ปวดเซ่งจี๊กับ วัยเป้งง นักเลงขาสั้น แน่ใจนะว่านี่คือเดอะเบสของพจน์ อานนท์

คือไม่รู้มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของคนไทยที่จะต้องได้ดูหนังของพจน์ อานนท์ ปีนึง 3-4 เรื่อง ออกมาเยอะแยะ หลายๆคนคงบอกว่าใช่สิก็หนังเค้าได้ตัง ใครๆก็อยากจะทำ แต่ปัญหาคือ ทำไมไม่คิดใหม่ทำใหม่บ้าง หนังฝรั่งที่เข้าฉายในเมืองไทยบางเรื่องมันก็ไม่ได้จะต้องมีพล็อตตลกแบบไม่มีคลาสอย่างนี้ ไม่ได้มีบทหนังที่อุบาทว์ๆแบบพจน์ อานนท์ ทำไมมันมีคนดู ทำไมเราไม่คิดที่จะทำหนังที่มีบทดีดีประเทืองปัญญา มีพล็อตที่สร้างสรรค์กันบ้าง นี่อะไร ปีนึงๆ มีแต่หนังพจน์ อานนท์ เข้าฉาย พอบ่นว่าเข้าก็บอกสิว่า โอ้ย คนไทยเครียดมากแล้ว จะดูหนังที่ต้องใช้สมองอะไรกันมากมาย ก็อยากจะย้อนถามนะว่า คนไทยนี่เครียดมากเลยเหรอ ตื่นเช้ามาฟังเล่าข่าวสรยุทธิ์ แล้วมีโก๊ะตี๋มาแต่งตัวปัญญาอ่อนให้ดูแต่เช้า ตกเย็นมีละครให้ดูตั้งแต่หกโมงเย็น ขนาดข่าวยังมีให้เราดู 15 นาทีเป็นข่าวพระราชสำนัก จากนั้นก็ยิงยาวละครตั้งแต่สองทุ่มครึ่งถึงเกือบห้าทุ่ม ละครหลังข่าวปาเข้าไป 2 ชมครึ่ง นี่คือคนไทยเครียดเหรอ ส่วนหนังไทยตามสภาพ น้ำมันพราย ฟินสุโค่ย มาจนวัยเป้ง นี่หนังอุบาทว์ๆทั้งนั้น คือเอาเข้ามาให้คนไทยดู ไม่อยากด่าว่าดูถูกสติปัญญานะเพราะคนดูนี่แหละทำตัวให้เค้าดูถูกเอง เค้าก็เอาขยะมาให้เราบริโภคแบบนี้แหละ

สำหรับวัยเป้งง นักเลงขาสั้นนี่ก็บอกแบบตรงไปตรงมาว่ามันเป็นหนังกาก ภาพลักษณ์ของหนังก็เป็นหนังกาก ไอ้ที่บอกว่าลองเข้าไปดูเผื่อจะมีอะไรดีดีในหนังนี่ขอบอกแบบตรงไปตรงมาเลยนะ ไม่ต้องไปหา เพราะมันแทบจะไม่มี เพราะไอ้สิ่งดีดีในหนังที่มันเหมือนจะสอนคน มันก็ไม่มีอะไรมาก ไม่ได้พลิกแพลงอะไร เพราะคนทั่วไปรู้ดีอยู่แล้วว่าคนดีดีเค้าต้องทำอะไร ไม่ต้องให้หนังสอน สรุปคือความยาว 114 นาทีของหนังเรื่องนี้ หาอะไรดีดีงามงามแทบจะไม่มีเลย อาจจะเรียกว่าไม่มีเลยก็ได้ แต่การที่จะบอกว่า วัยเป้งงนักเลงขาสั้นเป็นหนังไทยที่ห่วยก็ออกจะไม่ยุติธรรม แต่ขอเรียกว่าหนังไร้ราคาไม่มีระดับดีกว่า

