แปล Attack on Titan Chapter 62 คร่าวๆ แบบ text only ค่ะ
English translation source:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://darlingpoppet.tumblr.com/post/99358761144/snk-chapter-62-translation-summary

---

มีการประกาศว่าเอลวินเป็นผู้ทำลายระบอบการปกครองของราชวงศ์ในขณะนี้
และมีการจัดเตรียมการประหารชีวิตราชวงศ์และฝ่ายบริหาร ทันทีที่ฝ่ายทหารยึดอำนาจมาได้

แซ็กเรย์ขึ้นรถม้าที่มีเอลวินอยู่ด้านใน

มีนักข่าวห้อมล้อมไนล์เพื่อสอบถามข้อมูลเรื่องเหตุจูงใจในการรัฐประหาร
ไนล์บอกว่า ฝ่ายทหารไม่ได้ต้องการอำนาจปกครอง แต่ราชวงศ์นี้ไม่ใช่ผู้สืบทอดบัลลังก์ที่แท้จริงในประวัติศาสตร์
แถมตอนนี้ก็โดนไททันโจมตีอย่างหนัก ความเป็นความตายของมนุษยชาติอาจขึ้นอยู่กับความไม่น่าเชื่อถือของกษัตริย์
ดังนั้น ฝ่ายทหารจึงต้องการคืนความเชื่อมั่นของชาวเมือง โดยการให้ราชวงศ์ที่แท้จริงขึ้นมาสืบทอดบัลลังก์
และปกป้องมนุษยชาติจากการรุกรานของไททัน

นักข่าวบอกว่า ตอนนี้ผู้คนกำลังสับสน พวกชนชั้นสูงก็ผิดหวังเรื่องผลประโยชน์ จึงควรรักษารัฐบาลเอาไว้ก่อน
แต่ในเมื่อราชวงศ์ที่แท้จริงปรากฏตัวมาแบบนี้ แล้วจะสามารถผนึกกำลังรวมกันแบบก่อนหน้านี้ได้หรือเปล่า?
...ทุกคนมีสีหน้าหนักใจ

นักข่าวถามต่อว่า สถานการณ์ตอนนี้กำลังวุ่นวาย เราชาวเมืองควรจะคาดหวังอะไร? เราควรจะเชื่อมั่นในอะไรดี?

---

แซ็กเรย์และเอลวินคุยกันบนรถม้า
เอลวินที่ดูอิดโรยก้มหน้าแล้วพูดว่า เราควรไว้วางใจให้ราชวงศ์ก่อนดูแลทุกอย่าง
เพราะถึงแม้ว่าพวกนั้นจะเลวร้ายเพียงใด แต่ก็ช่วยให้มนุษย์รอดชีวิตมาได้ยาวนานขนาดนี้
ถึงแม้ว่าเราจะต้องสูญเสียผู้คนไปกว่าครึ่ง แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้ตายไปทั้งหมด
ที่ผ่านมาเราก็ยอมให้ทหารไปเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือให้มนุษย์อยู่รอด
ทั้งเอเลน และลูกน้องคนอื่นๆ แม้แต่ชีวิตของตัวเองก็ยอมแลกได้เพื่อกษัตริย์
เพราะว่ามนุษยชาตินั้นสำคัญกว่าการรักษาชีวิตของบุคคลเพียงคนใดคนหนึ่ง

แซ็กเลย์บอกว่า เป้าหมายของเอลวินยากอีกแล้วนะ มันอาจจะง่ายกว่านี้ถ้าไม่มีเรื่องความเป็นความตาย

เอลวินถามแซ็กเรย์ว่าทำไมถึงเลือกเดินทางนี้ แซ็กเรย์ถามสวนกลับมาว่าทำไมถึงปรึกษาพิกซิส
ถ้าเอลวินอยากจะฝากเอเลนให้กับราชวงศ์แล้ววางมือจริงๆ ก็ไม่ควรไปให้พูดเรื่องใดๆ กับพิกซิส และทำให้ลูกน้องของเอลวินทำอะไรได้ไม่สะดวก

เอลวินอึ้งไปชั่วขณะ แล้วนึกย้อนกลับไปตอนที่ขอความร่วมมือจากพิกซิส และบอกฮันซี่ว่าการเจรจากับพิกซิสนั้นไม่เป็นผล

แซ็กเรย์ที่เห็นเอลวินนิ่งๆ ไป เลยถามตัวเองว่า ทำไมตัวเองถึงได้กล้าเป็นปฏิปักษ์กับราชา?
นั่นคงเพราะแต่ไหนแต่ไร แซ็กเรย์เองก็รู้สึกทนไม่ได้กับราชวงศ์นี้อยู่แล้ว

