คดีจราจร รถชน เส้นทางชนบท(ทางไปไร่ไปนา)

เหตุเกิดวันที่ 12 สิงหาคม 2554 เวลาประมาณ 9:00 น. บริเวณเส้นทางชนบท(ทางไปไร่ไปนา) เป็นทางลูกรัง แม่ของผมซึ่งขับมอไซค์ไปไร่เป็นประจำทุกวันซึ่ง ณ ตอนนั้นกำลังจะกลับบ้าน มาถึงจุดทางโค้ง ตามรูป เส้นทางที่แม่ขับมาเป็นสีเหลือง(ความเร็วที่แม่บอกประมาณ 20 กม./ชม.) อีกฝั่งเป็นรถตู้ของบริษัทซับคอนแทรคของบริษัทน้ำมัน กำลังวิ่งสวนทางมาในเส้นทางสีฟ้า ตามรูป แม่ของผมบอกว่าขับมาก่อนถึงช่วงเฉี่ยวชน(วงเป็นสีแดงไว้) ก็เห็นรถตู้ขับมาเร็ว (คนขับรถตู้ให้การว่าประมาณ 40 กม./ชม.) ตอนแรกแม่คิดว่า แม่ขับพ้นรถตู้ไปได้แน่ขับชิดซ้ายและมองขอบทาง ส่วนหน้าของรถตู้ก็ผ่านไป แต่รถตู้เบรค แม่ได้ยินเสียงเบรกไม่ทันไร(ในรูปจะเห็นรอยเบรกระยะประมาณเกือบ 10เมตร) ท้ายล้อด้านขวาของรถตู้ ก็มาถึงรถมอไซค์ และตัวแม่แล้ว ตัวแม่และรถกระเด็นไปในทิศทางลูกศรสีเหลืองลงไปในป่าอ้อย ส่วนหัวรถตู้ก็หักลงไปในป่าข้างทาง คนขับก็ไม่ได้หนีไปไหน โทรติดต่อเมีย แล้วเมียก็ติดต่อรถกู้ภัยของ อบต.ให้มาช่วย

[img]http://www.uppic.org/image-7500_5439560D.jpg[/img]
[img]http://www.uppic.org/image-E0B4_5439560D.jpg[/img]
[img]http://www.uppic.org/image-B914_5439560D.jpg[/img]

มีญาติโทรมาบอกผมจึงรีบไปที่เกิดเหตุ ไปถึงก็รีบนำแม่ส่งโรงบาลโดยรถกู้ภัยของ อบต. เมื่อถึงโรงบาลได้ผมก็บอกโรงบาลส่งตัวแม่ไปโรงบาลเอกชนทันที(แม่ ข้อเท้าขาขวาหัก) และบริษัทเจ้าของรถตู้ก็ช่วยออกค่าเดินทางค่ารักษาพยาบาลที่เข้ารักษาตัวในตอนแรกให้ แล้วผมก็ปรึกษาเพื่อนที่ทำเกี่ยวกับประกันรถ ว่าให้ไปแจ้งความไว้ก่อน เพื่อนำบันทึกประจำวันใช้เบิก พรบ.คุ้มครองผุ้ขับขี่(มอไซค์ได้ 15000)

เมื่อผมไปแจ้งความ คนขับก็ไม่ได้หนีไปไหนตามมาดูแม่ ตามผมมาที่ สน.เช่นกัน ตำรวจจึงเรียกไปดูที่เกิดเหตุ พร้อมคนขับรถตู้ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วกลับมาที่สน. ตำรวจจึงให้รถตู้เรียกประกันมา(ประกันชั้น 1) พร้อมทั้งคุยไกล่เกลี่ย ประมาณว่าถ้าประกันของรถตู้ยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ ทางผมโอเค ก็จะไม่เป็นคดีต้องไปขึ้นศาลกัน แต่ปรากฏว่า ประกันไม่ยอมจ่าย ประกันบอกว่าต้องรอผลของคดี ทางตำรวจจึงบอกไว้ว่าเป็นประมาทร่วม แต่ตำรวจก็อธิบายว่าคดีของจราจรส่วนใหญ่ถ้ามีคู่กรณีเนี่ยก็จะเป็นประมาทร่วมแต่ใครประมาทมากน้อยนั้นตำรวจตัดสินไม่ได้คือต้องเป็นทางศาล นั่นก็คือยังไม่รู้ผลของคดี และทางแม่ผมโดนข้อหาขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ส่วนคนขับรถตู้โดนข้อหา ขับรถประมาท ทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและได้รับบาดเจ็บ แล้วลงบันทึกประจำวันไว้และเรียกสอบสวน ทำสำนวนในภายหลัง (เพื่อนผมที่ทำประกันเล่าให้ฟังว่า ถ้าคนขับมันรับผิดประกันก็จ่ายไปแล้ว แต่คนขับไม่ยอมรับผิดด้วย)

