*หมายเหตุ* อาจจะมีการสปอยเรื่อยๆ แบบไม่รู้ตัว แต่ถ้าส่วนไหนสปอยชัดเจนจะใส่สปอยไว้นะคะ

จากมุมมองของ
- คนที่อ่านหนังสือชุดนี้แล้ว แต่ยังไม่ครบ (อ่านไป 2 เล่ม อีก 2 เล่มยังดองไว้)
- เห็นกระแสในเน็ตเยอะมากจนเกือบจะขี้เกียจไปดู
- ผู้รีวิวเป็นสาววายนะคะ จริงๆ ไม่อยากออกตัว ไม่ได้พราวด์ทูพรีเซนต์ แต่เห็นคุณผู้ชายหลายมาอ่านรีวิวเราแล้วเงิบหลายทีแล้วค่ะ 55 แต่เรื่องนี้เราไม่รู้สึกวายนะคะ ^^)" ขอความกรุณาไม่แขวะเราเรื่องนี้น้า แค่อยากบอกกล่าวเฉยๆ ค่ะ /กราบ

เมื่อไหร่ / ที่ไหน / เท่าไร
- โรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ รอบ 15.20 วันที่ 04/10/2014
- 240.- (ปวดร้าวกับราคามาก นี่ใช้บัตรลดแล้ว Orz)

หลังดูจบ
- ร้องไห้ 55555555555555555555555555555555555555555555555 อายอ่ะ...นี่ขนาดรู้ตอนจบอยู่แล้วนะ
- เฮ้ย มันดี!
- ชอบเพลงประกอบภาพยนตร์
- เราชอบมินโฮในหนังสือมากกว่าในหนัง T^T แต่ในหนังนางก็มีมุมน่ากินอยู่นะ 55
- คุณนิวท์เท่อ่ะ....ในหนังสือก็ชอบค่ะ แต่ในหนังนี่เขาเท่มาก ดีงาม
- กัลลี่นี่กันคิ้วร้านไหนคะ จะไม่ไป - - ตอนออกจากตู้นาร์เนียนี่มันเกิดผลข้างเคียงเหรอลูก
- หมั่นไส้จมูกทอมมี่มาก ในโปสว่าน่าดีดแล้วนะ ดูแบบเคลื่อนไหวนี่แหม่...พ่อคู๊น ขอดีดที
- ชอบหนังระดับใกล้เคียงกับ The Hunger Games แต่เราชอบ THG ฉบับหนังสือมากกว่า
- ชอบมากกว่า Divergent ทั้งแบบหนังและหนังสือ

ขอแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทนะคะ
1. นักแสดง
2. เนื้อเรื่อง / การดัดแปลง / ตีความ

ขอพูดเรื่องนักแสดงก่อน 55

โดยส่วนตัวเรามองว่านอกจากจะคัดหน้าตานักแสดงมาได้น่ากินมากเวอร์
โดยเฉพาะสามตัวละครหลัก โทมัส มินโฮ นิวท์ (โอเค เทเรซาก็สวย แต่เราไม่ชอบนางตั้งแต่ในหนังสือแล้ว 55)
ก่อนจะไปดูเราเห็นกระแสในเน็ตเยอะเลยแหล่ะ เรื่องจิ้นคู่วาย โทมัสนิวท์ (โอเค มินโฮโทมัสด้วยก็ได้) แล้วก็อีกเรื่องคือ กระแสนักแสดงคือคุณนิวท์
ที่หน้าตาน่ารักและละอ่อนสวนทางอายุจริงมาก ตอนแรกก็แอบตกใจ ฮ่า
ก็แอบคิดนิดนึง ว่าไหงคุณนิวท์ดิฉันเป็นเมียซะละ เพราะตอนอ่านหนังสือนิวท์เป็นคาแรกเตอร์ที่โคตรเท่ แบบมีเสน่ห์ และเท่ไม่แพ้มินโฮเลย
แล้วก็แอบคิดในใจ เดี๋ยวนี้หนัง Bromance มันจะไม่เซอร์วิสไม่ได้แล้วสินะ! ขอจิ้นเองบ้าง ไม่ต้องชี้นำ 5555

แต่พอมาดู...ไม่อ่ะ 555 เราไม่จิ้นอะไรเลย หรือถ้าเอาแบบพยายามสุดๆ เราว่าเป็นนิวท์โทมัสนะ...
ผิดที่หน้าตาและรูปร่างอย่างเดียวเลยค่า....
คาแรคเตอร์และการแสดงของเขาถือว่าดีเลย แบบมีเสน่ห์แบบผู้ชายคนหนึ่งเลย
กลายเป็นว่าเราชอบนิวท์เวอร์ชั่นหนังมากกว่าในหนังสืออีกนะ (เราชอบมินโฮในหนังสือค่ะ
มีเสน่ห์และเป็นผู้ชายที่น่าหลงรักมากเลย รักนาง

