[บทความจีน] ข่าวโค้ชอ๊อด และ เฝิงคุน จากจีนค่ะ

กระทู้สนทนา
โค้ชอ๊อดลงทุนเรียนภาษาจีนเพื่อเฝิงคุน สื่อไทยกระหึ่ม 4 ธันวา แต่งงานพิธีไทย




หลังจากจบเอเชียนเกมส์อินชอนมาหมาด ๆ  ซึ่งทีมวอลเล่ย์บอลสาวไทยเอาชนะทีมญี่ปุ่น คว้าเหรียญทองแดงมาครอง ทำให้ไทยได้เหรียญแรกในประวัติศาสร์เอเชียนเกม วานนี้ วงการวอลเล่ย์ไทยก็มีข่าวดี เมื่อโค้ชอ๊อด เกียรติพงศ์ รัชตะเกรียงไกร ประกาศแต่งงาน ข่าวนี้แพร่มายังจีนอย่างรวดเร็วและได้รับความสนใจในวงกว้าง เนื่องจากโค้ชอ๊อดจะแต่งงานกับเฝิงคุน อดีตหัวหน้าผู้เล่นทีมชาติจีน

โค้ชอ๊อดลงทุนเรียนภาษาจีนเพื่อเฝิงคุน

ข่าวดีชิ้นนี้ลือมาจากเฟซบุค Thailand Volleyball ทำให้ทั้งสื่อไทยและสื่อจีนเริ่มขุดคุ้ยหาความจริง เท่าที่ทราบ ปลายปีนี้ เฝิงคุนจะแต่งงานกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเล่ย์บอลทีมชาติไทย งานมงคลจะจัดที่ประเทศไทย ซึ่งจะเป็นงานสมรสพระราชทาน ซึ่งตามประเพณีไทยแล้วถือว่าเป็นเกียรติอย่างสูง และเดือนมกราคมปีนี้ ทั้งคู่จะมาจัดงานมงคลสมรสที่ปักกิ่ง

เฝิงคุนเป็นหัวใจสำคัญของทีมจีนใน "ยุคทอง" เคยได้แชมป์เวิลด์คัพ 2003 และโอลิมปิก 2004 ได้รับการขนานนามให้เป็นมือเซตที่ดีที่สุดในโลกในยุคนั้น หลังจากลาทีมชาติแล้ว ตอนนี้ทำหน้าที่ฝึกสอนให้กับสมาคมวอลเล่ย์จีน

แต่ทว่า ชีวิตส่วนตัวของเฝิงคุนนั้น ทำให้แฟน ๆ เป็นห่วงมาก  ใน "ยุคทอง" นั้น นักกีฬาจำนวนมากได้แต่งงานออกไป แต่เฝิงคุนที่ตอนนี้อายุ 36 นั้นยังไม่ถูกใจใคร ซึ่งข่าวที่ออกมาเมื่อวานทำให้เป็นที่สนใจของคนจำนวนมาก

วงในเผยว่า ทั้งเฝิงคุนและโค้ชอ๊อดเป็นคนที่ค่อนข้างไม่สุงสิงกับใคร แต่จริง ๆ แล้วทั้งคู่คบกันได้ระยะหนึ่งแล้ว ตอนแรก ๆ การสื่อสารระหว่างเฝิงคุนกับโค้ชอ๊อดนั้นใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่เพื่อการสื่อสารที่ดียิ่งขึ้นกับเฝิงคุนและครอบครัวของเธอ รวมถึงความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน โค้ชอ๊อดลงทุนเรียนภาษาจีน ซึ่งตอนนี้โค้ชอ๊อดสามารถสนทนาพื้นฐานต่าง ๆ ได้บ้างแล้ว เฝิงคุนกล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า "โค้ชอ๊อดเป็นคนดี รักครอบครัว มีความรับผิดชอบต่อครอบครัวสูงมาก"

ถึงแม้ว่า เฝิงคุนจะเป็นที่รู้จักมากกว่าในวงการวอลเล่ย์โลก แต่จริง ๆ แล้ว โค้ชอ๊อดต่างหากที่รักและทุ่มเทกับวอลเล่ย์บอลอย่างสุดใจ ซึ่งค่อนข้างมีผลกระทบต่อเฝิงคุน เฝิงคุนนั้นหลังจากลาทีมชาติแล้วก็อยากจะเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว รวมถึงการบอกลาวงการวอลเล่ย์บอล จึงอยากจะไปยังที่อื่นเพื่อพัฒนาตัวเอง ต่อมาก็เห็น(โค้ชอ๊อด)และได้รับผลกระทบจากความทุ่มเทในวอลเล่ย์บอลของโค้ชอ๊อด ทำให้เฝิงคุนตัดสินใจกลับมาลุยงานด้านวอลเล่ย์บอลต่อไป


