ประหนึ่งว่าพสุธาอวสาน
เสมือนกาลเพลิงรุกยุคสมัย
เพียงเท่านี้ที่กลัวแหละหัวใจ
กลัวจะไหม้หมองหม่นกับคนลวง
ที่เสแสร้งแกล้งรักสักหนึ่งครั้ง
ฉันนี้ดั่งเคยสนิทไปติดบ่วง
จนเกิดเป็นชอกช้ำระกำทรวง
ให้มาล้วงอกสิ้นอย่างยินดี
พอแรกเริ่มเดิมทีเป็นสีรุ้ง
หอมกลิ่นฟุ้งท้องฟ้าฟ้าหลายสี
หอมกลิ่นไม้หลายหลากสีมากมี
หอมเช่นนี้หอมงามกับความรัก
แล้วกลิ่นนั้นพลันห่างจนจางหาย
ฉันเหมือนชายเช่นใดใจประจักษ์
คือหมดสิ้นความคิดเคยจิตภักดิ์
กลับเป็นปักใจเกลียดหรือเหยียดแทน
อันความรักของเราก็เท่านี้
คงต้องมีหักสะบั้นอันเจ็บแสน
คงความทุกข์รุกโรมโหมทั่วแดน
รู้สึกแม้นโดนเชือดอย่างเลือดเย็น
ค ว า ม รู้ สึ ก ข อ ง ฉั น เ มื่ อ เ ธ อ นั้ น ไ ม่ เ ห ลี ย ว แ ล
เสมือนกาลเพลิงรุกยุคสมัย
เพียงเท่านี้ที่กลัวแหละหัวใจ
กลัวจะไหม้หมองหม่นกับคนลวง
ที่เสแสร้งแกล้งรักสักหนึ่งครั้ง
ฉันนี้ดั่งเคยสนิทไปติดบ่วง
จนเกิดเป็นชอกช้ำระกำทรวง
ให้มาล้วงอกสิ้นอย่างยินดี
พอแรกเริ่มเดิมทีเป็นสีรุ้ง
หอมกลิ่นฟุ้งท้องฟ้าฟ้าหลายสี
หอมกลิ่นไม้หลายหลากสีมากมี
หอมเช่นนี้หอมงามกับความรัก
แล้วกลิ่นนั้นพลันห่างจนจางหาย
ฉันเหมือนชายเช่นใดใจประจักษ์
คือหมดสิ้นความคิดเคยจิตภักดิ์
กลับเป็นปักใจเกลียดหรือเหยียดแทน
อันความรักของเราก็เท่านี้
คงต้องมีหักสะบั้นอันเจ็บแสน
คงความทุกข์รุกโรมโหมทั่วแดน
รู้สึกแม้นโดนเชือดอย่างเลือดเย็น