ข้อมูลจากเว็บต้องห้าม, ข่าวหลุดจากเซลส์มาลงใน pantip
พอจะชี้ชัดได้ว่า Mazda 2 Skyactiv D ที่ใช้เครื่องดีเซล 1.5 ลิตร 105 แรงม้า เท่าเครื่องเบนซิน 1.5 ทั่วไป
แต่แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ระดับเดียวกับเครื่องเบนซิน 2.5 ใน d segment ความประหยัดระดับ 20 กม./ลิตร-30 กม./ลิตร
หรือแปลไทยเป็นไทยว่า หากเหยียบแบบทั่วๆ ไป น่าจะได้ 20 บวก/ลบ ถ้าเท้าเบามากอาจเข้าไปใกล้ตัวเลขที่ 30 กม./ลิตร
แน่นอนตอนนี้ Mazda Thailand น่าจะผลิตรุ่น Skyactiv D ในโรงงานได้แล้ว เพราะผ่านการ trial ทดลองประกอบมาแล้วทั้งปี
เพื่อที่จะเตรียมเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้ คงไม่ใช่ว่าจะตัดสินใจว่าจะผลิตหรือไม่ผลิต เพราะมันต้องตัดสินใจไปแล้วตั้งแต่
ปีสองปีที่แล้ว เพราะการเตรียม tooling ในการผลิต part และการทดลองประกอบรถ trial ต้องใช้เวลาทั้งหมดก่อนเปิดตัวเป็นปี
เหลือเพียงแค่การตัดสินใจว่าจะขายหรือไม่ขายในไทย!
จริงอยู่ว่า มันมีข่าวที่หลุดออกมาจากเซลส์ที่บอกว่าประชุมกับมาสด้ามาแล้ว ขายแน่นอน จองได้เลย โน่นนี่นั่น
แต่ท้ายที่สุด โค้งสุดท้าย มันก็ยังไม่แน่ไม่นอนอยู่ดี เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจบ้านเรามันย่ำแย่ขนาดนี้ การตัดสินใจ
จึงต้องทำอย่างระมัดระวังอย่างที่สุด
ที่จริง มันเดาไม่ยากหากมี Skyactiv ที่ผลิตในไทยมีแค่รุ่นดีเซล 1.5 กับเบนซิน 1.3 ตามแบบญี่ปุ่น
แต่ที่ไหนได้ เวอร์ชั่นส่งออกไปอินโด กลับมีสเป็คออกมาแล้วว่า บ้านเราก็ผลิตเครื่อง 1.5 เบนซินขายอีกด้วย
นั่นก็คือเครื่อง Skyactiv G กำลัง 115 PS แรงบิด 148 Nm ซึ่งเบนซินพิกัดนี้เป็นพิกัดพิมพ์นิยมของ B segment ในบ้านเรา
แล้วหากเปิดตัวในไทย Mazda จะเสี่ยง ลงเครื่องดีเซล 1.5 มาขายแบบแหวกแนวเลยงั้นหรือ????
ถ้าใช่ นี่จะเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญชาญชัยที่สุดอีกครั้งนึงสำหรับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ที่นานทีจะมีสักครั้ง หรือเปล่า??
และจากการมโน+การคาดการณ์ เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ตัวนี้ อาจเป็นการนำเข้ามาจากญี่ปุ่นอีกทีด้วยซ้ำ
ตำรับเดียวกับ Nissan Pulsar 1.6 DIG turbo ที่ต้องนำเข้าเครื่องจากญี่ปุ่น เพื่อมาประกอบส่งขายให้กับ
ประเทศเศรษฐกิจดีๆ ที่นำเข้ารถไปจากบ้านเรา อย่างออสซี่เป็นต้น เช่นกัน Mazda 2 Skyactiv D ก็คงมาเพื่อการนั้น
แล้วสำหรับประเทศไทยล่ะ ก็เห็นๆ อยู่ว่าเศรษฐกิจก็แย่ ยอดขายรถฝืดมากๆ การตั้งราคารถสเป็คเทพเหล่านี้
ไม่สามารถตั้งได้สูงมากไม่งั้นขายไม่ออก แบบ Pulsar turbo แล้ว Mazda Thai จะสามารถเคาะราคา
Mazda 2 Skyactiv D ออกมาได้โดนใจคนหมู่มากที่ตอนนี้กำลังจนโดยไม่กรีดเนื้อตัวเองเลยงั้นหรือ ?
