ปกติสารเคมีอะไรก็ตาม จะซึมผ่านทางผิวหนังยากนะครับ
การออกฤทธิ์จะให้ผลน้อยกว่าการกิน
ส่วนใหญ่ที่เค้าใส่กันก็เห็นโฆษณาไปแค่นั้นแหละครับ
เช่น สบู่มีส่วนผสม glutathione, vitamin C, vitamin E
เขาบอกแค่ว่าเขาใส่ แต่เขาใส่เท่าไหร่นั้นเขาไม่ได้บอก
ถ้าจะให้มันซึมผ่านผิวหนังได้ ความเข้มข้นสารพวกนี้ต้องสูงมากนะครับ
ซึ่งก็หมายถึงต้นทุนที่สูงขึ้น หรืออาจะทำไม่ได้เลย
เพราะอาจจะเข้าข่ายเป็นยาแทน
และกฎหมายเรื่องยาเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและซับซ้อนกว่ามาก
เพราะต้องมีการตรวจสอบถึงสรรพคุณและคำกล่าวอ้าง
ว่าให้ได้ผลจริงตามที่กล่าวอ้าง หรือมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ผู้ขายสินค้าเหล่านี้บางทีจึงเลี่ยงความเป็นยา
และไปเรียกเป็นอย่างอื่นแทน เช่น อาหารเสริม เครื่องสำอาง แทน

กลับมาที่สบู่ สบู่ไม่มีใครต้องการใส่โซดาไฟลงไปหรอกครับ (NaOH)
จริงอยู่ที่กระบวนการผลิตสบู่อาจจะต้องใช้โซดาไฟ
ปกติถ้ากรรมวิธีการผลิตถูกต้อง NaOH ต้องถูกสะเทินไม่ให้เหลือครับ
เพราะโซดาไฟเป็นสารเคมีอันตรายกับร่างกายครับ
มันสามารถไปเร่งปฏิกิริยาอะไรผมจำไม่ได้ ไม่แน่ใจว่า hydrolysis หรือเปล่า
คือจะไปทำลายโมเลกุลคาร์โบไฮเดรตซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักของผิวหนัง
การที่ผิวลอก นั่นคือ สัญญาณผิดปกติของร่างกายนะครับ
อยู่ดีๆ ผิวมันคงไม่ลอกเองตามธรรมชาติหรอกครับ

ดังนั้นถ้าอยากจะขาว ควบคุมอาหารการกินที่ถูกโภชนาการดีกว่าครับ
อาหารที่มีกลุ่มอนุมูล Vitamin C และ E สูงๆ