังเรื่องขี้นก ฝุ่น น้ำฝนที่ชะความสกปรกลงสระด้วย
- ส่วนแบบ B คงต้องระวังพวกขี้จิ้งจก แมลงที่มาตอมไฟ แล้วร่วงลงน้ำ แต่ผมว่าค่อนข้างน้อยและไม่แตกต่างจากอีก2แบบเท่าไร
- ส่วนสระแบบ C คือ Infinity edge pool ชั้นบนสุดนี่ ถ้ามีก็คงเป็นขี้นกครับ ฝุ่นครับ มันร่วงลงสระตอนไหนเราก็ไม่รู้ รวมถึงน้ำฝนสกปรกๆที่ชะเอาความสกปรกมาด้วย สะสมอยู่ในสระตลอดทั้งอาทิตย์ แต่อันนี้ก็แค่หน้าฝนครับ นกโอกาสที่จะเผอิ๊ญบินมาแล้วขี้ร่วงลงสระก็ถือว่าน้อยมาก
แถมสระแบบนี้ยังมีข้อดีที่ได้แสงแดด ฆ่าเชื้อโรคเพิ่มไปอีกอย่างด้วย
สรุป : ในประเด็นเรื่องความสะอาดของสระ ผมว่าแบบ C ดีที่สุด
2. ความสะดวกสบาย ในการใช้บริการ
- แบบ A สะดวกดีครับ เนื่องจากอยู่ชั้นล่าง ใช้บริการง่าย ไม่ต้องรอลิฟต์นาน ยิ่งถ้าวันไหนลิฟต์ขัดข้องก็ยังพอเดินลงบันไดไปใช้ได้บ้าง แต่เสียตรงที่บางช่วงเวลาของวัน สระจะร้อนแดด ว่ายน้ำไม่ได้ (โดยเฉพาะสระที่รับแดดบ่าย) และหน้าฝนว่ายน้ำไม่สนุก เพราะว่ายไปฝนตกไป
- แบบ B ก็สะดวกไม่ต่างจาก A แต่ดีกว่าตรงที่สระจะร่มทั้งวัน ว่ายได้ทั้งวัน ไม่ว่าอากาศข้างนอกจะร้อน จะฝนตก ก็ว่ายได้ แถมอุณหภูมิน้ำคงที่เกือบตลอดวันว่ายช่วงไหนก็ได้ สระแบบนี้ใช้ได้จริงทุกฤดูกาลครับ
- แบบ C ลำบากตรงที่อยู่สูง รอลิฟต์นาน แถมหน้าร้อน แดดร้อนมาก น้ำในสระจะร้อนมาก บ่ายๆนี่ว่ายไม่ได้เลยครับ เย็นๆค่ำๆมาว่ายก็ยังเป็นน้ำอุ่นอยู่เลย พอหน้าหนาวก็หนาวจับจิต ยิ่งลมหนาวพัดมาทีบรื๋อๆเลยครับ หน้าฝนไม่ต้องพูดถึง ฝนตกมาแรงๆก็รับเต็มๆครับ เจ็บหนังหัวเลย แล้วยิ่งถ้าฟ้าคะนอง ฟ้าผ่ารอบๆนะ ไม่กล้าว่ายครับ กลัว
สรุป : ในประเด็นนี้ ผมให้แบบ B ดีที่สุด
(ส่วนตัวเวลาว่ายสระแบบ C ตอนกลางคืน ที่ไม่มีคน รู้สึกเปลี่ยวๆ วังเวงๆ ไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้สิครับ ไม่เหมือนแบบ B มันสว่างไสว ดูอบอุ่น ไม่น่ากลัวแฮะ)
3. ความเป็นส่วนตัว
- แบบ A แย่หน่อยครับ ยิ่งติดรถไฟฟ้ายิ่งแล้วใหญ่ เพราะทั้งเปิดโล่งให้คนภายนอกเห็น แถมคนภายในชั้นบนๆก็เห็นอีก หุ่นเผละๆว่ายน้ำก็มีอายเหมือนกันนะ แต่คนที่ชอบแบบครึกครื้นสนุกสนาน แบบนี้คงถูกใจ แต่เสียงดังจากสระจะรบกวนคนพักอาศัยมากครับ
- แบบ B ดีขึ้นมานิดนึงครับ คนพักอาศัยไม่มามองเรา แล้วเสียงของเราก็ไม่รบกวนเขามาก ว่ายแบบสบายใจ แต่อยู่ชั้นล่างๆ ถ้าไม่พ้นแนวสายตาตึกอื่นรอบๆก็ถือว่ายังไม่ส่วนตัวมากนัก
แต่ทั้ง A และ B อย่าลืมว่าจะได้ยินเสียงรถรา เสียงรถไฟฟ้า เสียงนู่นนี่นั่นเยอะกว่าแบบ C นะครับ
