จำได้ว่าประมาณปี 2537 ผมได้เจอกับหนังที่เพี้ยนที่สุดเท่าที่เคยดูมา และประเด็นสำคัญคือผมดันชอบเอามากๆ ซะด้วย
หนังที่ว่าคือ
มังกรหยก หยกก๊าหว่า
หนังเล่าถึงสมัยพวกอึ้งเอี๊ยะซือยังหนุ่มๆ ครับ โดยเหตุเกิดเมื่อพิษประจิม อาวเอี้ยงฮง (
เหลียงเฉาเหว่ย) วางแผนร้ายคิดครองแคว้นธรรมจักรทอง (หรือแคว้นกิม) อีกทั้งหมายจะครองคัมภีร์นพเก้าเพื่อเป็นยอดฝีมือที่ไร้เทียมทาน ก็เลยทำให้เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายต้องรวมตัวกันขัดขวาง
...คือพล็อตที่ผมเล่านี่คือแก่นหลักของเรื่องนะครับ แต่เอาเข้าจริงหนังน่ะไม่ได้สนแก่นหลักอะไรนี่หรอก เพราะทั้งเรื่องมันเต็มไปด้วยความฮา ความเพี้ยน หรือถ้าใช้ศัพท์ปัจจุบันคือ "เกรียนโคตรๆ" เพราะเราจะได้เห็นมารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ (
เลสลี่ จาง) ตามจีบองค์หญิงคนสวย (
หลินชิงเสีย) แบบโน้ะเนะสุดๆ
เราจะได้เห็นอั้งชิดกง (
จางเซี๊ยะโหย่ว) ตบกบาลอาวเอี้ยงฮง ส่วนอาวเอี้ยงฮงก็โดยพิษจนปากบวม กลายเป็นตัวร้ายสุดซวยที่เรียกเสียงฮาตลอดเรื่อง
เราจะได้เห็นจิวแปะทง (
หลิวเจียหลิง) แอบรักศิษย์พี่เฮ่งเต้งเอี้ยง (
เคนนี่ บี) แบบสุดหัวใจ และเราจะได้เห็นท่านอ๋องต้วน (
เหลียงเจียฮุย) ปฏิบัติภารกิจสุดเพี้ยนเพื่อเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเซียน
หนังบ้าขั้นรุนแรงครับท่านทั้งหลาย มันฮาทุกเม็ดตั้งแต่เหล่าดาราที่มาแสดงบทบ้าๆ บ๊องๆ ได้แบบไม่ห่วงภาพลักษณ์ (โดยเฉพาะ
เหลียงเฉาเหว่ย) พล็อตเรื่องก็เหมือนไม่มีพล็อต กล่าวคือมันเกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้นได้ทุกวินาทีโดยไม่ต้องมีหลักการและเหตุผลครับ
แต่อยากจะบอกว่าแม้หนังจะเพี้ยนๆ มั่วๆ แต่สนุกมาก ฮามาก ยิ่งสมัยนั้นผมดูพากย์ไทยทีม CVD ที่มาเต็มทั้ง
พี่จักรกฤษณ์, พี่ปิยะ, พี่บัญชา, พี่กรณิการ์, พี่จรัสกร, พี่สุมาลี และอารอง เค้ามูลคดีก็มาแจมด้วย แต่ละคนนี่ปล่อยของกันล้นจอครับ ทั้งน้ำเสียงทั้งมุขมันสุดยอด ต่อให้ไม่ขำก็อดไม่ได้ที่จะสนุกไปด้วย
ยังไม่หมดครับ ความเพี้ยนขั้นกว่าต้องยกให้ "
เพลง" ใช่ครับ นี่คือที่ตัวละครร้องเพลงด้วย (555) จะท่านอึ้ง, ท่านอั้ง หรือท่านอ๋องต้วนต่างก็ร้องเพลงอย่างสุดฮา และที่สุดยอดยิ่งขึ้นคือเพลงก็ถูกนำมาร้องเป็นภาษาไทยด้วยนะครับ (ทำเป็นการ์ตูนดิสนี่ย์เลย)
และนักร้องที่ฝากเสียงไว้ในเรื่องนี้คือ
คุณอาจรัล มโนเพ็ชรผู้ล่วงลับครับ
... คือ... นี่เป็นหนังที่ผมไม่รู้จะสรรหาคำใดมาบรรยายน่ะครับ มันสุดยอดมากๆ แม้จะมั่วกระจุยก็เถอะ แต่มันสนุก ทำเอาขำกรามค้าง และในด้านคิวบู๊ก็ไม่กระจอกนะครับ ทำออกมาได้มันส์และฉับไวใช้ได้ทีเดียว
++++++++++++++++++++++++++++++++++
สำหรับเกร็ดของหนังเรื่องนี้ก็คือ หนังสร้างโดยหว่องคาไวครับ
เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ เหตุผลในการสร้างเรื่องนี้ก็เพราะตอนนั้นหว่องคาไวกำลังทำ
Ashes of Time (
มังกรหยก ศึกอภิ-มหายุทธ์) แต่แล้วทุนสร้างเกิดไม่พอ เขาเลยตัดสินใจพักกอง แล้วก็คิดแผนหาเงินเพิ่มโดยการทำ "
มังกรหยก หยกก๊าหว่า" ให้ออกมาเป็นหนังฮาเพื่อโกยเงิน จะได้เอาเงินมาถ่าย
Ashes of Time ต่อให้จบ
หลายท่านจะสังเกตเห็นว่าดารา 2 เรื่องนี้ชุดเดียวกัน (เพียงแต่จะรับบทคนละตัวกัน) นั่นก็เพราะหว่องคาไวขอให้ดาราใน
Ashes of Time ยกทีมมาแสดงในมังกรหยก หยกก๊าหว่านั่นเอง ส่วนเก้าอี้กำกับก็ยกให้
Jeffrey Lau ไป
ผลที่ได้ก็ไม่ผิดหวังนะครับ หนังฉายช่วงตรุษจีนปี 2537 โกยเงินไป 23 ล้านเหรียญฮ่องกง หลังจากนั้นพี่หว่องก็หอบเงินมาใช้ถ่าย
Ashes of Time จนสำเร็จลุล่วง
ผมไม่รับประกันว่าท่านจะชอบเรื่องนี้ไหมนะครับ แต่บอกได้เลยว่าผมชอบมาก ฮามาก ขำมาก (โดยเฉพาะฉบับพากย์ดั้งเดิม) คลายเครียดเกินร้อยจริงๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปล. แวะมารำลึกหนังเก่า + เล่าหนังใหม่ ที่เพจน้อยๆ ของผมได้นะครับ ^_^
https://www.facebook.com/10000tip
ปล 2. พรุ่งนี้ที่เพจจะมีกิจกรรมชวนดู The Untouchables (เจ้าพ่ออัลคาโปน) หนังเจ้าพ่อระดับตำนานในรูปแบบออนไลน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับ (แบบถูกลิขสิทธิ์ครับ) ผู้ใดสนใจแวะไปชมกันได้นะครับ
หมื่นทิพชวนรำลึก "มังกรหยก หยกก๊าหว่า The Eagle Shooting Heroes"
จำได้ว่าประมาณปี 2537 ผมได้เจอกับหนังที่เพี้ยนที่สุดเท่าที่เคยดูมา และประเด็นสำคัญคือผมดันชอบเอามากๆ ซะด้วย
หนังที่ว่าคือ มังกรหยก หยกก๊าหว่า
หนังเล่าถึงสมัยพวกอึ้งเอี๊ยะซือยังหนุ่มๆ ครับ โดยเหตุเกิดเมื่อพิษประจิม อาวเอี้ยงฮง (เหลียงเฉาเหว่ย) วางแผนร้ายคิดครองแคว้นธรรมจักรทอง (หรือแคว้นกิม) อีกทั้งหมายจะครองคัมภีร์นพเก้าเพื่อเป็นยอดฝีมือที่ไร้เทียมทาน ก็เลยทำให้เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลายต้องรวมตัวกันขัดขวาง
...คือพล็อตที่ผมเล่านี่คือแก่นหลักของเรื่องนะครับ แต่เอาเข้าจริงหนังน่ะไม่ได้สนแก่นหลักอะไรนี่หรอก เพราะทั้งเรื่องมันเต็มไปด้วยความฮา ความเพี้ยน หรือถ้าใช้ศัพท์ปัจจุบันคือ "เกรียนโคตรๆ" เพราะเราจะได้เห็นมารบูรพาอึ้งเอี๊ยะซือ (เลสลี่ จาง) ตามจีบองค์หญิงคนสวย (หลินชิงเสีย) แบบโน้ะเนะสุดๆ
เราจะได้เห็นอั้งชิดกง (จางเซี๊ยะโหย่ว) ตบกบาลอาวเอี้ยงฮง ส่วนอาวเอี้ยงฮงก็โดยพิษจนปากบวม กลายเป็นตัวร้ายสุดซวยที่เรียกเสียงฮาตลอดเรื่อง
เราจะได้เห็นจิวแปะทง (หลิวเจียหลิง) แอบรักศิษย์พี่เฮ่งเต้งเอี้ยง (เคนนี่ บี) แบบสุดหัวใจ และเราจะได้เห็นท่านอ๋องต้วน (เหลียงเจียฮุย) ปฏิบัติภารกิจสุดเพี้ยนเพื่อเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นเซียน
