๑. ทำสัญญาจะซื้อจะขายห้องชุดกับผู้จะซื้อ เพื่อให้ผู้ซื้อใช้เป็นหลักฐานประกอบการขอสินเชื่อกับธนาคาร (ถ้ากู้เงินธนาคารมาจ่ายค่าห้องชุด)
๒. หากผู้จะซื้อดำเนินการขอกู้เงินเพื่อซื้อห้องกับธนาคารผู้ให้กู้เรียบร้อยแล้ว ก็ให้นัดวันดจดทะเบียนนิติกรรมให้พร้อมกันทั้งฝ่าย ผู้จะซื้อ,
ฝ่ายธนาคารของผู้จะซื้อ, จขกท.และฝ่ายธนาคารผู้รับจำนองห้องชุดของ จขกท. ไปสำนักงานที่ดินเพื่อจดทะเบียนนิติกรรมพร้อมกัน
๓. เมื่อถึงวันนัดจดทะเบียน จะยื่นคำขอจดทะเบียนนิติกรรมพร้อมกันทั้งหมดดังนี้
    ๓.๑ จดทะเบียนไถ่ถอนจำนองห้องชุด (ธนาคารผู้รับจำนองของ จขกท.ไถ่ถอนห้องชุดให้กับ จขกท.)
    ๓.๒ จดะทะเบียนขายหัองชุด (จขกท.ขายห้องชุดให้แก่ผู้จะซื้อ)
    ๓.๓ จดทะเบียนจำนองห้องชุด (ผู้จะซื้อจำนองห้องชุดต่อธนาคารผู้รับจำนอง)(ถ้ามี)
    หากผู้จะซื้อซื้อด้วยเงินสด ก็จะยื่นคำขอเพียง ๒ ประเภทตามข้อ ๓.๑ และ ๓.๒ เท่านั้น หากเกิดปัญหากับขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง ทำให้จด
ทะเบียนไม่ได้ก็จะยกเลิกเรื่องจดทะเบียนรายนี้ทั้งหมด ถือว่ายังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนแต่อย่างใด เมื่อจดทะเบียนดังกล่าวข้างต้น
เรียบร้อยแล้ว จะชำระเงินดังนี้ ผู้ซื้อจะจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คให้ จขกท.ฉบับหนึ่งเป็นค่าห้องชุด ส่วนแคชเชียร์เช็คอีกฉบับหนึ่งต้องแจ้งให้ผู้ซื้อหักออกเป็นค่าไถ่ถอนจำนองห้องชุดให้แก่ธนาคารผู้ไถ่ถอนของ จขกท.ต่อไป การแยกเช็คนี้ จขกท.ต้องแจ้งให้ผู้ซื้อแยกแคชเชียร์เช็คให้เสร็จเรียบ
ร้อยก่อนวันนัดไปจดทะเบียนนิติกรรมนะครับ ไม่อย่างนั้น ผู้ซื้ออาจจะทำแคชเชียร์เช็คค่าห้องชุดมาเต็มทั้งจำนวน ซึ่งจะเสียเวลาไปทำแคชเชียร์
เช็คในวันที่จดทะเบียนมาใหม่ หรืออาจต้องให้แคชเชียร์เช็คฉบับนั้นให้แก่ธนาคารผู้ไถ่ถอนของ จขกท.ไปเต็มจำนวน แล้วให้ธนาคาหักแล้วทอน
เป็นเช็คที่เหลือจากการชำระคืนต้นเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยทั้งหมดมาคืนให้ภายหลัง ตรงจุดนี้ต้องควบคุมให้ดีด้วยนะครับ แต่ถ้าหากผู้จะซื้อกู้เงินจาก
ธนาคารคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องแยกเช็ค เพียงแต่ จกทข.แจ้งยอดไถ่ถอนจำนองให้ทางฝ่ายผู้ซื้อไป ผู้ซื้อก็จะแจ้งทางธนาคารฯ ทราบ เพื่อที่
จะแยกเช็คมาจ่ายให้แก่ จขทก.กับทางธนาคารผู้ไถ่ถอน ก่อนวันนัดจดทะเบียนฯ ก็กำชับกับทางผู้ซื้ออีกทีว่าให้ธนาคารฯจัดแยกเช็คตามที่ขอ
มาให้หรือไม่

สำหรับค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนขายห้องชุด มีตามนี้ครับ
๑. ค่าธรรมเนียม ร้อยละ ๒ จากราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด  
๒. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีบุคคลธรรมดาเป็นผู้โอน คำนวณตามราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด ตามอัตราก้าวหน้า
๓. อากร เสีย อากรแสตมป์ใบรับเรียกเก็บในอัตราร้อยละ ๐.๕ คำนวณตามราคา ประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่ผู้ขอแสดง
แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า ก็ให้คิดจากตัวที่สูงกว่า และหาก เสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้วจะได้รับการ ยกเว้นไม่ต้องเสียค่าอากร  
๔. ภาษีธุรกิจเฉพาะ ร้อยละ ๓.๓ (รวมภาษีท้องถิ่น) ตามราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่ผู้ขอแสดง แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า
ก็ให้คิดจากตัวที่สูงกว่า  เว้นแต่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่ไม่ต้องเสีย

ฝ่ายใดจะเป็นออกค่าใช้จ่ายส่วนไหนก็เป็นไปตามสัญญาจะซื้อจะขาย ส่วนค่าตรวจของธนาคารคือตรวจอะไร จะจ่ายอะไรไปก็ขอใบเสร็จ
มาด้วยแล้วกันครับ

สุดท้ายอย่าลืมไปติดต่อกับทางนิติบุคคลอาคารชุดเพื่อชำระค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ค้างชำระ(ถ้ามี) และให้ทางนิติบุคคลอาคารชุดฯ ออกหนังสือ
รับรองภาระหนี้ หรือหนังสือปลอดหนี้ หรือใบปลอดหนี้ ตามแต่จะเรียก เพื่อใช้ประกอบในการจดทะเบียนขายห้องชุดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย
นะครับ ถ้าไม่มีหนังสือที่ว่า เจ้าพนักงานที่ดินจะไม่จดทะบียนขายห้องชุดให้ครับ