รีวิวทริป::: ท่องไปใน อิหร่าน : มหาเสน่ห์แห่งอารยธรรมเปอร์เซีย…ดินแดนมหัศจรรย์บนผืนโลกที่รอผู้มาเยือน”
By KONTHAI NARAK
ทริปท่องไปตามในอิหร่าน ตอนที่ 2 : "เมืองเอสฟาฮานเมืองแห่งประวัติศาสตร์และดื่มดำกับกลิ่นอายแท้ๆของวิถีชาวอิราเนี่ยน"
ความเดิมตอนที่แล้ว>>>>> จากเมืองกุม
ทริปท่องไปตามในอิหร่าน ตอนที่ 1 : ออกสำรวจเมืองกุม “เมืองแห่งศาสนาและความรู้ของชาวอิราเนี่ยน”
http://ppantip.com/topic/32691271
ในสถานที่ท่องเที่ยว ต่างๆมากมาย ในเอสฟาฮาน ท่านอาจจะเคยได้เห็นคำขวัญภาษาฟารซีที่กล่าวว่า “เอสฟาฮาน เนสเฟ จาฮัน”… “ อิสฟาฮาน คือ ครึ่งหนึ่งของโลก ” มันเป็นคำบรรยายที่มีเสน่ห์ที่เป็นลักษณะพิเศษที่ทำให้มองเห็นภาพความนับถือตัวเองอย่างเหลือล้นของชาวเปอร์เซีย ดังนั้น จึงไม่น่าประหลาดใจเลยที่ ชาวอิสฟาฮาน จะมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับเมืองของพวกเขา
หลังจากทานอาหารมื้อเที่ยงในเมืองกุมกับเพื่อนนักเรียนไทยในอิหร่าน ผู้มามอบมิตรภาพใหม่ให้กับผม ผมได้ตัดสินใจเดินทางต่อมาเที่ยวยังเมืองเอสฟาฮานตามแผนเดิมที่วางไว้ ซึ่งตอนแรกตัดสินใจจะเดินทางไปด้วยรถบัสปรับอากาศจากเมืองกุมเข้าเมืองเอสฟาฮาน แต่ว่า เพื่อนนักเรียนไทยได้เสนอให้ผมนั่งรถ TAXI ไปเลยดีกว่า เพราะจะช่วยในการประหยัดเวลาไปได้อีกตั้ง 2 ชั่วโมง
การเดินทางจากเมืองกุมไปยังเอสฟาฮาน นั้นถ้าเดินทางด้วยรถบัสปรับอากาศใช้เวลาราว 5-6 ชั่วโมง และราคารถบัสนั้นก็ถูกกว่าด้วยแค่คนละ 140 บาท แต่ผมเปลี่ยนเป้าหมายเพราะอยากเดินทางไปให้ถึงเอสฟาฮานก่อนที่พระอาทิตย์จะดับแสงลง จึงตัดสินใจเดินทางด้วยแท็กซ่ ซึ่งราคาก็ถูกมากอยู่ดี คือ แค่คนละ 200 บาทต่อคน และใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมงเศษ รถเป็นแท็กซี่แบบแชร์เหมา ในรถประกอบด้วยผู้โดยสารสามคน และคนขับอีก 1 คน ผมจึงจ่ายตังและขึ้นรถไปกับผู้โดยสารคนอื่นที่รออยู่แล้ว
และนี่คือโฉมหน้าคนขับ TAXI ที่จะพาผมไปยังดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ เมืองเอสฟาฮาน (สภาพของรถTAXI ก็เป็นอย่างที่เห็น)
และความสนุก ความสุขรายทางกับคนสี่คนในรถกำลังจะเกิดขึ้น เป็นการเดินทางที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต และมีความสุขเอามากๆ