เอลวินอึ้งในสิ่งที่ได้ยิน

แซ็กเรย์พูดต่อว่า รู้สึกไม่พอใจพวกราชวงศ์เท่าไร ทั้งพวกที่เหมือนจะมียศฐาสูงส่งกับพวกที่ไม่สำคัญอะไรนั่งล้อมวงเฮฮา…
ไม่สิ ตอนนี้คงชอบพวกเขาแล้วล่ะ
ฉันเฝ้าฝันถึงวันนี้ วันที่จะได้ขึ้นมาอยู่ที่ตำแหน่งสูงสุดนี้
ฉันจะพูดว่า เตรียมตัวสำหรับการรัฐประหาร เมื่อไรก็ได้ที่ฉันต้องการ

แซ็กเรย์หัวเราะ แล้วถามเอลวินว่า เห็นหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ของพวกนั้นหรือเปล่า หน้าของพวกเสแสร้งแสดงละครตบตายิ่งกว่าละครหลังข่าว!
[แซ็กเรย์ทำหน้ายันๆ]
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า อายุปูนนี้แล้วยังขี้แยแบบนั้น เราเองก็คิดว่าวิธีจะแกล้งพวกนั้นมาเป็นสิบปีแล้ว
ถึงเอลวินจะไม่ทำ แต่ตัวเขาคงทำเองเข้าสักวัน!!
พวกนั้นงี่เง่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉันก็ไม่รู้ว่าพิกซิสทำอะไรไปบ้าง แต่มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันคงไม่ยอมยกธงขาวเอากลางทางแน่
ฉันไม่สนใจว่าการปฏิบัติในครั้งนี้จะดีหรือแย่ต่อมนุษยชาติด้วยซ้ำ ดูเหมือนตัวร้ายนะ ว่ามั้ย?
แต่เธอก็คิดเหมือนกันใช่มั้ย เอลวิน?

หลังจากนิ่งอึ้งไปนาน เอลวินก็ยอมรับว่ามันคงจะเป็นแบบนั้นแหละ

แซ็กเรย์พูดต่อว่า เราปล่อยให้คนอื่นตัดสินเส้นทางของมนุษยชาติได้ แต่มันทำใจได้ยากถ้าจะปล่อยให้คนของเราต้องตาย
เพราะฉะนั้น สิ่งที่เธอต้องการทำจริงๆ ไม่ใช่การ(ตายเพื่อ)หนีความเจ็บปวดนี้สินะ?
เธอไม่อยากจะตาย ฉันเองก็ด้วย ฉันทะเยอทะยานที่จะเป็นคนกำหนดชะตากรรมของมนุษยชาติ
แล้วเธอล่ะ อะไรเป็นแรงจูงใจของเธอกัน คราวนี้ถึงตาเธอตอบบ้างแล้วล่ะ

เอลวินตอบด้วยใบหน้านิ่งๆ ว่าตนมีความฝัน ความฝันที่มีมาตั้งแต่เด็ก
[ภาพเอลวินในห้องเรียนที่พ่อสอน]

---

ตัดฉากไปที่หลายชั่วโมงก่อน ฮันซี่และคนอื่นๆ แจกหน้าพิเศษของหนังสือพิมพ์เสร็จ และกำลังไปรวมตัวกับ มาร์โล่และลูกน้อง เพื่อไปเจอรีไว

“เอเลนจะถูกกินหรอ?”

ฮันซี่คาดเดาจากการกระทำของไรเนอร์-เบลทรูทว่า การกินเอเลนจะทำให้ได้รับพลังของไททัน

รายงานของเอลวินเกี่ยวกับตระกูล Reiss ระบุว่าตระกูลนี้มีเด็ก 5 คน รวมลูกนอกสมรส 1 คน
ฟริเอด้า (ผมดำ) ลูกสาวคนโตเป็นคนซื่อตรง ชอบเดินทางไปยังพื้นที่เพาะปลูก และชาวเมืองต่างก็รักเธอ

แต่ช่วยที่วอลล์มาเรียถูกรุกราน พวกโจรยามวิกาลก็อาศัยจังหวะชุลมุนโจมตีและปล้นโบสถ์แห่งเดียวของเมืองนี้ แล้ววางเพลิงจนเสียหาย
กล่าวกันว่าคืนนั้น ตระกูล Reiss กำลังสวดมนต์ขอพรจากจากการพังทลายของวอลล์มาเรีย และทุกคนที่อยู่ที่นั่นถูกสังหารหมู่ทั้งหมด
มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือ Rod Reiss ผู้นำครอบครัว

และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ก่อนที่แม่ของฮิสทอเรียจะถูกสังหารโดยสารวัตรทหารจากส่วนกลาง
หลังจากที่พวกนั้นเข้าใจว่า Rod Reiss มาติดต่อกับฮิสทอเรีย

