http://www.youtube.com/watch?v=x0YAQ7YTt6Y
ในวันที่เรื่องของเราได้เลือกให้เป็นซีรีส์ จะให้เรารู้สึกยังไงดีละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตั้งใจว่าถ้าซีรีส์จบจะเอาอีเมลล์ที่เราส่งไปให้อ่านกันนะ
เริ่มจากกวางเขียนอีเมลไปรายการดังกล่าวบอกเล่าเรื่องของชีวิตตัวเองเนี้ยเเหละ เรื่องจริง ชีวิตจริง ไม่มีการเเต่งเติมเพิ่มอะไรเลย
หลังจากส่งไปไม่นานพิธีกรรายการดังกล่าวโทรมาคุยนู่นนี่นั้น ถามความเป็นอยู่คือตอนนั้นเรารู้สึกโอเคมากนะ
ผ่านไปน่าจะซักเดือนถ้าเราจำไม่ผิด วันนั้นเราไปนั่งขายเสื้อผ้าอยู่ตลาด พิธีกรคนเดิมโทรมาใหม่บอกว่าสนใจจะเอาเรื่องของเราไปทำซีรีส์ คุยเรื่องว่าจะต้องเปลี่ยนชื่อตัวละครมั้ย เราก็โอเคอยากให้เปลี่ยนคือบางทีเราก็มีอารมไม่อยากเปิดเผยตัว
ผ่านไปนานหลายเดือนจนเราลืมเรื่องนี้ไปเลย อยู่ๆรายการศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ก็โทรมาถามว่าเขียนเรื่องไปClub Fridayหรอ พอดีรายการClub Fridayเค้าอยากดูคลิปขอเเต่งงานอีกครั้ง
หลังจากนั้นเราเลยตัดสินใจส่งข้อความไปถามในเพจของพิธีกรคนดังกล่าวว่าเรื่องซีรีย์ของเราดำเนินการไปถึงใหนแล้ว พิธีกรคนดังกล่าวตอบกลับมาเเค่ว่าใกล้ออกอากาศเเล้วคะ รอดูนะคะ
เราเงิบมาก คือเค้าไม่เห็นคุยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องกับเราเลย
นี่เราดูไปเเค่ 2 ตอนก็รู้ว่าเนื้อเรื่องแปลกๆ คือเรื่องของเราเปล่าว่ะ ทำไม่ไม่ให้เกียรติเราบ้าง บอกเราบอกว่าจะดำเนินเรื่องประมาณใหน นัดเราคุยให้เราเล่ารายละเอียดของชีวิตเราให้ฟังก็ได้นิ ทำไมคิดจะเปลี่ยนคิดจะปรับอะไรไม่บอกเราก่อน เเล้วคือเอาคลิปขอเเต่งงานแฟนเราก๊อปซะเหมือนเป๊ะคือใครดูก็รู้ว่าเป็นเรื่องของแฟนเรา คือตอนนี้คนไปสนใจคลิปบ้านั้น ค้นข้อมูลเฟสเเฟนเรา เฟสเรา ลามไปถึงเฟสเเฟนเก่า คือเราจะเปลี่ยนชื่อทำไมใช้ชื่อจริงเลยก็ได้นะ
เค้าโครงเรื่องเป็นเรื่องของเรานะ บ้านเราก็เปิดเวดดิ้งจริงๆ แฟนเป็นคนขรึมๆจริง คือเราว่า 70 เปอร์เซ็นก็มาจากเราเนี้ยเเหละ แต่ในบทละครผู้เเต่ง ผู้เขียน นู่นนี่นั้นไม่มีพูดถึงเราซักนิด คือเหมือนชุบมือเปิด เรารู้สึกไปเองหรือเปล่า
บางคนคิดว่าเราได้ค่าตอบเเทนอะไรมั้ย ไม่มีนะ ในขณะที่ซีรีส์ขายดราม่าเเทรกโฆษณา เห็นส่งข้อความมาว่าจะส่งเสื้อมาให้เราเเค่นั้น เเต่เราไม่ได้คิดเรื่องผลตอบเเทนนะเพราะตั้งใจอยากให้เรื่องของเราให้ข้อคิดคนอื่นบ้างเเค่นั้น เเต่เราก็อยากให้รายการให้เกิยรติทุกคนที่เขียนเรื่องไปบ้าง ไม่ใช้เค้าเล่าให้ฟังหลังจากนั้นคุณจะเอาเรื่องของเค้าไปเล่าต่ออย่างไงก็ได้เราว่าไม่แฟร์เลย
.
.
.