พูดตามตรง พจน์อานนท์มีโอกาสได้ทำหนังไทยฉายโรงมากเกินไป มันเยอะเกินไปแล้วสำหรับหนังไทยกากๆแบบนี้ หนังไทยควรจะมีอะไรดีดีจรรโลงใจ เชิดชูใจ ดูแล้วยกระดับทั้งความคิดและสติปัญญาของคนดูมากกว่าหนังอะไรแบบนี้ ที่ดูไปตลอดเรื่องไม่มีอะไรเลย นอกจากมุขตลกที่เอามาใส่ในหนังสะท้อนปัญหาวัยรุ่นให้มันดูตลกแบบไร้ชั้นเชิง ไร้ระดับ

เรื่องราวก็ตามหน้าหนัง เกี่ยวกับนักเรียนตีกัน ซึ่งเอาเข้าจริงๆ สังคมไทย โดยเฉพาะในเมือง กลางกรุง และสภาพของนักเรียน สภาพโรงเรียนตามที่ในเรื่องกล่าวอ้างมันแทบจะไม่มีแล้วมั้ง ใน กทม นี่หาเด็กนักเรียนตีกันยากมาก โดยเฉพาะยิ่งเป็นนักเรียน รร มัธยมนี่ยิ่งไม่ค่อยจะมีเท่าไหร่ ข่าวนักเรียนตีกันนี่ส่วนใหญ่มีแต่ข่าวเด็ก ปวช ปวส ตาม รร ช่างกลมันจะตีกัน หรือไม่ก็เป็นแก๊งเด็กแว๊นที่ไม่ได้ตีกันเพราะความขัดแย้งต่างโรงเรียน โดยในอีเรื่องวัยเป้งง มันก็แบบว่าใช้อะไรคิดเหรอ เด็กเป็นร้อยตีกันกลางสยามสแควร์วัน วิ่งไล่ตีกันไปจนถึงหน้ามาบุญครอง สี่แยกปทุมวัน ตรงสยามน่ะคือสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยซ้ำ แต่ไม่มีตำรวจสักคนหรือจะตอกย้ำว่าเมืองไทยนี่ตำรวจมันโคตร...ไม่ทำอะไรนอกจาก.... ปล่อยให้นักเรียนตีกันกลางแยกปทุมวัน (เอาจริงๆกลางแยกปทุมวันมันมีป้อมตำรวจ และมีตำรวจยืนตลอด แต่เหมือนจะคอยจับรถฝ่าไฟแดงมากกว่า) และเราเป็นคนเดินสยามมามากกว่า 20 ปี ก็ไม่เคยเจอเด็กนักเรียนตีกันเป็นกองทัพแบบในหนัง อย่างมากก็วิ่งไล่กัน 7-8 คน แค่นั้นเอง ไม่งั้นก็ไปช่างกลปทุมวัน อุเทนถวายไปเลย

ตัวละครในเรื่องนี้ จะเอาอะไรก็ไม่ไปสักทาง จะเอาจริงจังก็ไม่ใช่ จะเอาการ์ตูนก็ไม่เชิง คือตัวละครแลดูมีสตอรี่ แต่ถูกนำมาถ่ายทอดไปไม่สุดเหมือนคนขี้ไม่สุด คืออีพระเอกนี่จะเท่จะหล่อจะดีหรือจะเกเร จะเอายังไง อีตัวโกงนี่มันจะเลวหรือจะตลก ลูกกะจ๊อกนี่อะไร รักเพื่อนไหม เดี๋ยวเหมือนจะรักเพื่อน เดี๋ยวจะแก้แค้น เดี๋ยวทิ้งเพื่อนกัน รวมไปถึงคู่เกย์ในเรื่อง ที่ดีออกกกกกกกกกกกกก  คู่นี้เป็นคู่รักสอง รร ที่สองกลุ่มไม่ถูกกันแต่ดันรักกัน เดินจูงมือกัน เรียกคุณเรียกผม ดีออก จะอ้วก แล้วพอมาตีกันก็มาชกกัน แล้วกอดกัน ทำตัวเหมือนปิดบัง แต่จู่ๆก็จูงมือกันกอดกันต่อหน้าเพื่อนๆ และอีเพื่อนๆนี่ไม่มีตกอกตกใจ คือบทคู่วายนี่เหมือนเพิ่มเข้ามาเอาใจสาววายแต่ดูแล้วไม่มีอารมณ์ทางเพศใดๆทั้งสิ้น(หาความหล่อไม่เจอ) ตัวละครสองตัวนี้ยัดเยียดเข้ามาเพื่อเอาใจสาววายโดยไร้ชั้นแบบโง่ๆ มีหมด กอดจูบ รวมถึงล้วงกันในจังหวะเวลาที่โคตรจะไม่ใช่เลย คือตอนจะไปตีกันบอกอย่าไปเลยแล้วเอามือล้วง คือมันอะไร มันคืออะไร ไม่เข้าใจ


