ควรสมน้ำหน้าหรือสงสารดี?

กระทู้คำถาม
เราคบกับผู้ชายคนนึงได้7เดือนเเล้ว ช่วงเดือนเเรกๆ เค้าก็พาเราไปบ้านเค้า พาไปรู้จักกับครอบเค้า สรุปคือเราคบกันที่ผู้ใหญ่ฝั่งเค้ารู้เห็นมาตลอด แต่ในเรื่องการคบกัน วันๆนึงเค้าเเทบจะไม่ได้โทหาเราเลย คุยไลน์กันวันละคำสองคำ หรือถ้าจะโทมาก็ประมาณ3นาที เราทำงานออฟฟิส ส่วนเค้าธุรกิจส่วนตัวแต่ไม่ได้ยุ่งอะไรเลย ดูจากกิจกรรมที่เค้าบอกในเเต่ละวันคือ นอนดูหนัง ซ่อมรถตัวเอง ติดลำโพงรถตัวเอง
  ด้วยเราเป็นผู้หญิงก็อยากได้รับความอบอุ่นจากแฟนแบบจิงๆจังๆ แต่เราปากหนัก ไม่ว่าอะไรเค้าเลย ก็ได้เเต่รอเค้าโทมาหา ไลน์มาหา วันๆนึงเราร้องไห้เยอะมาก น้อยใจ อยากมีแฟนใหม่ อยากเลิกเพราะเค้าไม่ใส่ใจเราเลย จนผ่านไป3-4เดือน เราเริ่มเฉยๆ เริ่มชิน เริ่มกลับกันบ้างเค้าจะเป็นฝ่ายที่ตามเรา โทจิกเรา น้อยใจเรา งี่เง่าให้เรา ทั้งหมดที่เราเคยเจอกลับมาสู่เค้า เราก็รำคาญ บอกเลิกหลายครั้งๆแต่ก็ยังไม่เลิกกันสักที
เเละเราเป็นคนที่หยิ่งพอควร โทมาก็โท ไม่โทเราก็ไม่สนใจ(เดี๋ยวนี้) บางวันเค้าก็ไม่โทหาเรา ไม่รายงานเราว่าทำอะไรที่ไหน ยังไง จนเข้าเดือนที่6 เราโพสรูปเราในเฟสเค้า มีผู้หญิงมาคอมเม้นประมาณว่า
"ถ้าเรารักกันจิง ก็อย่าให้แฟนเธอไปนอนyesกับเราอีกนะ"
เราได้อ่านแทบช็อค คือผู้หญิงคนนั้นคอมเม้นใต้ภาพเราเลยนะ ประจานตัวเองเลยอะ ว่า yesกับแฟนเราเเล้ว
คนในเฟสแฟนเรานี่ด่าผู้หญิงคนนั้นจนเราอายเเทนแทบมุดดินหนี เเล้วผู้หญิงคนนั้นก็ส่งข้อความมาบอกว่า ได้กับเเฟนเราเเล้ว เเฟนเราจีบเขา ไปรับเขามานอนที่บ้านแฟน ได้กันมากี่ครั้งๆ ใส่ถุงมั้ย บอกเราหมด
เรานี่เหมือนควายเลยค่ะ มีเขายาวๆงอกออกมา เราเลยบอกเลิกเเฟนเรา แต่เเฟนเราขอโอกาสแก้ตัว เค้าร้องไห้ฟูมฟาย หลังจากนั้นประมาณอาทิตย์นึ
งเราจึงกลับไปคบกับเเฟนต่อ ตอนนี้คบคืนได้เดือนเศษๆเเล้ว เเฟนบอกว่าจะหยุดอยู่ที่เรา จะไม่ทำตัวนิสัยเหมือนเดิม เราก็เฉยๆนะ เพราะเราไม่จิงจังอะไรเเล้ว แต่เรารู้สึกว่าเค้าด่าเราง่ายมาก เดี๋ยวก็บอกว่าเบื่อเรา ว่าเราเยอะ งี่เง่า ห๊ะ เราไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ไปแสดงอะไรกับแฟนเลย เราคิดว่าแฟนต้องมีคนใหม่อีกแล้วเเน่ๆ สมหน้าเรามากที่ไปให้อภัยคนนิสัยเช่นนั้น ตอนนี้เราเสียใจค่ะ เสียความรู้สึกที่โดนหลอก เสียความรู้สึกที่โดนด่า คงต้องรอเวลาให้ลืมอะคะ เราน่าสงสารหรือน่าสมน้ำหน้าค่ะ
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่