หนังบ้าขั้นรุนแรงครับท่านทั้งหลาย มันฮาทุกเม็ดตั้งแต่เหล่าดาราที่มาแสดงบทบ้าๆ บ๊องๆ ได้แบบไม่ห่วงภาพลักษณ์ (โดยเฉพาะเหลียงเฉาเหว่ย) พล็อตเรื่องก็เหมือนไม่มีพล็อต กล่าวคือมันเกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้นได้ทุกวินาทีโดยไม่ต้องมีหลักการและเหตุผลครับ
แต่อยากจะบอกว่าแม้หนังจะเพี้ยนๆ มั่วๆ แต่สนุกมาก ฮามาก ยิ่งสมัยนั้นผมดูพากย์ไทยทีม CVD ที่มาเต็มทั้งพี่จักรกฤษณ์, พี่ปิยะ, พี่บัญชา, พี่กรณิการ์, พี่จรัสกร, พี่สุมาลี และอารอง เค้ามูลคดีก็มาแจมด้วย แต่ละคนนี่ปล่อยของกันล้นจอครับ ทั้งน้ำเสียงทั้งมุขมันสุดยอด ต่อให้ไม่ขำก็อดไม่ได้ที่จะสนุกไปด้วย
ยังไม่หมดครับ ความเพี้ยนขั้นกว่าต้องยกให้ "เพลง" ใช่ครับ นี่คือที่ตัวละครร้องเพลงด้วย (555) จะท่านอึ้ง, ท่านอั้ง หรือท่านอ๋องต้วนต่างก็ร้องเพลงอย่างสุดฮา และที่สุดยอดยิ่งขึ้นคือเพลงก็ถูกนำมาร้องเป็นภาษาไทยด้วยนะครับ (ทำเป็นการ์ตูนดิสนี่ย์เลย)
และนักร้องที่ฝากเสียงไว้ในเรื่องนี้คือ คุณอาจรัล มโนเพ็ชรผู้ล่วงลับครับ
... คือ... นี่เป็นหนังที่ผมไม่รู้จะสรรหาคำใดมาบรรยายน่ะครับ มันสุดยอดมากๆ แม้จะมั่วกระจุยก็เถอะ แต่มันสนุก ทำเอาขำกรามค้าง และในด้านคิวบู๊ก็ไม่กระจอกนะครับ ทำออกมาได้มันส์และฉับไวใช้ได้ทีเดียว
++++++++++++++++++++++++++++++++++
สำหรับเกร็ดของหนังเรื่องนี้ก็คือ หนังสร้างโดยหว่องคาไวครับ
เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ เหตุผลในการสร้างเรื่องนี้ก็เพราะตอนนั้นหว่องคาไวกำลังทำ Ashes of Time (มังกรหยก ศึกอภิ-มหายุทธ์) แต่แล้วทุนสร้างเกิดไม่พอ เขาเลยตัดสินใจพักกอง แล้วก็คิดแผนหาเงินเพิ่มโดยการทำ "มังกรหยก หยกก๊าหว่า" ให้ออกมาเป็นหนังฮาเพื่อโกยเงิน จะได้เอาเงินมาถ่าย Ashes of Time ต่อให้จบ
หลายท่านจะสังเกตเห็นว่าดารา 2 เรื่องนี้ชุดเดียวกัน (เพียงแต่จะรับบทคนละตัวกัน) นั่นก็เพราะหว่องคาไวขอให้ดาราใน Ashes of Time ยกทีมมาแสดงในมังกรหยก หยกก๊าหว่านั่นเอง ส่วนเก้าอี้กำกับก็ยกให้ Jeffrey Lau ไป
ผลที่ได้ก็ไม่ผิดหวังนะครับ หนังฉายช่วงตรุษจีนปี 2537 โกยเงินไป 23 ล้านเหรียญฮ่องกง หลังจากนั้นพี่หว่องก็หอบเงินมาใช้ถ่าย Ashes of Time จนสำเร็จลุล่วง
ผมไม่รับประกันว่าท่านจะชอบเรื่องนี้ไหมนะครับ แต่บอกได้เลยว่าผมชอบมาก ฮามาก ขำมาก (โดยเฉพาะฉบับพากย์ดั้งเดิม) คลายเครียดเกินร้อยจริงๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปล. แวะมารำลึกหนังเก่า + เล่าหนังใหม่ ที่เพจน้อยๆ ของผมได้นะครับ ^_^
https://www.facebook.com/10000tip
ปล 2. พรุ่งนี้ที่เพจจะมีกิจกรรมชวนดู The Untouchables (เจ้าพ่ออัลคาโปน) หนังเจ้าพ่อระดับตำนานในรูปแบบออนไลน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนะครับ (แบบถูกลิขสิทธิ์ครับ) ผู้ใดสนใจแวะไปชมกันได้นะครับ