ผมบอกได้เลยว่านี่เป็นหนัง 1 เรื่องที่คุณไม่ควรพลาดที่สุดในชีวิต ไม่ว่าคุณจะกำลังแฮปปี้ดี หรือกำลังมีความทุกข์ หนังเรื่องนี่สอนคุณได้ เอาล่ะเรามาดูกันดีกว่าว่ามันจะดีซักแค่ไหน

          เนื้อเรื่องย่อ
          เมื่ออายุครับ 21 ปี ทิมก็พบว่าเขาสามารถเดินทางข้ามเวลาและเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นรวมถึงสิ่งที่เคยเ­กิดขึ้นกับตัวเองได้ การตัดสินใจของเขาในการทำให้โลกใบนี้น่าอย­ู่ขึ้นด้วยการหาแฟนซักคนกลับไม่ได้ง่ายอย่­างที่คิด..
จากผลงานการกำกับของ ริชาร์ด เคอร์ติส

          ส่วนของการรีวิว
          ผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่าถ้าคุณกำลังลังเลที่จะซื้อ About time มาดูเพราะว่าไม่รู้ว่ามันจะคุ้มค่ารึเปล่า ผมพูดได้เลยว่า ซื้อเลยครับ ซื้อสองแผ่นเลย เอาไปฝากคนที่คุณรัก เพราะมันโครตจะเจ๋ง หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สอนแนวคิดการใช้ชีวิตแบบธรรมดาในพล็อตเรื่องที่ไม่ธรรมดา พระเอกของเราทิมพบว่าตัวเองเดินทางย้อนเวลาไปในอดีตเพื่อแก้ไขสิ่งต่างๆได้ หรือจะเป็นงานแต่งที่คุณไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อย ถ้าคุณอยากหาความโรแมนติกฟินจิกหมอน ใช่ครับเรื่องนี้มี ถ้าคุณอยากได้แนวคิดการใช้ชีวิตแบบใหม่ ใช่ครับเรื่องนี้เลย หรือสุดท้ายถ้าคุณอยากมีความสุข ใช่ครับเรื่องนี้แหละ นายทิมได้เล่าเรื่องราวสอนบทเรียนให้กับคุณ "บทเรียนที่หนึ่ง การย้อนเวลาไม่สามารถทำให้คนรักเราได้" มันสอนการดำเนินชีวิตให้กับคุณ ในหนังตัวเอกจะพยายามย้อนเวลากลับไปแก้ไขปรุงแต่งชีวิตตัวเองให้สมบูรณ์ที่สุด จนถึงจุดๆหนึ่ง เขาก็รู้ว่าชีวิตที่สมบูรณ์มันไม่มีอยู่จริง เราต้องเลือกเส้นทางที่ดีที่สุด เพื่อทำให้ชีวิตดีที่สุด อีกจุดพีคจุดนึงของเรื่องเลยก็คือเรื่องครอบครัวครับ มันทำให้ผมรู้สึกรักพ่อแม่มากขึ้นอีกขนาดปกติว่ามากแล้ว ส่วนสิ่งที่ทำให้ผมโครตฟินคือบทของนางเอกด้วยหน้าตากับบุคลิกที่เข้ากันมากที่ให้นางเอกสื่ออารมณ์ออกมาได้อย่างดี ถ้าพูดถึงในเรื่องบทกับนักแสดง เรื่องนี้ผ่านแทบทุกคนเลยครับ

          คะแนนที่ผมให้นั่นก็คือ ★9 คะแนน★



          คุยมาซะดี ผมหักคะแนนที่ตรงไหน ?

          ฉากจบนี้อาจจะเป็นฉากจบที่ลงตัวมากที่สุดของหนังเรื่องนี้แล้ว ผมก็รู้สึกดีแต่ก็มีความรู้สึกที่ว่า มันไม่ค่อยจะตราตรึงใจด้านที่ว่า อยากดูเรื่องนี้ต่อ อยากให้มีต่อ ยังไม่อยากให้จบ ไม่รู้เป็นข้อดีหรือข้อเสียที่ผมรู้สึกว่าจบตรงนี้แหละดีที่สุดแล้ว

          ต่อไปนี้คือสปอย ฉากที่ผมชอบและให้ข้อคิดดีดีในการดำเนินชีวิต ใครดูแล้วก็คลิกตามสะดวก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บอกตรงๆครับเวลาดูหนังแล้วเขียนให้พยายามไม่สปอยนี่โครตจะลำบาก ผมจึงขอทิ้งส่วนสปอยเล็กๆไว้ระบายความรู้สึก พร้อมข้อคิดที่ได้จากหนัง

          ฉากที่ผมชอบมากคือ
          ฉากแรก ฉากที่พระเอกกับนางเอกพบกัน ที่ร้านอาหารมืด (แบบว่ามืดปิดไฟอ่ะนะ) เป็นฉากที่ผมไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนๆ เคยเห็นที่นี่ที่แรกแหละ ฉากนี้อาจจะสอนเรื่องการเปิดใจคุย ถ้าคุณเจอกันในที่สว่าง คุณอาจจะไม่มีโอกาสคุยกันนานขนาดนี้ เข้าใจกันมากขนาดนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่คุณควรทำตอนพบผู้คนใหม่ๆ คือการเปิดใจซึ่งกันและกัน
          ฉากที่สอง แต่งงานครับ พวกคุณก็ด้วยใช่ไหมล่ะ คุณเคยเห็นฉากแต่งงานแบบนี้ในหนังเรื่องไหนรึเปล่า มันบ้าชะมัด แต่มันโครตสนุกเลย คุณอาจจะได้แนวคิดดีดีๆจากฉากนี้ก็ได้
          ฉากที่สาม ฉากซึ้งประจำเรื่อง ที่พ่อรู้ว่าเป็นมะเร็งแล้วย้อนเวลามาคุยกับลูก พอพ่อตายไปแล้วลุกก็ยังแวะมาคุยด้วย จนถึงวันนึง ทิมย้อนเวลามาพบพ่อไม่ได้อีกแล้ว นี่คือฉากที่ทิมต้องเลือก ตรงนี้มันสอนคุณว่า จงปล่อยวางอดีต เก็บไว้ให้มันเป็นความทรงจำที่ดี บางทีคุณอาจจะต้องใช้เวลากับอนาคต(ลูกๆ)ของคุณบ้าง

          และสิ่งสุดท้ายที่หนังทั้งเรื่องนี้สอนเรา เราอาจจะย้อนเวลาทำชีวิตให้เพอร์เฟ็คเหมือนทิมไม่ได้แต่ ทิมก็ได้บอกเราไว้แล้วว่าควรทำอย่างไร ใช้ชีวิตวันนึงให้ดีที่สุดเหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย เพราะสุดท้ายแล้วทิมก็ไม่ต้องการย้อนเวลาอีกเลย

          feel good

          ความจริงผมว่ามันมีมากกว่านี้เยอะ แต่เท่าที่ผมเค้นออกมาเป็นเรื่องเป็นราวได้ก็เท่านี้แหละครับ ถ้าอยากได้มากกว่านี้คงต้องดูอีกหลายรอบ

"สุดท้ายแค่เราทำทุกๆวันให้มันมีความสุข เมื่อมันดีที่สุดแล้วต่อให้ผลของมันจะเป็นยังไง ก็ไม่จำเป็นต้องย้อนเวลาทำมันใหม่"

สำหรับวันนี้ ขอบคุณครับ

อันนี้แถมครับ แบบว่าของเค้าดีจริง



ติดตามผมต่อได้ที่ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/4movieth และ user pantip เด็กชายกับสายลม