ข้อตกลงเบื้องต้น
โลงศพ/ขนาดหลุมศพในกระทู้นี้เป็นขนาดมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา
จะนำมาเปรียบเทียบหรือเทียบเคียงกับของไทย/จีนไม่ได้
เพราะมีขนาด/มาตรฐานแตกต่างกันมากในแต่ละแห่ง
คนทั่วไปที่มีสุขภาพดีจะอยู่รอดได้ถึง
10 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หรือ 6 ชั่วโมงถึง 36 ชั่วโมง
ขึ้นกับว่าคุณถามใครก่อนเริ่มพิธีฝังศพ
แต่นักวิทยาศาตร์ไม่เห็นด้วยกับคำตอบนี้
เรื่องที่แน่นอนก็คือ มันต้องกินเวลาไม่นานนัก
ทุกอย่างสรุปตรงที่จำนวนปริมาตรอากาศที่มีอยู่ในโลงศพ
คุณยิ่งร่างเล็ก คุณยิ่งหายใจได้นานขึ้น
เพราะคุณใช้เนื้อที่/พื้นที่น้อยมากในโลงศพ
ทำให้มีพื้นที่เก็บกักแก๊สออกซิเจน
ก่อนที่แก๊สออกซิเจนสำรองจะถูกใช้จนหมด
ยกเว้น นักว่ายน้ำกับนักวิ่งมาราธอน
มักจะมีขนาดปอดใหญ่เป็นพิเศษมากกว่าคนทั่วไป
ในการสูดลมหายใจเข้าแล้วหายใจออกในแต่ละครั้ง
ขนาดโลงศพมาตรฐานจะยาว 84 นิ้ว (213.36 เซ็นติเมตร)
กว้าง 28 นิ้ว(71.12 ซม.)ด้านบ่า กับ 23 นิ้ว(58.42 ซม.)ด้านหัวกับด้านปลายเท้า
จะมีความจุทั้งหมด 54.096 ลูกบาศ์กนิ้ว (137.403 ลบ.ซม.)
หรือประมาณ 886 ลิตรเป็นค่าประมาณการจุอากาศในโลงศพ
ทำให้มีโอกาศหายใจได้อีกหลายนาทีให้กับชีวิตที่เหลืออยู่
ร่างกายของคนเราเฉลี่ยแล้วมีขนาดประมาณ 66 ลิตร
เข้าแทนที่อากาศจะเหลืออีก 820 ลิตร
โดย 1/5 (164 ลิตร) ของอากาศจะเป็นแก๊สออกซิเจน
คนเราหายใจต้องมี/ใช้แก๊สออกซิเจน 0.5 ลิตรต่อนาที
ดังนั้น ต้องใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง
กว่าแก๊สออกซิเจนในโลงศพจะหมด
ที่มา Fernando Gregory | Dreamstime.com
“ คนที่ถูกฝังทั้งเป็นทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
เมื่อคุณถูกฝังที่นั้น คุณก็ต้องอยู่ที่นั้น ”
(เพราะหลุมศพมีการขุดขึ้นอย่างดี
เพื่อฝังศพลึกไม่น้อยกว่า 6 ฟุตจากผิวดิน)
ศาสตราจารย์กิตติคุณ Alan R. Leff
ภาควิชาระบบทางเดินหายใจ(ปอด)และการบำบัดวิกฤติ
มหาวิทยาลัยชิคาโก ได้ให้ความเห็น
" แม้ว่าคุณจะลุกออกจากโลงศพได้
โดยไม่ต้องใช้อากาศในโลงศพแต่อย่างใด
แต่คุณจะพบว่า ตัวคุณกำลังถูกฝังทั้งเป็น
ด้วยดินถล่มหรือหิมะถล่ม
เศษดินที่หนาแน่นและหนักมากเช่นกัน
ทำให้ยากลำบากกับการคุ้ยเขี่ยดันตัวขึ้นมา
สภาพมันคล้าย ๆ กับคอนกรีต
ที่เริ่มจะแข็งตัวในเวลาเพียงไม่กี่นาที
หิมะมีน้ำหนักเบา แต่ดินมีน้ำหนักมากกว่า
แม้ว่าคุณจะเคลื่อนไหวร่างกายได้ก็ตาม
แต่ผงฝุ่นดินจะเข้าปากเข้าจมูกคุณ
จนทำให้คุณหายใจไม่ออกในที่สุด "
Ethan Greene ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลภัยพิบัติหิมะโคโลราโด้
ให้คำอธิบายเพิ่มเติม
" แต่ยังมีข้อมูลอีกด้านหนึ่งคือ
เมื่อแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เริ่มทวีตัวมากขึ้น
(จากลมหายใจเข้าออกของคนในโลงศพ)
จะทำให้คุณเริ่มง่วงนอน
แล้วจะตกอยู่ในอาการโคม่า
ก่อนที่หัวใจคุณจะหยุดเต้นแล้วตายในที่สุด
แม้ว่าคุณจะรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก
และอยู่ในสภาพหวาดกลัวอย่างแน่นอน
แต่อย่างน้อยที่สุดแล้ว
คุณจะไม่รู้สึกตัวเลยในช่วงวาระสุดท้าย "
Alan R. Leff กล่าวสรุป
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/fqhjuv
ทุกชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง
พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ (ตัดต่อมาท่อนสั้น ๆ 6.34 นาที)
แนะนำชาวพุทธเผาศพแล้วให้นำเถ้าอังคารไปลอยทะเลแทนการบรรจุไว้ตามวัด
เพื่อความสะดวกและไม่เป็นภาระภายหลังของคนข้างหลัง