เมื่อรถเริ่มวิ่งแล่นออกจากตัวเมืองกุมไปยังบนถนนมุ่งหน้าไปสู่เมืองเอสฟาฮานนั้น คนขับก็วิ่งไปได้สักระยะหนึ่งแล้วแวะปั้มเพื่อจอดเติมน้ำมัน และให้พวกเราเข้าห้องน้ำ ผมบอกตรงๆผมไม่กล้าไปเข้าห้องน้ำ เพราะกลัวแท็กซี่ จะหนี และผมมีกระเป๋า ใบหนึ่งอยู่กระโปรงด้านหลังรถด้วย จึงได้แค่เดินลงไปสำรวจไกล้ๆ และถ่ายรูปคนขับและหมายเลขทะเบียนรถไว้ กันฉุกเฉิน เพราะผมไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้น
พ่อค้าร้านที่ปั้มที่เราแวะเห็นผมถือกล้องเลยสั่งให้ผมถ่ายรูปแกให้หน่อย ผมเลยถ่ายไว้รูปหนึ่ง อยากบอกว่าคนอิหร่านบ้ากล้องมากๆ
ด้านหน้าร้านมีเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิกขายลักษณะนี้ ผมเดาเอาว่าน่าจะเป็นประมานสินค้า OTOP ของคนแถบนี้ ผมพบเห็นอยู่หลายรานตามรายทางที่รถวิ่งผ่านมา
เมื่อทุกคนทำภารกิจเสร็จแล้ว เราก็ขึ้นมานั่งบนรถและรถก็วิ่งต่อไป แต่ตอนขึ้นมานั้น ผมสักเกตุเห็น เจ้ผู้หญิงคนอิหร่านคนหนึ่งที่เดินทางร่วมโดยสารมากับเราและซื้อขนมและเครื่องดื่มพะรุงพะรัง กลับขึ้นมาบนรถด้วย ผมคิดว่า เจ๊แก คงต้องซื้อของกลับไปฝากญาติๆ ที่บ้านถึงได้ซื้อมากขนาดนี้ (เสียดายที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปเจ๊แกไว้ เพราะก่อนจะขึ้นรถผมก็หิ้วกล้องถ่ายรูแแขวนคอไว้ เตรียมเก็บภาพรายทางมาฝาก และแกชี้มาที่กล้องผมว่า NO NO NO!!!! และพุดมาเป็นภาษาฟาร์ซี ใส่ผมก็พอจะเดาได้ว่า ที่อิหร่าน การถ่ายรูปผู้หญิงผิดกฎหมาย++++)
[CR] รีวิวทริป::: ท่องไปใน อิหร่าน : มหาเสน่ห์แห่งอารยธรรมเปอร์เซีย…ดินแดนมหัศจรรย์บนผืนโลกที่รอผู้มาเยือน” By KONTHAI NARAK
By KONTHAI NARAK
ทริปท่องไปตามในอิหร่าน ตอนที่ 2 : "เมืองเอสฟาฮานเมืองแห่งประวัติศาสตร์และดื่มดำกับกลิ่นอายแท้ๆของวิถีชาวอิราเนี่ยน"
ความเดิมตอนที่แล้ว>>>>> จากเมืองกุม
ทริปท่องไปตามในอิหร่าน ตอนที่ 1 : ออกสำรวจเมืองกุม “เมืองแห่งศาสนาและความรู้ของชาวอิราเนี่ยน”
http://ppantip.com/topic/32691271
ในสถานที่ท่องเที่ยว ต่างๆมากมาย ในเอสฟาฮาน ท่านอาจจะเคยได้เห็นคำขวัญภาษาฟารซีที่กล่าวว่า “เอสฟาฮาน เนสเฟ จาฮัน”… “ อิสฟาฮาน คือ ครึ่งหนึ่งของโลก ” มันเป็นคำบรรยายที่มีเสน่ห์ที่เป็นลักษณะพิเศษที่ทำให้มองเห็นภาพความนับถือตัวเองอย่างเหลือล้นของชาวเปอร์เซีย ดังนั้น จึงไม่น่าประหลาดใจเลยที่ ชาวอิสฟาฮาน จะมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับเมืองของพวกเขา
หลังจากทานอาหารมื้อเที่ยงในเมืองกุมกับเพื่อนนักเรียนไทยในอิหร่าน ผู้มามอบมิตรภาพใหม่ให้กับผม ผมได้ตัดสินใจเดินทางต่อมาเที่ยวยังเมืองเอสฟาฮานตามแผนเดิมที่วางไว้ ซึ่งตอนแรกตัดสินใจจะเดินทางไปด้วยรถบัสปรับอากาศจากเมืองกุมเข้าเมืองเอสฟาฮาน แต่ว่า เพื่อนนักเรียนไทยได้เสนอให้ผมนั่งรถ TAXI ไปเลยดีกว่า เพราะจะช่วยในการประหยัดเวลาไปได้อีกตั้ง 2 ชั่วโมง