อยู่ดีๆ แกว่งเท้าหาเรื่องขาดทุนรึเปล่า ? ดูอย่าง Fiesta Ecoboost สิ สเป็คเทพ ราคาแพงกว่ารถ b segment
1.5 ดาษๆ แค่ไม่กี่หมื่น ยอดขายยังดูเงียบมากๆ
ในเมื่อมี Skyactiv G 1.5 สเป็คบนกระดาษก็ดูไม่ขี้เหร่ จะเสี่ยงขายของแพงไปทำไม
จัดสเป็คให้ดีๆ ตั้งราคาเกาะกลุ่ม b car 1.5 ลิตร รุ่นอื่นๆ ไว้ แล้วอาจจะมีรุ่น 1.3 เน้นประหยัด
ราคาทับกลุ่ม eco car แย่งยอดมาเล่นๆ ก็ยังทำได้
แต่............
ถ้ามองที่ตัวรถ ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ จุดขายต้องแข็งมากๆ ถึงจะขายได้
Mazda 2 ใหม่ มันมีอะไรจูงใจให้คนในวงกว้างซื้อล่ะ นอกจากความสวย ซึ่งเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล
มีอะไรให้จูงใจให้ซื้อบ้าง ซึ่งรถในระดับ B car 1.5 คือรถสำหรับ mass มวลชนในเมืองไทย
ต้องมีจุดเด่นรอบด้าน ทั้งความคุ้มค่า ซึ่งก็หมายรวมไปถึง นั่งต้องสบาย option ต้องครบ
เครื่องดี เกียร์ดี ช่วงล่างพอใช้ ข้อดีของ Mazda 2 อาจจะอยู่ในลำดับความสำคัญท้ายๆ ของคนในตลาดกลุ่มนี้
ด้วยซ้ำ ไม่เหมือน Mazda 3 ซึ่งข้อดีมันตรงกับกลุ่มตลาด ซึ่ง up class ไปอีกนิด ไม่ได้เป็นมวลชนมากนัก
Skyactiv D มีดีในเรื่องของความประหยัดมหาศาล จุดนี้สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของ
ความคุ้มค่า ซึ่งเป็นความสำคัญอันดับต้นๆ ของรถใน segment นี้ได้อยู่ แต่ราคาต้องไม่แพงนะ
เอาล่ะ มันอยู่ที่ว่า Mazda มองแล้วว่า ไหนๆ ภาวะตลาดในตอนนี้ ยังไงๆ ไม่กี่เดือนหลังเปิดตัวก็ต้อง
ลดแลกแจกแถม อัดแคมเปญอยู่แล้ว ทำไมไม่หั่นราคา Skyactiv D ให้เข้าถึงในวงกว้างได้ตั้งแต่ต้นเลยล่ะ?
ถ้ามีวิธีคิดแบบนี้ ก็ฟังดูไม่เลวเหมือนกันนะ...!
เพราะหัวใจสำหรับจุดขายของ Mazda 2 ในรุ่นนี้ ก็คือเครื่อง Skyactiv D นี่แหล่ะ! มันชี้ชัดตั้งแต่
มันเปิดตัวในญี่ปุ่นแล้ว ด้วยคุณค่าของรุ่นนี้ มันจะต้องขายดีที่สุด เพราะมันทั้งประหยัดมาก และมีสมรรถนะที่สูง
ต้องจับตามองกันแล้วล่ะว่า Mazda Thailand จะตัดสินใจในโค้งสุดท้ายว่าอย่างไร!
อาจจะสงสัยทำไมอินโดถึงได้ Skyactiv G 1.5 ตัวเดียว คำตอบง่ายๆ ก็คือ มันไม่ใช่ตลาดที่คาดหมาย
สำหรับยอดขายของ Mazda 2 อยู่แล้ว การที่ส่งขายไป ก็เพื่อให้โรงงานได้มียอดผลิตเพิ่มขึ้น ในตลาด
อาเซียนทั้งหมดก็คงจะเหมือนๆ กัน ผลิตเพื่อให้ไปถึงจุดคุ้มทุน ส่วน Skyactiv D มีไว้สำหรับตลาด
ระดับสูง ที่มีการแข่งขันในเรื่องสมรรถนะ และความโดดเด่นในตัวรถ... แต่อย่างไทย เราจะได้หรือไม่ได้ล่ะ
คิดว่า Mazda จะขายหรือไม่ขายครับ ?