ตัวละครหลัก พระเอกชื่อเป้ง มีน้องชายชื่อแป๋ง น้องชายทำเพลงขึ้นยูทูปจนมีคนวิว 1.5 ล้านจนได้ขึ้นไปเปิดคอนเสิร์ทในงานที่เซ็นทรัลเวิลด์ คือดูสภาพคลิปที่ในหนังโชว์ให้ดู ปวดเซ่งจี๊มาก บอก 1.5 ล้านวิวเเลยเหรอ ส่วนตัวมองว่าคลิปกากๆแบบในหนังที่เอาให้ดูนี่ต่อให้น้องชายพระเอกโชว์น้องชายตัวเองด้วยก็เอาให้ถึงแสนวิวให้ได้ก่อน 1.5 ล้านวิวนี่เวอร์มาก แล้วเพลงวัยเป้งง นักเลงขาสั้นที่เอาโชว์ก็สุดแสนจะไม่เพราะเลย ไม่รู้จะทำให้คนเชื่อได้ยังไว่าเพลงมันเก๋มันเริ่ดจนได้โชว์ได้ ในส่วนนี้หนังทำไม่ถึง รวมไปถึง ชะนีรุ้งจอมแรด ที่แบบว่ากระโดดขึ้นมอไซค์พระเอก แล้วให้อีเพื่อนชะนีหน้าปลวกพามานอนค้างที่บ้านพระเอก โดยแบบรุ้งนางเป็นชะนีที่ไร้ค่ามากกก แบบดูไม่น่าแย่ง เหมือนชะนีใจแตกธรรมดา แล้วอีฉากตอนจบ อีหน้าปลวกมากับชะนีมากับพระเอก ให้พระเอกไปตีกับตัวร้าย (พระเอกกำลังจะไปเรียนเมืองนอก แต่อีชะนีมาตามจนเจอ และตัดสินใจกลับมาช่วยน้องชายในงานคอนเสิร์ตที่ตัวร้ายจะมาป่วน) ส่วนอีหน้าปลวกไปเย้วๆดูคอนเสิร์ท ตอนนั้นเรานั่งท้าวคาง นี่เจ๊พจน์ทำหนังเอะไรมาให้ตูดู อีพระเอก เกิดจะทำหล่อให้ตัวโกงซ้อมแบบไม่ตอบโต้ แล้วจู่ๆก็คิดได้ ขอทำผิดสัญญาแม่ เพื่อนโยนกิ้ปหนีบหัวมาให้ แล้วพระเอกก็อัดตัวร้ายจนหมอบ ตำรวจมาตอนจบ ไอ้...!! นี่มันหนังไทยชัดๆ ตำรวจพาขึ้นรถ เอานักเรียนทั้งหมดไปอบรมที่ค่ายทหาร ตัดมาเปิดศึกใหม่ที่สยามหลังอบรมเสร็จ สองฝ่ายทำท่าจะบู๊ตีกันใหม่ แต่กลับกลายเป็นวิ่งเข้าหากันแล้วมาจับมือกอดกัน ดีกัน จบฮะ

