พึ่งแต่งงานกับสามีเมื่อต้นปีที่ผ่านมาค่ะ ยอมจบชีวิตสาวแบงค์ใจกลางกรุงเทพ ย้ายตามสามีชาวญี่ปุ่นมาอยู่บ้านเขาเมืองเขา แน่นอนค่ะว่าตอนนี้เป็นแม่บ้านเต็มตัวเพลนจะมีน้องในปีหน้า ช่วงนี้เลยลงเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง ( ปกติใช้ภาษาอังกฤษกะคุณสามีตลอดภาษาญี่ปุ่นเลยเป็น 0 )
สามีเป็นลูกคนเดียวถ้วนคะ ก่อนแต่งงานพ่อแม่สามีเข้าอกเข้าใจเรื่องสะใภ้ต่างชาติเป็นอย่างดี งานแต่งที่ไทยและที่นี่ครอบครัวมากันพร้อมหน้า
ดิชั้นเคยอ่านหลายๆกระทู้เกี่ยวกับแม่สามีญี่ปุ่นไม่ชอบสาวไทย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังเลยที่ครอบครัวสามีค่อนข้างเข้าใจ
แต่พอย้ายมาอยู่จริงจังกลับมีเรื่องทำให้เหนื่อยใจ ต้องบอกก่อนนะค่ะว่าเราอยู่กันคนล่ะเมืองกับพ่อแม่สามี เราอยู่โอซาก้า ส่วนพ่อแม่สามีอยู่โตเกียว
ปกติแม่สามีจะมาหาลูกชายเขา 2-3 เดือนครั้ง แต่ปรากฎว่าหลังจากเราย้ายมาอยู่กะสามี แม่สามีมาหาเดือนล่ะ 2ครั้ง บางครั้งนึกอยากมานางก็มา
มาถึงก็จัดการทุกสิ่งอย่างในบ้าน หาว่าเก็บของไม่เป็นที่เป็นทาง คือแบบบางครั้งนางมาจัวหวะที่เราพึ่งกลับมาจากโรงเรียนและแวะซื้อของ พึ่งเข้าบ้านไม่ถึง5นาที
คุณแม่มาถึงพอดี คือดิชั้นยังไม่ได้เก็บค่ะ ไม่ใช่เก็บไม่เป็นที่ แต่ด้วยอุปสรรคทางภาษาฟังออกบ้างไม่ออกบ้างก็ยิ้มๆไป
เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อแม่สามีมาถึงจะต้องไปซักผ้า ซึ่งบางครั้งในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ 2ชิ้น นางไม่สนกดปุ่มสตาร์ททันที คำถามคือจะรีบซักทำไม.....ปวดหัวมาก แถวบ้านเรียกเปลืองแบบไร้สาระมาก พอถามนางก็บอกว่าล่ะจะหมกผ้าไว้นานๆหลายๆวันทำไมสกปรก โอ๊ยยยยย ผ้า 2ชิ้น ทำไมแม่ไม่คิดว่าหนูพึ่งซักเมื่อวาน
เมื่อเดือนที่แล้วอยู่ๆก็โทรมาบอกว่าแม่ติดต่อบริษัททำความสะอาดให้ล่ะนะ เขาจะมาทำความสะอาดให้อาทิตย์ล่ะ 2วัน ค่าจ้างถูกมากเพราะเราบอกไปว่าจะทำสัญญาหลายเดือน
เราก็แบบ งง...... จริงๆเราเป็นคนรักสะอาดนะ บ้านเราไม่สกปรกนะ ทำกับข้าวเสร็จขัดล้างทุกสิ่งอย่างตลอดเพราะส่วนตัวไม่ชอบครัวรกๆมันๆ
เราก็บอกสามีไปว่าเราไม่เอานะ ไม่ต้องจ้างใครมา เราทำเองได้ อีกอย่างบ้านก็ยังต้องผ่อนอีก 7ปี ไม่อยากมานั่งเสียตังค์จุกจิก. สามีก็เห็นด้วยว่าถ้ายูไม่เหนื่อยเด๋วไอคุยกะแม่เอง
สามีคุยเสร็จเครียดดดดดด. สามีบอกว่า
