ซิ่งกระบะ พลาดอัดท้ายพ่วงติดคาซาก ดับ1 สุดสยอง สาหัส1 ถนนรังสิต-ปทุมธานี

ซิ่งกระบะพลาดอัดท้ายพ่วงติดคาซากสุดสยอง



เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ต.วุฒิ พระเดชวงษ์ สารวัตรเวร สภ.ปากคลองรังสิต ว่าเมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนท้ายรถบรรทุกพ่วง มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่ภายในยานพาหนะ ที่ถนนรังสิต-ปทุมธานี มุ่งหน้ารังสิต ตรงข้ามปั๊มน้ำมันปตท.แยกไฟแดงแฟลตปลาทอง ต.บางพูน  อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี จึงรีบไปสอบ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สนับสนุนอุปกรณ์ตัดถ่าง และ รถกู้ชีพโรงพยาบาลกรุงสยามเซ็นคารอส

ในที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเกาะกลางถนน พบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุรุ่นดีแมกซ์สีบรอนด์ทอง ลักษณะแต่งซิ่ง หมายเลขทะเบียนบฉ-2718 ปทุมธานี สภาพพังยับเยิน จอดอยู่เกาะกลางถนนภายในห้องโดยสารพบร่าง นายสุริโย  ไกรยา อายุ 32 ปี ชาวจ.ปทุมธานี เจ้าของธุรกิจร้านตัดแว่นสายตาชื่อดังในพื้นที่รังสิต ซึ่งเป็นคนขับรถคันดังกล่าว ได้รับบาเจ็บสาหัส มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศรีษะ ร่างยังติดอยู่ภายในรถ และในส่วนของเบาะหน้า นั่งข้างคนขับ เจ้าหน้าที่พบศพ นายอุทัย  บุญศักดิ์ อายุ 39 ปี ชาวกรุงเทพฯ ถูกอัดก๊อปปี้ติดอยู่กับคอนโซนด้านหน้า เจ้าหน้าที่ต้องใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง ให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมนำศพผู้เสียชีวิตส่งร.พ.ปทุมธานี

ห่างกันช่องทางด้านซ้ายสุดพบรถบรรทุกพ่วง18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุสีขาวของท่าทรายสิริบุตร หมายเลขทะเบียนหัวพ่วง 81-8179 กาญจนบุรี หางพ่วงหมายเลขทะเบียน 81-9001 กาญจนบุรี จอดอยู่ในช่องทางเดินรถซ้ายสุดโดยที่หลังท้ายพ่วงมีร่องรอยการชนจนเพลาหลังหักพังยับเยิน

จากการสอบสวน นายน้ำเพชร จันทร์ที อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 169 หมู่ที่1 ต.หนองบังใต้ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู คนขับรถพ่วงให้การว่า ขณะที่กำลังขับรถออกมาจาก แยกไฟแดงแฟลตปลาทอง มุ่งหน้าเข้ารังสิต จู่ ๆ ก็มีรถกระบะคู่กรณีเข้ามาชนบริเวณด้านท้ายรถอย่างแรง ก่อนที่ตัวรถจะหมุนเคว้งไปอยู่ที่เกาะกลาถนน

ด้าน พ.ต.ต.วุฒิ เปิดเผยว่า มีพยานผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งให้การว่า รถยนต์ของผู้ตายแข่งมากับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเก๋งสีขาวอีกคันหนึ่ง โดยที่รถยนต์ของผู้ตายวิ่งมาช่องทางด้านซ้าย ก่อนที่จะมาชนเข้ากับท้ายรถพ่วง ที่เพิ่งขยับตัวออกจากสัญญาณไฟแดงได้เพียงเล็กน้อย จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนข้อเท็จจริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.

              

http://www.dailynews.co.th/Content/regional/271806
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่