ตัวละครฝ่ายผู้ใหญ่ เหมือนจะเป็นส่วนที่ตบๆให้หนังกลับมาดูมีอะไรขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะเมย์ ภัทรวรินทร์ ในบทแม่พระเอกที่แสดงได้ดีทีเดียว จนทำให้หนังเรื่องนี้พอจะขึ้นมาจากตมบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้หนังมันเป็นบัวโผล่พ้นน้ำได้อยู่ดี เพราะบทแม่พระเอกนี่แลดูโคตรจะไร้มิติเลย ดื่มเหล้าทั้งวัน เพราะมีปัญหากับพ่อที่แสดงโดย ปู แบล็กเฮด ซึ่งขอบอกเลยว่า ปูแบล็กเฮดเล่นหนังได้พังพินาศมากแอ้คติ้งเข้าขั้นสากกะเบือ พูดเหมือนท่องบท ไร้อารมณ์ และที่งงคือ ตกลงพ่อแม่มันแยกกันอยู่หรือจริงๆพ่อมันยังอยู่ด้วย แต่ชอบอยู่ร้านเหล้ามากกว่าไม่ชอบกลับบ้าน งง บทครูนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ใส่เข้ามาให้ดูตลกและกลายเป็นตลกที่ดูตลาด ดูไม่แพง โดยเฉพาะครูโรสที่แสดงโดยดีเจมะตูม คือออกมาสองฉาก มีหรือไม่มีก็ได้ ส่วนครูผู้หญิงอีกคนนี่ก็เป็นตัวตลกแบบไม่น่าจะมีอาชีพครูเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่านางแสดงได้ขำดี ดูแบบเออขำขำ

สรุปเส้นเรื่องของหนัง มันไปไม่สุด จะทำให้เป็นหนังตลกแบบหนังตลกปัญญาอ่อนไปเลยอย่างหอแต๋วแตกก็ไม่ยอมทำให้เป็นอย่างนั้น คือถ้าทำให้เป็นแบบนั้นเราจะอวย เพราะเราว่าพจน์ อานนท์ นางเหมาะที่จะทำหนังตลกปัญญาอ่อน แต่นี่ดันใส่ดราม่าเข้ามาแทรก พอจะซึ้งๆก็ดันตลก และคิวบู๊ เลือดปลอมนี่มันแลดูแฟนตาซีเกิน ดูไม่มีคลาสไม่มีระดับเลย ดูเป็นหนังราคาถูก

สรุปเลย วัยเป้งง นักเลงขาสั้น เป็นหนังที่ไม่สมควรแม้แต่จะตีตั่วเข้าไปชมในโรง ไม่ใช่ The Best Of พจน์อานนท์แบบที่หลายๆคนอวย เพราะมันจะเป็นการสปอยล์ให้เค้าทำหนังเแบบนี้ออกมาอีก ไม่ควรอุดหนุน อยากให้หนังไทย อยากให้ผู้กำกับหนังไทย ทำหนังออกมาดีดีบ้าง ไม่ใช่สักแต่จะใส่มุขตลกลงไปเพื่อให้คนดูชอบแบบมักง่าย แล้วดูไม่มีระดับแบบนี้ ส่วนตัวไม่แนะนำให้เสียเงิน

ปล.หนุ่มๆในเรื่องมิดชิดมากกกกไม่เห็นแม้แต่ฉากกางเกงขาสั้นเข้าวิน


ฝากเพจคุยเรื่องหนังสนุกๆของผมด้วยนะครับ มีคนเขียนหลายคน

https://www.facebook.com/overhyp




แก้ไข เพิ่มเติม


ขออนุญาตชี้แจงก่อนเลยว่า ไปดูเรื่องนี้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หนังเข้าวันแรกเลย แต่ไม่ได้ตั้งใจจะดู ใจจริงอยากดูหนังซามูไรมากกว่า แต่รอบมันไม่ได้ และจะไม่ดูก็ไม่รู้จะทำอะไร เพราะฝนตกหนักมาก ก็เลยตีตั่วดูเรื่องนี้ ยอมรับว่าชอบหนังพจน์ อานนท์ เรื่อง หอแต๋วแตก มากเกือบทุกภาคยกเว้นภาคที่ตุ๊กกี้แสดง เป็นหอแต๋วแตกที่ป่วยที่สุด ตอนดูไม่คาดหวังด้วยซ้ำ กะไปนั่งดูเด็กๆ นั่งดูอะไรขำขำ แต่รู้สึกหน้าหนังมันควรจะซีเรียสกว่านี้ และมันไม่ควรแทรกมุขตลกขนาดนี้ ข้อดีมันมีบ้างคือ หนังมันเล่นใหญ่ ฉากใหญ่ โปรดักชั่นโอเคกว่าหนังไทยบางเรื่อง แต่มันเสียดายของเข้าใจปะ แบบมันควรจะดีกว่านี้ มใันควรจะจริงจังกว่านี้ มันควรจะมีคนเกลาให้คมกว่านี้ มันออกมาเละเทะมากเลยนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่