รอยเตอร์ – กองทัพสหรัฐฯส่งเฮลิคอปเตอร์โจมตีอาปาเชเข้าถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักเป็นครั้งแรกเมื่อวันอาทิตย์(5) และส่งไปอีกครั้งในวันจันทร์(6) โดยมีกองกำลังปืนครกและหน่วยอื่นๆ ของกลุ่มไอเอสใกล้กับเมืองฟัลลูจาห์เป็นเป้าหมายหลัก โฆษกกองบัญชาการกลาง (Central Command) ซึ่งกำกับดูแลปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐในตะวันออกกลางแถลง
“นี่เป็นครั้งแรกที่มีการนำอากาศยานแบบใบพัดหมุนเข้าร่วมภารกิจสนับสนุนกองกำลังความมั่นคงอิรัก (ไอเอสเอฟ)” พันตรี เคอร์ทิส เคลล็อกก์ แถลงผ่านอีเมล์
“รัฐบาลอิรักได้ขอความช่วยเหลือดังกล่าว เพื่อผลักดันกลุ่มนักรบไอเอสใกล้ๆกับเมืองฟัลลูจาห์ให้ล่าถอยไป”
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจนี้คือรุ่น อาปาเช
คริสโตเฟอร์ ฮาร์เมอร์ อดีตนักบินของกองทัพเรือสหรัฐฯซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์ประจำสถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (Institute for the Study of War) ชี้ว่า การตัดสินใจของกองทัพจะยิ่งทำให้ทหารอเมริกันในอิรักต้องเสี่ยงอันตรายมากขึ้น
“อากาศยานแบบปีกคงที่ (fixed wing aircraft) ซึ่งบินอยู่ที่ระดับความสูง 30,000 ฟุตปลอดภัยจากอาวุธทุกชนิดที่กลุ่มไอเอสมีอยู่ แต่เฮลิคอปเตอร์ไม่ใช่... เมื่อคุณนำเฮลิคอปเตอร์ไปบินสูงจากพื้นดินแค่ราวๆ 50 เมตร แน่นอนว่าคุณอาจจะถูกฝ่ายตรงข้ามยิงด้วยจรวดอาร์พีจี ดังนั้น อันตรายย่อมมากกว่าอย่างแน่นอน”
พ.อ. สตีฟ วอร์เรน โฆษกเพนตากอน ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์อาปาเชถูกส่งไปถล่มฐานที่มั่นไอเอสใกล้เมืองฟัลลูจาห์เนื่องจากเหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่เป้าหมาย แต่ไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องนี้
ฮาร์เมอร์ ชี้ว่า เฮลิคอปเตอร์จะช่วยสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินอิรักที่ต่อสู้กับกลุ่มไอเอสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าอากาศยานชนิดปีกคงที่ เพราะสามารถบินช้าๆ และบินในระยะต่ำได้ และยังกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจนกว่าด้วย
วอร์เรน ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ ประเมินความเสี่ยงทุกครั้งก่อนจะออกคำสั่งปฏิบัติการใดๆ และการส่งเฮลิคอปเตอร์อาปาเชออกทำภารกิจครั้งนี้ก็เพราะเล็งเห็นแล้วว่าเหมาะสมต่อลักษณะพื้นที่เป้าหมาย
กองบัญชาการกลางแถลงเมื่อวันอาทิตย์(5)ว่า สหรัฐฯ ได้โจมตีเป้าหมายทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฟัลลูจาห์ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยทำลายหน่วยปืนครกของไอเอสไปได้ 2 หน่วย ฐานที่มั่นขนาดใหญ่ 1 แห่ง และขนาดเล็กอีก 2 แห่ง ต่อมาในวันจันทร์(6) ก็ได้แถลงเพิ่มเติมว่า ปฏิบัติการโจมตี 2 ครั้งในพื้นที่เดิมสามารถทำลายที่ตั้งปืนครก 2 จุด และบังเกอร์ของไอเอสอีก 1 จุด
กองทัพสหรัฐฯใช้ “ฮ.อาปาเช” ถล่ม “ไอเอส” ในอิรักเป็นครั้งแรก
“นี่เป็นครั้งแรกที่มีการนำอากาศยานแบบใบพัดหมุนเข้าร่วมภารกิจสนับสนุนกองกำลังความมั่นคงอิรัก (ไอเอสเอฟ)” พันตรี เคอร์ทิส เคลล็อกก์ แถลงผ่านอีเมล์
“รัฐบาลอิรักได้ขอความช่วยเหลือดังกล่าว เพื่อผลักดันกลุ่มนักรบไอเอสใกล้ๆกับเมืองฟัลลูจาห์ให้ล่าถอยไป”
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจนี้คือรุ่น อาปาเช
คริสโตเฟอร์ ฮาร์เมอร์ อดีตนักบินของกองทัพเรือสหรัฐฯซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิเคราะห์ประจำสถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม (Institute for the Study of War) ชี้ว่า การตัดสินใจของกองทัพจะยิ่งทำให้ทหารอเมริกันในอิรักต้องเสี่ยงอันตรายมากขึ้น
“อากาศยานแบบปีกคงที่ (fixed wing aircraft) ซึ่งบินอยู่ที่ระดับความสูง 30,000 ฟุตปลอดภัยจากอาวุธทุกชนิดที่กลุ่มไอเอสมีอยู่ แต่เฮลิคอปเตอร์ไม่ใช่... เมื่อคุณนำเฮลิคอปเตอร์ไปบินสูงจากพื้นดินแค่ราวๆ 50 เมตร แน่นอนว่าคุณอาจจะถูกฝ่ายตรงข้ามยิงด้วยจรวดอาร์พีจี ดังนั้น อันตรายย่อมมากกว่าอย่างแน่นอน”
พ.อ. สตีฟ วอร์เรน โฆษกเพนตากอน ระบุว่า เฮลิคอปเตอร์อาปาเชถูกส่งไปถล่มฐานที่มั่นไอเอสใกล้เมืองฟัลลูจาห์เนื่องจากเหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่เป้าหมาย แต่ไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ตัดสินใจเรื่องนี้
ฮาร์เมอร์ ชี้ว่า เฮลิคอปเตอร์จะช่วยสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินอิรักที่ต่อสู้กับกลุ่มไอเอสได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าอากาศยานชนิดปีกคงที่ เพราะสามารถบินช้าๆ และบินในระยะต่ำได้ และยังกำหนดเป้าหมายได้ชัดเจนกว่าด้วย
วอร์เรน ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯ ประเมินความเสี่ยงทุกครั้งก่อนจะออกคำสั่งปฏิบัติการใดๆ และการส่งเฮลิคอปเตอร์อาปาเชออกทำภารกิจครั้งนี้ก็เพราะเล็งเห็นแล้วว่าเหมาะสมต่อลักษณะพื้นที่เป้าหมาย
กองบัญชาการกลางแถลงเมื่อวันอาทิตย์(5)ว่า สหรัฐฯ ได้โจมตีเป้าหมายทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองฟัลลูจาห์ทั้งหมด 4 ครั้ง โดยทำลายหน่วยปืนครกของไอเอสไปได้ 2 หน่วย ฐานที่มั่นขนาดใหญ่ 1 แห่ง และขนาดเล็กอีก 2 แห่ง ต่อมาในวันจันทร์(6) ก็ได้แถลงเพิ่มเติมว่า ปฏิบัติการโจมตี 2 ครั้งในพื้นที่เดิมสามารถทำลายที่ตั้งปืนครก 2 จุด และบังเกอร์ของไอเอสอีก 1 จุด