*** ปิดโหวต วันที่ 07 ตุลาคม พ.ศ.2557 เวลา 21:59:56 น.
คิดว่า MAZDA 2 SKYACTIV สุดท้ายมาสด้าจะตัดสินใจเครื่องดีเซล 1.5 105 PS 250 Nm ขายในไทยหรือไม่?
พอจะชี้ชัดได้ว่า Mazda 2 Skyactiv D ที่ใช้เครื่องดีเซล 1.5 ลิตร 105 แรงม้า เท่าเครื่องเบนซิน 1.5 ทั่วไป
แต่แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร ระดับเดียวกับเครื่องเบนซิน 2.5 ใน d segment ความประหยัดระดับ 20 กม./ลิตร-30 กม./ลิตร
หรือแปลไทยเป็นไทยว่า หากเหยียบแบบทั่วๆ ไป น่าจะได้ 20 บวก/ลบ ถ้าเท้าเบามากอาจเข้าไปใกล้ตัวเลขที่ 30 กม./ลิตร
แน่นอนตอนนี้ Mazda Thailand น่าจะผลิตรุ่น Skyactiv D ในโรงงานได้แล้ว เพราะผ่านการ trial ทดลองประกอบมาแล้วทั้งปี
เพื่อที่จะเตรียมเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนนี้ คงไม่ใช่ว่าจะตัดสินใจว่าจะผลิตหรือไม่ผลิต เพราะมันต้องตัดสินใจไปแล้วตั้งแต่
ปีสองปีที่แล้ว เพราะการเตรียม tooling ในการผลิต part และการทดลองประกอบรถ trial ต้องใช้เวลาทั้งหมดก่อนเปิดตัวเป็นปี
เหลือเพียงแค่การตัดสินใจว่าจะขายหรือไม่ขายในไทย!
จริงอยู่ว่า มันมีข่าวที่หลุดออกมาจากเซลส์ที่บอกว่าประชุมกับมาสด้ามาแล้ว ขายแน่นอน จองได้เลย โน่นนี่นั่น
แต่ท้ายที่สุด โค้งสุดท้าย มันก็ยังไม่แน่ไม่นอนอยู่ดี เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจบ้านเรามันย่ำแย่ขนาดนี้ การตัดสินใจ
จึงต้องทำอย่างระมัดระวังอย่างที่สุด
ที่จริง มันเดาไม่ยากหากมี Skyactiv ที่ผลิตในไทยมีแค่รุ่นดีเซล 1.5 กับเบนซิน 1.3 ตามแบบญี่ปุ่น
แต่ที่ไหนได้ เวอร์ชั่นส่งออกไปอินโด กลับมีสเป็คออกมาแล้วว่า บ้านเราก็ผลิตเครื่อง 1.5 เบนซินขายอีกด้วย
นั่นก็คือเครื่อง Skyactiv G กำลัง 115 PS แรงบิด 148 Nm ซึ่งเบนซินพิกัดนี้เป็นพิกัดพิมพ์นิยมของ B segment ในบ้านเรา
แล้วหากเปิดตัวในไทย Mazda จะเสี่ยง ลงเครื่องดีเซล 1.5 มาขายแบบแหวกแนวเลยงั้นหรือ????
ถ้าใช่ นี่จะเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญชาญชัยที่สุดอีกครั้งนึงสำหรับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ที่นานทีจะมีสักครั้ง หรือเปล่า??
และจากการมโน+การคาดการณ์ เครื่องยนต์ดีเซล 1.5 ตัวนี้ อาจเป็นการนำเข้ามาจากญี่ปุ่นอีกทีด้วยซ้ำ
ตำรับเดียวกับ Nissan Pulsar 1.6 DIG turbo ที่ต้องนำเข้าเครื่องจากญี่ปุ่น เพื่อมาประกอบส่งขายให้กับ
ประเทศเศรษฐกิจดีๆ ที่นำเข้ารถไปจากบ้านเรา อย่างออสซี่เป็นต้น เช่นกัน Mazda 2 Skyactiv D ก็คงมาเพื่อการนั้น
แล้วสำหรับประเทศไทยล่ะ ก็เห็นๆ อยู่ว่าเศรษฐกิจก็แย่ ยอดขายรถฝืดมากๆ การตั้งราคารถสเป็คเทพเหล่านี้
ไม่สามารถตั้งได้สูงมากไม่งั้นขายไม่ออก แบบ Pulsar turbo แล้ว Mazda Thai จะสามารถเคาะราคา
Mazda 2 Skyactiv D ออกมาได้โดนใจคนหมู่มากที่ตอนนี้กำลังจนโดยไม่กรีดเนื้อตัวเองเลยงั้นหรือ ?