หลางผิงส่งคำอวยพรให้ทันที

หลังจากข่าวเฝิงคุนกับโค้ชอ๊อดแพร่กระจายไป หลางผิงซึ่งตอนนี้คุมทีมแข่งวอลเล่ย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกอยู่ก็ส่งคำอวยพรมาหา และถูกสัมภาษณ์โดยนักข่าวซินหัว เธอกล่าวว่า "ขออวยพรให้เฝิงคุนและโค้ชอ๊อดอย่างใจจริง ขอให้ทั้งคู่รักกันไปนาน ๆ   จริง ๆ ฉันรู้จักโค้ชอ๊อดมานานแล้ว ทั้งจากในสนามและงานแถลงข่าวหลังเกมก็เคยได้คุยกัน รู้สึกว่าโค้ชอ๊อดเป็นคนที่รักวอลเล่ย์บอลมาก แล้วเค้าก็ยังดูแลนักกีฬาของเขาอย่างดีด้วย หวังว่าจะดูแลเฝิงคุนของพวกเราอย่างดีต่อไปนะ"

จากที่หลางผิงพูด จริง ๆ แล้วโค้ชอ๊อดนั้นมีวาสนาและความผูกพันกับประเทศจีนไม่น้อย ตอนอยู่มัธยม เขาเคยมาเรียนวอลเล่ย์ที่ไถซาน มณฑลกวางตุ้ง หลังจากนั้นเมื่อโค้ชอ๊อดกลับไปคัดเลือกเป็นผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยนั้นก็ยังคิดถึง หวังกว๋อหย่ง ครูผู้สอนชาวจีน สไตล์การเล่นแบบ "รวดเร็วและพลิกแพลง" แบบจีนนั้นกลายเป็นแบบอย่างในการฝึกสอนทีมชาติไทย ผลจากการที่เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจทำให้ทีมชาติไทยมีผลงานที่ดีในหลายปีมานี้ รวมถึงการชนะทีมชาติจีนและได้แชมป์เอเชียในปี 2009 และ 2013 ด้วย ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเป็นบุคคลสำคัญที่พลิกวงการวอลเล่ย์บอลไทย


โค้ชอ๊อด : นำทีมออกแข่งต่างประเทศครั้งแรกก็ได้รู้จักเฝิงคุน

วานนี้ จากการรายงานของบางกอกโพสต์ ในค่ำวันจันทร์ได้มีงานเลี้ยงทีมวอลเล่ย์บอลสาวไทย โค้ชวัย 48 ปีได้ประกาศแต่งงานกับเฝิงคุนในเดือนธันวาคมนี้ โค้ชอ๊อดเปิดเผยในงานว่า เมื่อครั้งแรกที่นำทีมแข่งต่างประเทศนั้นก็ได้เริ่มรู้จัก "ว่าที่เจ้าสาวในอนาคต" แล้ว บางกอกโพสต์ยังเผยอีกว่า ทั้งคู่จะร่วมพิธีมงคลสมรสแบบไทย(พระราชทาน) ในวันที่ 4 ธันวาคม และจัดงานเลี้ยงในวันที่ 6 ธันวาคม ณ สโมสรทหารบก

โค้ชอ๊อด หรือ เกียรติพงศ์ เกิดเมื่อปี 1966 เล่นให้ทีมชาติไทยถึง 17 ปี ความฝันในระยะยาวของเขา(ในตอนนั้น)คือการเอาชนะทีมจีนและทีมญี่ปุ่น หลังจากลาทีมชาติ เขาก็ได้รับหน้าที่ให้เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 1997-2002 ซึ่งในช่วงนี้เอง เขาไปเรียนเทคนิคการสอนวอลเล่ย์บอลเพิ่มเติมที่สเปนและออสเตรเลีย

ในปี 2003 ได้ลาออกจากหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยมาเป็นหัวหน้าฝ่ายเทคนิคให้กับสมาคมวอลเล่ย์บอล และในปี 2008 ก็ได้กลับมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยอีกครั้ง

ทีมชาติไทยโดยการนำของโค้ชอ๊อดนั้นมีผลงานที่ดีอย่างต่อเนื่องจนเห็นได้ชัด สามารถต่อกรกับยักษ์ใหญ่ของเอเชียอย่างจีนและญี่ปุ่นได้อย่างสูสี ในปี 2009 โค้ชอ๊อดได้นำทีมไทยชนะทีมจีนที่นำโดยช่ายปิน และเป็นแชมป์เอเชียครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แถมยังทำให้ช่ายปินต้องลาออกจากทีมชาติอีกด้วย

และในปี 2013 โค้ชอ๊อดก็ได้นำทีมสาวไทยคว้าแชมป์อีกครั้งในบ้านตัวเอง ซึ่งพวกเขาเอาชนะทีมชาติจีนได้ในรอบรองชนะเลิศ และได้เป็นแชมป์เอเชียสมัยที่ 2

  
โจวเยว่ถิง หนังสือพิมพ์ธุรกิจเฉิงตู รายงาน
แปลไทยและเรียบเรียงโดย ทรายในขวดแก้ว (เจ้าเก่า)



ที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



ปล. จขกท ขอแสดงความยินดีกับโค้ชอ๊อดและเฝิงคุนด้วยนะคะ ขอให้รักกันไปนาน ๆ และร่วมมือกันพัฒนาวงการวอลเล่ย์บอลไทยให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ
恭喜恭喜 !
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่