Avatar
ภาพยนตร์ที่เป็นการเล่าเรื่องของนักวิทยาศาสตร์ตัวแทนสาขาชีววิทยาคนนึงที่เหมือนนักสำรวจกลายๆ เพียงแต่สิ่งที่สำรวจและนำมาเล่าไม่ใช่เรื่องใหม่หรืออารยธรรมใหม่ๆ แต่มันคืออารยธรรมยุคโบราณที่สาบสูญไปนานหลายแสนหลายล้านปี การจำลองบรรยากาศ สภาพแวดล้อมและสภาพภูมิประเทศต่างๆที่เหมือนจะนำเราไปสู่ยุคดึกดำบรรพ์การใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ(ปัจจุบันเราแทบไม่รู้เลยว่าธรรมชาติเมื่อก่อนสวยงามแค่ไหน แต่เจมส์คงจินตนาการว่ามันสวยงามมากแน่ๆ) การดำรงอยู่ของความเชื่อยุคโบราณ พิธีกรรม ต่างๆ จะว่าไปมันก็เหมือนกับการที่เราเข้าไปอยู่ในกลุ่มนักสำรวจของทีมงานทีมงานหนึ่ง(เช่นNational geograpphics)โดยมีไกด์นำทางเป็นนักวิทยาศาสตร์และพาเราย้อนยุคไปสู่ยุคดึกดำบรรพ์โดยมีเทคโนโลยีการเดินทางที่ทันสมัยมากขึ้นแค่นั้นเอง การวิจัยเซลส์พืช ทรัพยากรธรรมชาติ การสำรวจต้นไม้ แร่ธาตุต่างๆ มันก็คือห้องทดลองขนาดใหญ่ของนักวิทยาศาสตร์นั่นแหละครับ โดยส่วนตัวผมมองว่าเจมส์พยายามจะบอกว่า การที่เรามีทรัพยากรทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามมากๆขนาดนี้ มันคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่มนุษย์เรามี ถ้าจะพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆให้ทันสมัยมากขึ้น โจทย์คือทำยังไงถึงจะไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ หรือทำยังไงที่จะทำโดยให้ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติให้น้อยที่สุด เพราะในเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่าการมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น มันทำให้มนุษย์เราเห็นแก่ตัวโดยไม่สนใจธรรมชาติ(มีเครื่องบินก็ถล่มต้นไม้ทิ้ง ขุดดิน ระเบิดภูเขาทำถนนต่างๆนาๆ) และจุดจบของการมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยคือ หาสิ่งอำนวยความสะดวกให้มนุษย์และใช้มันเข้ามาแทนที่ธรรรมชาติ
จริงๆแล้วภาพยนตร์เรื่อง Avatar ผมมองว่ามันคือสารคดีบันเทิงสาขาชีววิทยาและรายการสำรวจโลกในตอน การเดินทางสู่ธรรมชาติยุคดึกดำบรรพ์ครับ
The Dark Knight
ภาพยนตร์ที่เป็นการเล่าเรื่องของนักจิตวิทยาและจิตแพทย์เกี่ยวกับความซับซ้อนของสมอง พฤติกรรม และฐานความคิดของมนุษย์ ในเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก สถานการณ์ที่ถูกบีบบังคับ สภาพแวดล้อมที่เลวร้าย การจำลองบรรยากาศและสภาพแวดล้อมต่างๆ ของเมืองก็อดแธม มันคือปัจจัยสำคัญที่สุดในการแสดงออกของพฤติกรรมของมนุษย์ ถ้าสังคมเป็นอย่างไร สิ่งที่แสดงออกของมนุษย์ก็เป็นอย่างนั้น ความดาร์คของเรื่องตรงนี้คือประเด็นที่มีมากกว่าเรื่องอื่นๆ การที่จะทำให้มนุษย์แสดงพฤติกรรมออกมาให้ชัดเจนที่สุด ผมมองว่าสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเราต้องเป็นโทนสีดำหรือหมายถึงต้องมองเห็นสิ่งเลวร้ายเป็นเรื่องธรรมดาและมองเห็นสิ่งที่ดีเป็นเรื่องผิดปกติ การเล่าเรื่องของคริสโตเฟอร์ผมมองว่าเป็นการเล่าเรื่องผ่านจิตแพทย์คนนึงที่พยายามจะบอกเราในเรื่องของพฤติกรรมต่างๆ ที่มนุษย์จะแสดงออกเมื่อมีสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เป็นภาพยนตร์ที่เล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ได้อย่างชัดเจนและตรงไปตรงมามากที่สุด คนที่มองอาชญากรรมเป็นเรื่องสนุก คนที่มีสีขาวที่สุดและคนที่มีสีดำที่สุดกลับเป็นคนๆเดียวกัน คนธรรมดาที่มองเรื่องเลวร้ายเป็นเรื่องปกติและมองสิ่งที่ดีเป็นเรื่องผิดปกติ กับคนที่มองเรื่องที่ดีเป็นสิ่งที่ควรทำและมองว่าสิ่งที่เลวร้ายควรจะต้องถูกกำจัดไป ทุกอย่างล้วนแต่สะท้อนมุมมองของนักวิเคราะห์พฤติกรรมแทบทั้งสิ้น ถ้าคุณอยากดูเรื่องนี้ให้ถึงกึ๋นหรืออยากสัมผัสอารมณ์นั้นจริงๆคุณต้องคิดว่าตัวเองคือนักจิตวิทยาที่กำลังดูเมืองก็อดแธมอยู่และพยายามมองพฤติกรรมของมนุษย์ให้ลึกที่สุด จะว่าไปผมดันนึกถึงการ์ตูนเรื่องฮันเตอร์xฮันเตอร์ขึ้นมาซะได้
ภาพยนตร์ The Dark Knight ในมุมมองของผมมันคือแฟ้มลับอาชญากรระดับโลก
ปล. กระทู้ต่อไป [สาระน่ารู้]**10อันดับนักประพันธ์เพลงบรรเลงประกอบภาพยนตร์ที่ดังที่สุด[รางวัลออสการ์สาขาBest Original Score]
[กระทู้วิจารณ์]***THE DARK KNIGHT+AVATAR ภาพยนตร์ที่สะท้อนมุมมองของนักวิทยาศาสตร์และนักจิตวิทยา
จริงๆแล้วภาพยนตร์เรื่อง Avatar ผมมองว่ามันคือสารคดีบันเทิงสาขาชีววิทยาและรายการสำรวจโลกในตอน การเดินทางสู่ธรรมชาติยุคดึกดำบรรพ์ครับ
ปล. กระทู้ต่อไป [สาระน่ารู้]**10อันดับนักประพันธ์เพลงบรรเลงประกอบภาพยนตร์ที่ดังที่สุด[รางวัลออสการ์สาขาBest Original Score]