เราคิดมากไปเองมั้ย
ในวันที่เรื่องของฉันกลายเป็นซีรีส์ Club Friday The Series 5 ความรักกับความลับ ตอนแรก ความลับของคลิปขอแต่งงาน
http://www.youtube.com/watch?v=x0YAQ7YTt6Y
ในวันที่เรื่องของเราได้เลือกให้เป็นซีรีส์ จะให้เรารู้สึกยังไงดีละ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เริ่มจากกวางเขียนอีเมลไปรายการดังกล่าวบอกเล่าเรื่องของชีวิตตัวเองเนี้ยเเหละ เรื่องจริง ชีวิตจริง ไม่มีการเเต่งเติมเพิ่มอะไรเลย
หลังจากส่งไปไม่นานพิธีกรรายการดังกล่าวโทรมาคุยนู่นนี่นั้น ถามความเป็นอยู่คือตอนนั้นเรารู้สึกโอเคมากนะ
ผ่านไปน่าจะซักเดือนถ้าเราจำไม่ผิด วันนั้นเราไปนั่งขายเสื้อผ้าอยู่ตลาด พิธีกรคนเดิมโทรมาใหม่บอกว่าสนใจจะเอาเรื่องของเราไปทำซีรีส์ คุยเรื่องว่าจะต้องเปลี่ยนชื่อตัวละครมั้ย เราก็โอเคอยากให้เปลี่ยนคือบางทีเราก็มีอารมไม่อยากเปิดเผยตัว
ผ่านไปนานหลายเดือนจนเราลืมเรื่องนี้ไปเลย อยู่ๆรายการศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ก็โทรมาถามว่าเขียนเรื่องไปClub Fridayหรอ พอดีรายการClub Fridayเค้าอยากดูคลิปขอเเต่งงานอีกครั้ง
หลังจากนั้นเราเลยตัดสินใจส่งข้อความไปถามในเพจของพิธีกรคนดังกล่าวว่าเรื่องซีรีย์ของเราดำเนินการไปถึงใหนแล้ว พิธีกรคนดังกล่าวตอบกลับมาเเค่ว่าใกล้ออกอากาศเเล้วคะ รอดูนะคะ
เราเงิบมาก คือเค้าไม่เห็นคุยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องกับเราเลย
นี่เราดูไปเเค่ 2 ตอนก็รู้ว่าเนื้อเรื่องแปลกๆ คือเรื่องของเราเปล่าว่ะ ทำไม่ไม่ให้เกียรติเราบ้าง บอกเราบอกว่าจะดำเนินเรื่องประมาณใหน นัดเราคุยให้เราเล่ารายละเอียดของชีวิตเราให้ฟังก็ได้นิ ทำไมคิดจะเปลี่ยนคิดจะปรับอะไรไม่บอกเราก่อน เเล้วคือเอาคลิปขอเเต่งงานแฟนเราก๊อปซะเหมือนเป๊ะคือใครดูก็รู้ว่าเป็นเรื่องของแฟนเรา คือตอนนี้คนไปสนใจคลิปบ้านั้น ค้นข้อมูลเฟสเเฟนเรา เฟสเรา ลามไปถึงเฟสเเฟนเก่า คือเราจะเปลี่ยนชื่อทำไมใช้ชื่อจริงเลยก็ได้นะ
เค้าโครงเรื่องเป็นเรื่องของเรานะ บ้านเราก็เปิดเวดดิ้งจริงๆ แฟนเป็นคนขรึมๆจริง คือเราว่า 70 เปอร์เซ็นก็มาจากเราเนี้ยเเหละ แต่ในบทละครผู้เเต่ง ผู้เขียน นู่นนี่นั้นไม่มีพูดถึงเราซักนิด คือเหมือนชุบมือเปิด เรารู้สึกไปเองหรือเปล่า
บางคนคิดว่าเราได้ค่าตอบเเทนอะไรมั้ย ไม่มีนะ ในขณะที่ซีรีส์ขายดราม่าเเทรกโฆษณา เห็นส่งข้อความมาว่าจะส่งเสื้อมาให้เราเเค่นั้น เเต่เราไม่ได้คิดเรื่องผลตอบเเทนนะเพราะตั้งใจอยากให้เรื่องของเราให้ข้อคิดคนอื่นบ้างเเค่นั้น เเต่เราก็อยากให้รายการให้เกิยรติทุกคนที่เขียนเรื่องไปบ้าง ไม่ใช้เค้าเล่าให้ฟังหลังจากนั้นคุณจะเอาเรื่องของเค้าไปเล่าต่ออย่างไงก็ได้เราว่าไม่แฟร์เลย
.
.
.
เราคิดมากไปเองมั้ย