นานเท่าไรที่ยังมีลมหายใจหากถูกฝังทั้งเป็น
โลงศพ/ขนาดหลุมศพในกระทู้นี้เป็นขนาดมาตรฐานของสหรัฐอเมริกา
จะนำมาเปรียบเทียบหรือเทียบเคียงกับของไทย/จีนไม่ได้
เพราะมีขนาด/มาตรฐานแตกต่างกันมากในแต่ละแห่ง
คนทั่วไปที่มีสุขภาพดีจะอยู่รอดได้ถึง
10 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หรือ 6 ชั่วโมงถึง 36 ชั่วโมง
ขึ้นกับว่าคุณถามใครก่อนเริ่มพิธีฝังศพ
แต่นักวิทยาศาตร์ไม่เห็นด้วยกับคำตอบนี้
เรื่องที่แน่นอนก็คือ มันต้องกินเวลาไม่นานนัก
ทุกอย่างสรุปตรงที่จำนวนปริมาตรอากาศที่มีอยู่ในโลงศพ
คุณยิ่งร่างเล็ก คุณยิ่งหายใจได้นานขึ้น
เพราะคุณใช้เนื้อที่/พื้นที่น้อยมากในโลงศพ
ทำให้มีพื้นที่เก็บกักแก๊สออกซิเจน
ก่อนที่แก๊สออกซิเจนสำรองจะถูกใช้จนหมด
ยกเว้น นักว่ายน้ำกับนักวิ่งมาราธอน
มักจะมีขนาดปอดใหญ่เป็นพิเศษมากกว่าคนทั่วไป
ในการสูดลมหายใจเข้าแล้วหายใจออกในแต่ละครั้ง
ขนาดโลงศพมาตรฐานจะยาว 84 นิ้ว (213.36 เซ็นติเมตร)
กว้าง 28 นิ้ว(71.12 ซม.)ด้านบ่า กับ 23 นิ้ว(58.42 ซม.)ด้านหัวกับด้านปลายเท้า
จะมีความจุทั้งหมด 54.096 ลูกบาศ์กนิ้ว (137.403 ลบ.ซม.)
หรือประมาณ 886 ลิตรเป็นค่าประมาณการจุอากาศในโลงศพ
ทำให้มีโอกาศหายใจได้อีกหลายนาทีให้กับชีวิตที่เหลืออยู่
ร่างกายของคนเราเฉลี่ยแล้วมีขนาดประมาณ 66 ลิตร
เข้าแทนที่อากาศจะเหลืออีก 820 ลิตร
โดย 1/5 (164 ลิตร) ของอากาศจะเป็นแก๊สออกซิเจน
คนเราหายใจต้องมี/ใช้แก๊สออกซิเจน 0.5 ลิตรต่อนาที
ดังนั้น ต้องใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงครึ่ง
กว่าแก๊สออกซิเจนในโลงศพจะหมด
ที่มา Fernando Gregory | Dreamstime.com
“ คนที่ถูกฝังทั้งเป็นทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
เมื่อคุณถูกฝังที่นั้น คุณก็ต้องอยู่ที่นั้น ”
(เพราะหลุมศพมีการขุดขึ้นอย่างดี
เพื่อฝังศพลึกไม่น้อยกว่า 6 ฟุตจากผิวดิน)
ศาสตราจารย์กิตติคุณ Alan R. Leff
ภาควิชาระบบทางเดินหายใจ(ปอด)และการบำบัดวิกฤติ
มหาวิทยาลัยชิคาโก ได้ให้ความเห็น
" แม้ว่าคุณจะลุกออกจากโลงศพได้
โดยไม่ต้องใช้อากาศในโลงศพแต่อย่างใด
แต่คุณจะพบว่า ตัวคุณกำลังถูกฝังทั้งเป็น
ด้วยดินถล่มหรือหิมะถล่ม
เศษดินที่หนาแน่นและหนักมากเช่นกัน
ทำให้ยากลำบากกับการคุ้ยเขี่ยดันตัวขึ้นมา
สภาพมันคล้าย ๆ กับคอนกรีต
ที่เริ่มจะแข็งตัวในเวลาเพียงไม่กี่นาที
หิมะมีน้ำหนักเบา แต่ดินมีน้ำหนักมากกว่า
แม้ว่าคุณจะเคลื่อนไหวร่างกายได้ก็ตาม
แต่ผงฝุ่นดินจะเข้าปากเข้าจมูกคุณ
จนทำให้คุณหายใจไม่ออกในที่สุด "
Ethan Greene ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลภัยพิบัติหิมะโคโลราโด้
ให้คำอธิบายเพิ่มเติม
" แต่ยังมีข้อมูลอีกด้านหนึ่งคือ
เมื่อแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เริ่มทวีตัวมากขึ้น
(จากลมหายใจเข้าออกของคนในโลงศพ)
จะทำให้คุณเริ่มง่วงนอน
แล้วจะตกอยู่ในอาการโคม่า
ก่อนที่หัวใจคุณจะหยุดเต้นแล้วตายในที่สุด
แม้ว่าคุณจะรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก
และอยู่ในสภาพหวาดกลัวอย่างแน่นอน
แต่อย่างน้อยที่สุดแล้ว
คุณจะไม่รู้สึกตัวเลยในช่วงวาระสุดท้าย "
Alan R. Leff กล่าวสรุป
เรียบเรียง/ที่มา http://goo.gl/fqhjuv
ทุกชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง
พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปัญญานันทะภิกขุ (ตัดต่อมาท่อนสั้น ๆ 6.34 นาที)
แนะนำชาวพุทธเผาศพแล้วให้นำเถ้าอังคารไปลอยทะเลแทนการบรรจุไว้ตามวัด
เพื่อความสะดวกและไม่เป็นภาระภายหลังของคนข้างหลัง