ฮันซี่กังวลเกี่ยวกับโบสถ์ที่ถูกทำลายมากที่สุด
พวกโจรจำเป็นต้องทำลายอาคารสถานที่ด้วยหรอ?
แล้วทำไม Rod ถึงเป็นพยานเพียงแค่คนเดียวในเหตุการณ์นั้น?
ยิ่งไปกว่านั้น โบสถ์แห่งนั้นยังถูกบูรณะใหม่ทันทีอีกด้วย?
มันน่าแปลกถ้าจะพูดว่าไททันอาศัยอยู่ที่นี่ แปลกกว่าหากจะบอกว่าไททันไม่ได้อยู่ที่นี่เลย

รีไวเห็นด้วย แล้วบอกว่าให้รีบไปที่โบสถ์เพื่อหาเอเลน

อาร์มินคิดในใจว่า คนที่แปลงเป็นไททันได้ สามารถสืบทอดความสามารถได้ด้วยการกินไททัน…
ถ้านั่นเป็นทฎษฎีที่ถูกต้อง แล้วเอเลนเป็นไททันได้ยังไง? แล้วเอเลนกินใครถึงได้ความสามารถนั้นมา

---

เอเลนตื่นขึ้นมา ร่างกายถูกตรึงไว้ด้วยโซ่
เบื้องหน้าคือ ฮิสทอเรีย ถัดไปคือ Rod กำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกับเคนนี่และอีก 2 คน

ฮิสทอเรียเห็นเอเลนตื่นเลยร้องเรียก แล้วบอกให้อดทนอีกนิด ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง
ฮิสทอเรียอธิบายให้ฟังว่า พ่อของเธออยู่ข้างเดียวกับมนุษยชาติ แต่มีการเข้าใจผิดกันบางอย่าง
การเข้าร่วมในหน่วยสำรวจ และสังหารบาทหลวง Nick นั้น ทำไปเพราะความจำเป็น
Rod บอกว่าจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้ฟังเอง

ในขณะที่ฟังอยู่ เอเลนก็ย้อนคิดถึงตอนนั้น รวมถึงตอนที่โลงศพที่บรรจุพวกเขามาถูกเปิดออก และตอนที่ Rod เข้ามาสวมกอดฮิสทอเรีย
ตอนนั้น Rod ขอให้ฮิสทอเรียให้อภัยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งหมดก็เพื่อปกป้องฮิสทอเรีย
เขายังคิดถึงฮิสทอเรียอยู่ตลอด และฝันว่าจะได้กอดลูกแบบนี้
หลังจากได้ยินแบบนั้น ฮิสทอเรียก็ร้องไห้

เอเลนคิดในใจว่า เขาบอกอะไรกับเธอกันแน่? นี่ฉันถูกลักพาตัวแบบนี้มากี่ครั้งแล้วเนี่ย?

“!”

มีแสงอ่อนๆ ปรากฏบนผนังถ้ำ เอเลนตกใจที่รู้สึกว่าตัวเองเคยมาที่นี่มาก่อน
Rod งง แล้วบอกว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เอเลนมาที่นี่ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงมีความทรงจำแบบนั้น
เอเลนทำหน้าไม่เข้าใจ

Rod กับฮิสทอเรียมายืนด้านหลังเอเลน ฮิสทอเรียแย้งให้พ่ออธิบายให้เอเลนฟังก่อน
Rod รับปากว่าจะอธิบาย แต่มีสิ่งหนึ่งที่อยากจะทดสอบ สิ่งที่เราต้องทำก็แค่สัมผัสตัวเอเลนเท่านั้น
เขาจะต้องมีความทรงจำอยู่ภายในที่ไหนซักแห่ง
ถ้าเป็นเช่นนั้น บางทีเขาอาจจะจำได้… ไหนๆ เราก็มาอยู่ที่นี่แล้ว เราน่าจะทำอะไรได้บ้าง

ทั้งสองคนลูบไล้สัมผัสแผ่นหลังของเอเลน

เอเลนสัมผัสได้ถึงความทรงจำมากมาย
แต่เอเลนสับสนว่าความทรงจำเหล่านี้ ไม่ใช่ของเขา
เขาเข้าไปยังใต้ดินของโบสถ์ ที่ตระกูล Reiss มารวมตัวกัน

มีไททันเพศหญิงกำลังดิ้นรน
มีการต่อสู้กันด้วยมือเปล่ากับไททันตนนั้น

[Titanstoria ค่ะ คุณขา]

การโจมตีตระกูล Reiss และวิ่งหนี?
โบสถ์ในกองเพลิง
มีผู้ใหญ่กำลังฉุดดึงมือของเขา
มีคนให้กุญแจกับเอเลน เอเลนที่กำลังร้องไห้ในขณะที่ถูกฉีดยา
เอเลนในร่างไททันกำลังโจมตี
เอเลนร้องไห้ และกรีดร้องเรียกร่างไร้วิญญาณของพ่อ

Rod ถามเอเลนว่าจำได้รึยัง บาปของพ่อของเธอหนะ?

จบตอนด้วยเอเลนทำหน้าช็อคๆ


*แก้คำผิดและแปลผิดค่ะ ขอโทษที่แปลงงๆ คนแปลก็งงเหมือนกัน /กราบ