อยู่ดีๆ แกว่งเท้าหาเรื่องขาดทุนรึเปล่า ? ดูอย่าง Fiesta Ecoboost สิ สเป็คเทพ ราคาแพงกว่ารถ b segment
1.5 ดาษๆ แค่ไม่กี่หมื่น ยอดขายยังดูเงียบมากๆ
ในเมื่อมี Skyactiv G 1.5 สเป็คบนกระดาษก็ดูไม่ขี้เหร่ จะเสี่ยงขายของแพงไปทำไม
จัดสเป็คให้ดีๆ ตั้งราคาเกาะกลุ่ม b car 1.5 ลิตร รุ่นอื่นๆ ไว้ แล้วอาจจะมีรุ่น 1.3 เน้นประหยัด
ราคาทับกลุ่ม eco car แย่งยอดมาเล่นๆ ก็ยังทำได้
แต่............
ถ้ามองที่ตัวรถ ในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ จุดขายต้องแข็งมากๆ ถึงจะขายได้
Mazda 2 ใหม่ มันมีอะไรจูงใจให้คนในวงกว้างซื้อล่ะ นอกจากความสวย ซึ่งเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล
มีอะไรให้จูงใจให้ซื้อบ้าง ซึ่งรถในระดับ B car 1.5 คือรถสำหรับ mass มวลชนในเมืองไทย
ต้องมีจุดเด่นรอบด้าน ทั้งความคุ้มค่า ซึ่งก็หมายรวมไปถึง นั่งต้องสบาย option ต้องครบ
เครื่องดี เกียร์ดี ช่วงล่างพอใช้ ข้อดีของ Mazda 2 อาจจะอยู่ในลำดับความสำคัญท้ายๆ ของคนในตลาดกลุ่มนี้
ด้วยซ้ำ ไม่เหมือน Mazda 3 ซึ่งข้อดีมันตรงกับกลุ่มตลาด ซึ่ง up class ไปอีกนิด ไม่ได้เป็นมวลชนมากนัก
Skyactiv D มีดีในเรื่องของความประหยัดมหาศาล จุดนี้สามารถตอบโจทย์ในเรื่องของ
ความคุ้มค่า ซึ่งเป็นความสำคัญอันดับต้นๆ ของรถใน segment นี้ได้อยู่ แต่ราคาต้องไม่แพงนะ
เอาล่ะ มันอยู่ที่ว่า Mazda มองแล้วว่า ไหนๆ ภาวะตลาดในตอนนี้ ยังไงๆ ไม่กี่เดือนหลังเปิดตัวก็ต้อง
ลดแลกแจกแถม อัดแคมเปญอยู่แล้ว ทำไมไม่หั่นราคา Skyactiv D ให้เข้าถึงในวงกว้างได้ตั้งแต่ต้นเลยล่ะ?
ถ้ามีวิธีคิดแบบนี้ ก็ฟังดูไม่เลวเหมือนกันนะ...!
เพราะหัวใจสำหรับจุดขายของ Mazda 2 ในรุ่นนี้ ก็คือเครื่อง Skyactiv D นี่แหล่ะ! มันชี้ชัดตั้งแต่
มันเปิดตัวในญี่ปุ่นแล้ว ด้วยคุณค่าของรุ่นนี้ มันจะต้องขายดีที่สุด เพราะมันทั้งประหยัดมาก และมีสมรรถนะที่สูง
ต้องจับตามองกันแล้วล่ะว่า Mazda Thailand จะตัดสินใจในโค้งสุดท้ายว่าอย่างไร!
อาจจะสงสัยทำไมอินโดถึงได้ Skyactiv G 1.5 ตัวเดียว คำตอบง่ายๆ ก็คือ มันไม่ใช่ตลาดที่คาดหมาย
สำหรับยอดขายของ Mazda 2 อยู่แล้ว การที่ส่งขายไป ก็เพื่อให้โรงงานได้มียอดผลิตเพิ่มขึ้น ในตลาด
อาเซียนทั้งหมดก็คงจะเหมือนๆ กัน ผลิตเพื่อให้ไปถึงจุดคุ้มทุน ส่วน Skyactiv D มีไว้สำหรับตลาด
ระดับสูง ที่มีการแข่งขันในเรื่องสมรรถนะ และความโดดเด่นในตัวรถ... แต่อย่างไทย เราจะได้หรือไม่ได้ล่ะ
คิดว่า Mazda จะขายหรือไม่ขายครับ ?