การเดินทางจากเมืองกุมไปยังเอสฟาฮาน นั้นถ้าเดินทางด้วยรถบัสปรับอากาศใช้เวลาราว 5-6 ชั่วโมง และราคารถบัสนั้นก็ถูกกว่าด้วยแค่คนละ 140 บาท แต่ผมเปลี่ยนเป้าหมายเพราะอยากเดินทางไปให้ถึงเอสฟาฮานก่อนที่พระอาทิตย์จะดับแสงลง จึงตัดสินใจเดินทางด้วยแท็กซ่ ซึ่งราคาก็ถูกมากอยู่ดี คือ แค่คนละ 200 บาทต่อคน และใช้เวลาเดินทางราว 3 ชั่วโมงเศษ รถเป็นแท็กซี่แบบแชร์เหมา ในรถประกอบด้วยผู้โดยสารสามคน และคนขับอีก 1 คน ผมจึงจ่ายตังและขึ้นรถไปกับผู้โดยสารคนอื่นที่รออยู่แล้ว
และนี่คือโฉมหน้าคนขับ TAXI ที่จะพาผมไปยังดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ เมืองเอสฟาฮาน (สภาพของรถTAXI ก็เป็นอย่างที่เห็น)
และความสนุก ความสุขรายทางกับคนสี่คนในรถกำลังจะเกิดขึ้น เป็นการเดินทางที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิต และมีความสุขเอามากๆ
เมื่อรถเริ่มวิ่งแล่นออกจากตัวเมืองกุมไปยังบนถนนมุ่งหน้าไปสู่เมืองเอสฟาฮานนั้น คนขับก็วิ่งไปได้สักระยะหนึ่งแล้วแวะปั้มเพื่อจอดเติมน้ำมัน และให้พวกเราเข้าห้องน้ำ ผมบอกตรงๆผมไม่กล้าไปเข้าห้องน้ำ เพราะกลัวแท็กซี่ จะหนี และผมมีกระเป๋า ใบหนึ่งอยู่กระโปรงด้านหลังรถด้วย จึงได้แค่เดินลงไปสำรวจไกล้ๆ และถ่ายรูปคนขับและหมายเลขทะเบียนรถไว้ กันฉุกเฉิน เพราะผมไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร และจะเกิดอะไรขึ้น
พ่อค้าร้านที่ปั้มที่เราแวะเห็นผมถือกล้องเลยสั่งให้ผมถ่ายรูปแกให้หน่อย ผมเลยถ่ายไว้รูปหนึ่ง อยากบอกว่าคนอิหร่านบ้ากล้องมากๆ
ด้านหน้าร้านมีเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิกขายลักษณะนี้ ผมเดาเอาว่าน่าจะเป็นประมานสินค้า OTOP ของคนแถบนี้ ผมพบเห็นอยู่หลายรานตามรายทางที่รถวิ่งผ่านมา
เมื่อทุกคนทำภารกิจเสร็จแล้ว เราก็ขึ้นมานั่งบนรถและรถก็วิ่งต่อไป แต่ตอนขึ้นมานั้น ผมสักเกตุเห็น เจ้ผู้หญิงคนอิหร่านคนหนึ่งที่เดินทางร่วมโดยสารมากับเราและซื้อขนมและเครื่องดื่มพะรุงพะรัง กลับขึ้นมาบนรถด้วย ผมคิดว่า เจ๊แก คงต้องซื้อของกลับไปฝากญาติๆ ที่บ้านถึงได้ซื้อมากขนาดนี้ (เสียดายที่ผมไม่ได้ถ่ายรูปเจ๊แกไว้ เพราะก่อนจะขึ้นรถผมก็หิ้วกล้องถ่ายรูแแขวนคอไว้ เตรียมเก็บภาพรายทางมาฝาก และแกชี้มาที่กล้องผมว่า NO NO NO!!!! และพุดมาเป็นภาษาฟาร์ซี ใส่ผมก็พอจะเดาได้ว่า ที่อิหร่าน การถ่ายรูปผู้หญิงผิดกฎหมาย++++)