อนหาว่าไม่เชื่อ แม่ไม่ได้อยากยุ่งนะ แต่แม่กลัวเหนื่อยอีกอย่างอยากให้มีหลานเร็วๆ ( เออ.... ถ้าแม่อยากมีหลานเร็วๆแม่ควรเลิกมาเยี่ยมหนูเดือนล่ะหลายๆครั้งนะค่ะ หนูจะได้มีเวลาแบบสามีภรรยากัน ). ยังไม่พอมีบอกอีกว่าแม่จะจ่ายค่าบ้านส่วนที่เหลือเองลูกจะได้ไม่ต้องมานั่งผ่อน เรากะสามีก็ปฎิเสธหัวชนฝา ไม่เด็ดขาด แม่ก็ว่าเงินเก็บก็มีกันนี่น่าถ้าเกรงใจแม่ก็จ่ายกันเองก็ได้จ่ายไปซะให้จบๆ คือว่าใช่ค่ะ จ่ายได้เงินก้อนแต่เราเองก็ต้องมีเงินเก็บป่ะแบบว่า just in case อะไรอย่างงี้ แล้วเราค่อยๆผ่อนไปเดือนหนึ่งแสนต้นๆมันโอเคแล้ว เราอยู่กันแบบสบายใจ ไม่เดือดร้อน ไม่รีบ เพียงแต่ไม่เห็นประโยชน์อันใดจากจากจ้างhome keeper ปกติที่เขาจ้างๆกันมาสำหรับคนแก่ที่อยู่บ้านคนเดียวทำไม่ไหวมากกว่า แต่เราพึ่ง 32 เอง
เรื่องนี้ใช้เวลาอธิบายกันไปเกือบ 1อาทิตย์ สุดท้ายพ่อสามีต้องมาไกล่เกลี่ยให้ ( พ่อสามีค่อนข้างห่วงเรามาก แกพูดภาษาอังกฤษได้ เราเลยได้คุยหลายๆเรื่องกะท่าน เราก็บอกทุกอย่างไปตรงๆ ว่าเข้าใจแม่นะเขาก็คงเป็นห่วง แต่บางครั้งหนูก็ยอมรับว่าหนูอึดอัด หลายครั้งทะเลาะกะสามีด้วยเรื่องแบบนี้ เราไม่สะบายใจสักเท่าไหร่. เพราะรู้ว่าสามีทำงานเหนื่อยมากไม่อยากให้เครียดเรื่องนี้อีก. พ่อแกก็อาสาจัดการให้ )
ทุกอย่างดูสงบดีจนกระทั้งเมื่อคืน แม่สามีโทรมาว่า อาทิตย์หน้าแกว่าง จะมาเยี่ยมสัก 1 อาทิตย์ แล้วมีแขวะเราอีก นี่โทรมาบอกล่วงหน้าล่ะนะ จัดการบ้านช่องให้สะอาดล่ะ งี้!!!!
ตอนนี้เริ่มไม่มีความสุขในชีวิตล่ะ ปกติรักและเคารพแม่สามีมาก แต่ตอนนี้มันเหนื่อย สับสน เบื่อ ไม่อยากเจอ ไม่อยากคุย ไม่อยากยุ่งเกี่ยว แต่อีกใจหนึ่งก็ห่วงความรู้สึกของสามีเหมือนกันไม่อยากเหวี่ยง ไม่อยากทะเลาะ
พยายามที่จะคิดในแง่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรอีก ท้อมากมายเลยค่ะตอนนี้ ทำไงดีน้อ. ??????
เหนื่อยใจกับแม่สามีจริงๆจังๆ
สามีเป็นลูกคนเดียวถ้วนคะ ก่อนแต่งงานพ่อแม่สามีเข้าอกเข้าใจเรื่องสะใภ้ต่างชาติเป็นอย่างดี งานแต่งที่ไทยและที่นี่ครอบครัวมากันพร้อมหน้า
ดิชั้นเคยอ่านหลายๆกระทู้เกี่ยวกับแม่สามีญี่ปุ่นไม่ชอบสาวไทย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังเลยที่ครอบครัวสามีค่อนข้างเข้าใจ
แต่พอย้ายมาอยู่จริงจังกลับมีเรื่องทำให้เหนื่อยใจ ต้องบอกก่อนนะค่ะว่าเราอยู่กันคนล่ะเมืองกับพ่อแม่สามี เราอยู่โอซาก้า ส่วนพ่อแม่สามีอยู่โตเกียว
ปกติแม่สามีจะมาหาลูกชายเขา 2-3 เดือนครั้ง แต่ปรากฎว่าหลังจากเราย้ายมาอยู่กะสามี แม่สามีมาหาเดือนล่ะ 2ครั้ง บางครั้งนึกอยากมานางก็มา
มาถึงก็จัดการทุกสิ่งอย่างในบ้าน หาว่าเก็บของไม่เป็นที่เป็นทาง คือแบบบางครั้งนางมาจัวหวะที่เราพึ่งกลับมาจากโรงเรียนและแวะซื้อของ พึ่งเข้าบ้านไม่ถึง5นาที
คุณแม่มาถึงพอดี คือดิชั้นยังไม่ได้เก็บค่ะ ไม่ใช่เก็บไม่เป็นที่ แต่ด้วยอุปสรรคทางภาษาฟังออกบ้างไม่ออกบ้างก็ยิ้มๆไป