ทางแม่ผมรักษาตัวเข้ารับการผ่าตัดและนอนพักโรงบาลรวมเป็นเวลา5วัน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ต้องสำรองจ่ายเองไปก่อน(เนื่องจากประกันของรถตู้ยังไม่จ่ายเพราะต้องรอผลของคดี ที่เข้าใจคือให้ศาลตัดสินว่าประกันต้องจ่ายให้แม่ประมาณนี้) รวมค่าใช้จ่ายราวๆ แสนกว่าๆ(หักจาก พรบ. ได้15000บาท) และยังนัดไปทำแผลเรื่อยๆเป็นระยะๆ ทางตำรวจก็ให้แม่ไปสอบปากคำ ทำสำนวนคดี เพื่อส่งฟ้องศาล และทางบริษัทของรถตู้ก็มาเยี่ยมแม่ สองครั้ง ครั้งแรกนำเงินมาช่วยเหลือ สองหมื่นบาท ครั้งที่สองนำกระเช้าแบรนด์มาให้

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2557 ตำรวจได้เรียกแม่เป็นเซ็นรับทราบนัดเรื่องส่งอัยการ(ในวันนั้นตำรวจก็เรียกคนขับรถตู้ไปเซนเช่นกันก่อนหน้า) ตำรวจได้บอกด้วยวาจาว่าวันพุธ ที่ใกล้จะถึงนี้ นั่นคือวันพุธที่ 8 ตุลา 2557 เมื่อเซนเสร็จกลับมาถึงบ้านก็ดูใบนัดอีกที่ปรากฏว่าเป็นวันที่ 15ตุลา 2557 จึงโทรไปถาม ตำรวจ เค้าก็ยืนยันว่าวันพุธนี้ ที่ 8 ตุลา 2557

เมื่อถึงวันที่ 8 ตุลา ก็พาแม่ไปที่อัยการ จังหวัด ตำรวจก็มา แต่คนขับรถตู้ ไม่มา ตำรวจก็โทรตามแต่คนขับรถตู้อ้างว่าใบนัดเป็นวันที่ 15 ตุลา 2557 ตำรวจก็ไปปรึกษาอัยการ ขอแยกสำนวน และบอกกับคนขับรถตู้ว่าถ้าไม่มา จะออกหมายจับ คนขับรถตู้บอกกับตำรวจว่าจะจ้างทนายฟ้องตำรวจ(น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับวันนัด กับในใบนัดไม่ตรงกันนี่แหละ) แล้วตำรวจนัดแม่อีกที วันที่ 9 ตุลา 2557 ตำรวจจะแยกสำนวนส่งอัยการ ให้แม่เซนรับทราบส่งสำนวนคดีและรออัยการนัดหมายมารับฟัง คำสั่งอัยการอีกทีวันที่ 14 ตุลาคม2557  และคนขับรถตู้ก็ไม่มา ตำรวจบอกจะออกหมายจับ

วันที่ 14 ตุลา ก็พาแม่มาตามที่อัยการนัดหมาย คู่กรณีคนขับรถตุ้ก็ไปเช่นกัน(ในใจคิดว่าเค้าคงเซนส่งสำเนาหลังจากวันนั้นแล้ว) แล้วอัยการก็พาแม่ไปส่งเรื่องที่ศาล แม่ก็ยอมรับข้อหาและคู่กรณีคนขับรถตู้ก็เช่นกัน ศาลถามทั้งคู่ว่าจะเอาทนายมั้ย แม่กับคนขับรถตู้บอกกับศาลว่าจะไม่เอาทนาย(จุดนี้ทำถูกรึป่าว รึเราต้องจ้างทนายมั้ย) แล้วผมก็ทำเรื่องประกันตัวแม่ด้วยหลักทรัพย์ หนื่งหมื่นบาท ข้อหาขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ส่วนคนขับรถตู้ ก็ได้ประกันรถยนต์ ประกันตัว ด้วยหลักทรัพย์เช่นกัน(ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ แต่เห็นว่าของรถตู้ น่าจะ แสนสอง) แล้วศาลก็นัดมาอีกทีวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557

วันที่ 10 พฤศจิการยน 2557 ทางประกันได้โทรมาข้อใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลตัวจริง เพื่อไปใช้เบิกช่วยเหลือค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลแต่บอกว่า อาจจะได้ไม่เต็มจำนวน ทางแม่จึงบอก ขอไว้ก่อน ให้ศาลตัดสิน วันที่ 25 พฤศจิกายน นี้ก่อน(อันนี้ทางประกัน เค้าต้องการอะไร)

ณ ตอนนี้เรื่องราวมาถึงตอนนี้แล้วอยากขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆว่า ผมทำผิดขั้นตอน ในตอนไหนบ้างตอนไหนควรทำอย่างไร แล้วสิ่งที่เราเรียกร้องจากประกันจะได้คืนหรือเปล่า(แม่ผมเจ็บตัว แล้วยังเสียเงินค่ารักษาอีก ผมก็หวังความถูกต้องจากศาลแหละนะ) ได้คืนในขั้นตอนไหน บอกตามตรงผมสับสนมากไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ทำอะไรไม่ถูกเลย แล้วผมควรทำอย่างไร ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณมากๆครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่