- แบบ C นี่ดีครับ อยู่ชั้นบนสุด สบายใจ ไพรเวทสุดๆ แต่สำหรับผมมันดูวิเวกวังเวงยังไงบอกไม่ถูก บางทีก็รู้สึกไพรเวทเกิน ขึ้นมาปุ๊บ แอะ ไม่มีคนเลย ขึ้นจากสระที ทั้งๆที่หน้าร้อน แต่พอลมพัดมาปะทะนะ ยังรู้สึกหวิวๆ แม้ว่าตอนนั้นมีคนใช้บริการเยอะมันก็รู้สึกหวิวอยู่ดี เอหรือผมจะเป็นโรคกลัวความสูงรึเปล่าไม่รู้นะ เสียงโทรศัพท์ก็ไม่มี คนคุยโทรศัพท์ก็ไม่มี สงสัยเพราะสัญญาณมือถือจะน้อยบนชั้นบนสุด รวมๆเลยทำเอาวังเวง หวิววาบ บอกไม่ถูก
สรุป : ด้านความเป็นส่วนตัว ผมให้แบบ C (แต่ชอบแบบ B มากกว่า)
4. บรรยากาศ ความสนุก ความฟิน ขณะว่ายน้ำ
- แบบ A ก็ได้บรรยากาศแบบ ขยักขย่อนครับ แต่ถ้าวิวสวยก็โอเค
- แบบ B นี่ Poor เลยครับ ขาดความสวยงามของวิวไปเยอะ อุดอู้ อึดอัด เสียงดัง เวลาคนว่ายเยอะๆจะเสียงก้อง ดังมาก แต่ถ้าออกแบบดีๆให้เพดานสูงมากๆ ก็จะดูโปร่งโล่งขึ้นมาได้ ลดปัญหาเสียงดังได้บ้าง แถมรับลมภายนอกได้เต็มๆเหมือนกัน
- แบบ C ดูจะฟินที่สุด เกาะขอบสระ ดูเส้นขอบฟ้า ดูพระอาทิตย์ตก เงยหน้าเจอทะเลดาว โรแมนติกมากๆ ยิ่งวันเฉลิมฯจุดพลุกันนะ สวยสุดๆ ปุปะๆ สว่างไสวเป็นดอกเห็ดรอบตัวเราเลย แต่บางคนกลับเสียวนะครับ บางคนไม่ชอบความสูง บางครั้งแอบคิด ถ้ากระจก temper มันแตก น้ำมันจะพาเราไหลออกจากสระจนตกตึกไปเลยรึเปล่านะ อันนี้ก็แล้วแต่คนครับ
แต่ประเด็นที่ 4 นี้ มันก็อยู่ที่การออกแบบ ก่อสร้างด้วย ทัศนียภาพ ภูมิสถาปัตย์บางส่วนช่วยได้จากการสร้างขึ้นมา บางคอนโด มีสระชั้นบนสุด แต่ว่ายแล้วรู้สึกแย่กว่าสระแบบล่างๆก็มีนะครับ
5. การดูแลรักษา ค่า Maintenace
- แบบ A ค่าก่อสร้าง ค่าดูแลรักษา น่าจะระดับกลางๆ ระหว่าง B กับ C
- แบบ B น่าจะถูกสุด ระบบต่างๆน่าจะดูแลง่าย เพราะอยู่ในร่ม และชั้นล่างกว่า ค่าส่วนกลางน่าจะไม่ต้องหมดไปกับการดูแลสระมากนัก
- แบบ C น่าจะแพงสุด เพราะสระอยู่ชั้นบนสุด ค่าก่อสร้างก็แพง ดูแลรักษาก็แพง ค่าส่วนกลางเลยอาจจะสูงหน่อย
ประเด็นนี้ผมยังไม่ค่อยแน่ใจว่าถ้าเราเปรียบเทียบ B กับ C สระแบบ B นั้นเขายอมลงทุนเอาทั้งชั้นที่ควรจะเป็นที่พักมาเป็นสระหรือส่วนกลาง เช่น ทั้งชั้นถ้านำไปสร้างห้องพักได้ 20 ห้อง ห้องละ 2.5 ล้าน รวม 50 ล้าน + ค่าก่อสร้างอีก 30 ล้าน = 80 ล้าน สมมตินะครับ
เทียบกับเอาไปสร้างข้างบนสุด อันไหนมันจะแพงกว่ากัน เคยมีคนบอกว่า สระชั้นบนสุดจะสร้างแพงกว่าสระชั้นล่างๆ เท่าตัวนึงเลยทีเดียว จริงรึเปล่าครับ
สรุป : ประเด็นเรื่องค่าดูแลรักษา แบบ B น่าจะถูกที่สุด แต่ค่าก่อสร้างก็น่าจะลงทุนต่ำสุดด้วย
สุดท้าย ถ้าให้ผมเลือกสระที่อยากว่ายที่สุด ผมเลือกสระแบบ C infinity edge pool
แต่ถ้าให้เลือกสระที่คอนโดผมควรจะมี ผมขอสระ B นะ ขอเอาเน้นสะดวกเป็นหลักไว้ก่อนครับ
ท่านอื่นคิดเห็นเป็นยังไงบ้างครับ