เหนือสิ่งอื่นใดเมื่อแม่สามีมาถึงจะต้องไปซักผ้า ซึ่งบางครั้งในนั้นมีเสื้อผ้าอยู่ 2ชิ้น นางไม่สนกดปุ่มสตาร์ททันที คำถามคือจะรีบซักทำไม.....ปวดหัวมาก แถวบ้านเรียกเปลืองแบบไร้สาระมาก พอถามนางก็บอกว่าล่ะจะหมกผ้าไว้นานๆหลายๆวันทำไมสกปรก โอ๊ยยยยย ผ้า 2ชิ้น ทำไมแม่ไม่คิดว่าหนูพึ่งซักเมื่อวาน
เมื่อเดือนที่แล้วอยู่ๆก็โทรมาบอกว่าแม่ติดต่อบริษัททำความสะอาดให้ล่ะนะ เขาจะมาทำความสะอาดให้อาทิตย์ล่ะ 2วัน ค่าจ้างถูกมากเพราะเราบอกไปว่าจะทำสัญญาหลายเดือน
เราก็แบบ งง...... จริงๆเราเป็นคนรักสะอาดนะ บ้านเราไม่สกปรกนะ ทำกับข้าวเสร็จขัดล้างทุกสิ่งอย่างตลอดเพราะส่วนตัวไม่ชอบครัวรกๆมันๆ
เราก็บอกสามีไปว่าเราไม่เอานะ ไม่ต้องจ้างใครมา เราทำเองได้ อีกอย่างบ้านก็ยังต้องผ่อนอีก 7ปี ไม่อยากมานั่งเสียตังค์จุกจิก. สามีก็เห็นด้วยว่าถ้ายูไม่เหนื่อยเด๋วไอคุยกะแม่เอง
สามีคุยเสร็จเครียดดดดดด. สามีบอกว่าอนหาว่าไม่เชื่อ แม่ไม่ได้อยากยุ่งนะ แต่แม่กลัวเหนื่อยอีกอย่างอยากให้มีหลานเร็วๆ ( เออ.... ถ้าแม่อยากมีหลานเร็วๆแม่ควรเลิกมาเยี่ยมหนูเดือนล่ะหลายๆครั้งนะค่ะ หนูจะได้มีเวลาแบบสามีภรรยากัน ). ยังไม่พอมีบอกอีกว่าแม่จะจ่ายค่าบ้านส่วนที่เหลือเองลูกจะได้ไม่ต้องมานั่งผ่อน เรากะสามีก็ปฎิเสธหัวชนฝา ไม่เด็ดขาด แม่ก็ว่าเงินเก็บก็มีกันนี่น่าถ้าเกรงใจแม่ก็จ่ายกันเองก็ได้จ่ายไปซะให้จบๆ คือว่าใช่ค่ะ จ่ายได้เงินก้อนแต่เราเองก็ต้องมีเงินเก็บป่ะแบบว่า just in case อะไรอย่างงี้ แล้วเราค่อยๆผ่อนไปเดือนหนึ่งแสนต้นๆมันโอเคแล้ว เราอยู่กันแบบสบายใจ ไม่เดือดร้อน ไม่รีบ เพียงแต่ไม่เห็นประโยชน์อันใดจากจากจ้างhome keeper ปกติที่เขาจ้างๆกันมาสำหรับคนแก่ที่อยู่บ้านคนเดียวทำไม่ไหวมากกว่า แต่เราพึ่ง 32 เอง
เรื่องนี้ใช้เวลาอธิบายกันไปเกือบ 1อาทิตย์ สุดท้ายพ่อสามีต้องมาไกล่เกลี่ยให้ ( พ่อสามีค่อนข้างห่วงเรามาก แกพูดภาษาอังกฤษได้ เราเลยได้คุยหลายๆเรื่องกะท่าน เราก็บอกทุกอย่างไปตรงๆ ว่าเข้าใจแม่นะเขาก็คงเป็นห่วง แต่บางครั้งหนูก็ยอมรับว่าหนูอึดอัด หลายครั้งทะเลาะกะสามีด้วยเรื่องแบบนี้ เราไม่สะบายใจสักเท่าไหร่. เพราะรู้ว่าสามีทำงานเหนื่อยมากไม่อยากให้เครียดเรื่องนี้อีก. พ่อแกก็อาสาจัดการให้ )
ทุกอย่างดูสงบดีจนกระทั้งเมื่อคืน แม่สามีโทรมาว่า อาทิตย์หน้าแกว่าง จะมาเยี่ยมสัก 1 อาทิตย์ แล้วมีแขวะเราอีก นี่โทรมาบอกล่วงหน้าล่ะนะ จัดการบ้านช่องให้สะอาดล่ะ งี้!!!!
ตอนนี้เริ่มไม่มีความสุขในชีวิตล่ะ ปกติรักและเคารพแม่สามีมาก แต่ตอนนี้มันเหนื่อย สับสน เบื่อ ไม่อยากเจอ ไม่อยากคุย ไม่อยากยุ่งเกี่ยว แต่อีกใจหนึ่งก็ห่วงความรู้สึกของสามีเหมือนกันไม่อยากเหวี่ยง ไม่อยากทะเลาะ
พยายามที่จะคิดในแง่ดี แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรอีก ท้อมากมายเลยค่ะตอนนี้ ทำไงดีน้อ. ??????