โรงบาลของรัฐห่วยได้อีกค่ะ ไม่ได้อยากจะวีนแต่หมดความอดทนแล้ว พ่อดิฉันเป็นมะเร็งนะค่ะไม่ใช่ไข้หวัด

วันที่1ก.ย.57พ่อดิฉันมีมีแผลที่กระพุ้งแก้มและคอบวม มีก้อนที่คอทั้ง 2 ข้าง แพทย์โรงบาลอ่างทอง เจาะเลือด เอ็กซ์เรย์ ร่างกาย เจาะเลือดแล้วเจาะเลือดอีก จนได้ข้อสรุปแล้วหมอก้อบอกคนไข้ว่า เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว และได้ส่งตัวไปรักษาที่ศูนย์มะเร็งเลือดมั่ง ที่รพ.สระบุรี

ในวันที่ 6 ก.ย. ซึ่งแพทย์ที่ทำการตรวจรักษาได้ลงความเห็นว่าอาจจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว จึงให้ค้างที่รพ.เพื่อเจาะไขสันหลังดู หลังจากนั้นได้รับยาไฮดรอกซียูเรีย ซึ่งเท่าที่ศึกษาคือยาควบคุมเม็ดเลือดขาวให้อยุ่ในภาวะปกติ หมอนัดฟังผลไขสันหลังอีกที่

วันที่25 ซึ่งดิฉันไปฟังเอง หมอบอกว่าผลไขสันหลังออกมาไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ว่าเป็นลูคีเมียหรือป่าวว และก้อยังไม่ทราบชนิด และจึงตัดประเด็นลูคีเมียออกแล้วสงสัยว่าอาจจะเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งหมอก็ได้เขียนใบส่งตัวไปให้ทางแพทย์ศัลยกรรมตัดชิ้นเนื้อ เราก้อไปที่แพทย์ศัลยกรรม แพทย์บอกว่าไปส่งตัวมารักษาได้แค่เลือดไม่สามารถตัดชิ้นเนื้อได้ (เข้าใจค่ะ) จึงได้กลับมาอ่างทองเพื่อทำเรื่องส่งตัวใหม่ถึงอ่างทองประมาณบ่าย 2-3 แพทย์ไม่อยุ่กันล่ะค่ะไปทำธุรกิจคลีนิกกันหมด จึงต้องไปใหม่ตอนเช้ารีบมาแต่เช้ามืดทำใบส่งตัว ในใบระบุมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค เป็นต้นไปดิฉันให้พ่อรีบไปวันที่1เลยเพราะร้อนใจมากอยากให้ตัดๆไปตรวจซะจะได้รุ้ว่าเป็นอะไรกันแน่

พ่อดิฉันตอนตื่นไปรพ.ตั้งแต่ตี 3 เพราะจากอ่างทองไปสระบุรีไกล ไปถึงก็เป็นที่น่าผิดหวังมาก เพราะหมอดันบอกว่าเหงือกอักเสบต้องไปเอ็กซ์เรย์ฟัน................ ดิฉันบอกตามตรงนะค่ะว่าคุณใช้อะไรคิดว่าเหงือกอักเสบ คุณเป็นหมอรักษาคนไข้คุณไม่อ่านใบส่งตัวเรยหรือค่ะ ว่าประวัติคนไข้เป็นอะไรมาแล้วมารักษาต่อที่นี่ด้วยโรคอะไร ถ้าแค่เหงือกอักเสบคงไม่ต้องแหกตาตื่นตี3 เพื่อไปถึงสระบุรีหรอกค่ะ

1 วันผ่านไปก้อไม่ได้ตัดชิ้นเนื้อโดยอ้างว่า แพทย์ศัลยกรรมไม่เข้าให้มาใหม่พรุ่งนี้ ดิฉันก้อยังใจเย็นคิดว่า พรุ่งนี้คงได้ตัด แต่เป็นที่น่าผิดหวัง น่าก้อน่าสมเพช หมอรพ.นี้ที่สุด เข้าไปห้องแรก หมอปฎิเสธว่าไม่ได้หน้าที่ผม วันนั้นดิฉันไม่ได้ไปด้วยจึงไม่ทราบว่าหมอชื่ออะไร เข้าไปห้องที่ 2 ปฎิเสทอีกว่าไม่ใช่หน้าที่ผมใครส่งมา ห้องที่ 3 ปฎิเสทอีก หน้าขำนะค่ะ ถ้าดิฉันไปด้วยจะถามว่าคุณไม่ใช่หมอเหรอค่ะ คุณปฎิเสทคนไข้แบบนี้ แล้วคุณมาทำงานที่นี่ทำไม ดิฉันเป็นประชาชนที่ต้องเสียภาษีเพื่อให้หน่วยงานของรัฐ ปฎิเสทประชาชนแบบนี้หรือค่ะ แล้วจะจ้างหมอมาเพื่ออะไร กว่าจะเป็นหมอได้ไม่เคยสอบจรรยาบรรณแพทย์เหรอ ค่ะ ทุกวินาทีของคนป่วยคนใกล้ตาย มันมีค่ามากสำหรับคนที่เขารัก ถ้าคนๆนั้นเป็นคุณพ่อคุณแม่คุณบ้างคุณจะทำแบบนี้หรือป่าว. หน่วยงานรัฐ


ไม่ใช่แค่รพ.นะค่ะที่ไม่ได้เรื่องทุกที่เรยค่ะที่เป็นของรัฐคุณแย่เหมือนกันหมด เพราะคุณมองประชาชนที่มาขอใช้บริการเป็นแค่คนมาขอส่วนบุญ แต่เงินเดือนที่คุณได้รับมันคือภาษีประชาชนสำนึกไว้บ้างซิค่ะข้าราชการชุดขาวเปลี่ยนเป็นใส่สีดำเถอะค่ะเพราะคุณใจดำมาก