ส่วนโทมัส โอเคนางเล่นดีมากสำหรับเราให้คะแนนตอนฉากเถียงกับกัลลี่มาก อีกฉากก็ฉากจบ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่ชัคตาย
นางอิ๊อ๊ะกับเทเรซาน้อยไปนิด แต่ด้วยตัวบทที่ไม่สามารถให้เวลาไปเจ๊าะแจ๊ะกับชะนีน้อยคนสวยได้
เพราะเอาเวลาไปหมกอยู่กับนิวท์และมินโฮซะเยอะเชียว แถมปะทะคารมกับกัลลี่อีก
เอ๊ะ ยังไง? ไม่นะ จะชกกันละ 555

มินโฮ ตอนแรกเราผิดหวังนิดหน่อยกับการแคสมินโฮเป็นคนนี้ นางหล่อน้อยกว่าตอนที่เราอ่านหนังสือไปเยอะ
แต่ทุกคนอวยนางมากจนเรางง 555 แต่เราให้อภัยเสมอ เพราะคนบางคนมีเสน่ห์ตอนเคลื่อนไหว
และค้นพบว่า..ช่วงกลางๆ จนถึงท้ายนางโคตรมีเสน่ห์เลย ฉากแรกๆ เรายังเฉยๆ กับนางอ่ะ ไม่ใช่ตอนที่อยู่ในวงกตคืนแรกกับโทมัสและอัลบีด้วยนะ
แต่ดูไปเรื่อยๆ ก็โอเคอ่ะ นางทำได้ดี

อนึ่ง กลิ่นความเป็นชายและการดิ้นรนเอาตัวรอดในหนังมันฟุ้งมาก จนเราไม่รู้สึกว่ามันจะวายออกได้เลย
ตอนเราดูฉากต้อนรับน้องใหม่ยังคิดอยู่เลยว่านี่มันบรรยากาศโรงเรียนชายล้วนชัดๆ (คิดเอง ไม่เคยอยู่ อนุมานจากการมีเพื่อนชายเป็นฝูง)
แบบเกรียน ระห่ำ เลือดร้อน บลาๆ บอกไม่ถูก เอาเป็นว่ารู้สึกเหมือนกำลังนั่งดูซูซูรันจากดาดฟ้าโรงเรียนข้างๆ 55

ส่วนเทเรซา เค้าแคสได้สวยและแมนมากกว่าที่คิดจนตกใจเลยค่ะ
และคิดว่าเป็นเรื่องดี เพราะหลังๆ แคสตัวละครหญิงได้น่าผิดหวังพอสมควรสำหรับหนังแนววัยรุ่น ฮาา (หรือเป็นมาตลอดนะ)
บทน้อยไปหน่อย ไม่สามารถบอกได้ว่านางเล่นดีหรือยัง รอนางวัดฝีมือภาคสองเลย ถ้าเล่นดีคือของจริงมาก

เอาเป็นเท่านี้ละกันค่ะ สำหรับนักแสดง ตัวละครอื่นๆ ก็ประปราย ชอบ 55
แค่คุ้นหน้าคนที่เล่นเป็นเบนแปลกๆ นึกไม่ออกว่าเคยเห็นจากเรื่องไหน

มาถึงตัวเนื้อเรื่องบ้าง

เรามองว่าตัวหนังทำออกมาแบบที่อาจจะตีความต่างจากหนังสือไปอยู่นะ หรือเป็นที่บทแปลก็ไม่แน่ใจ
ฟังที่นักแสดงพูดกันไม่ทัน ภาษาอังกฤษยังอ่อนด้อยอยู่ค่ะ Orz
ส่วนตัวคิดว่าหนังทำให้หนังกลายเป็นหนังวัยรุ่นก้าวข้ามวัยว้าวุ่นไปเลยอ่ะ ถ้าจะตีความตามสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ปรากฏในหนังนะ
แต่เราขอวิจารณ์ตามแบบที่เข้าใจจากในหนังสือและที่มันยังมาอยู่ในหนังแล้วกันเนาะ

สิ่งที่ปรากฏในหนังและในสายตาคนดู ทำให้เราเกือบจะมองเท่ากับโทมัส
ว่านี่มันอะไร ไม่รู้อะไรเลย และตัวโทมัสเองก็มีแต่ความสงสัยใคร่รู้ที่ไม่มีใครตอบได้ ไอ้ครั้นจะออกไปสืบเสาะตามหาเอง
ก็ดันมีกฎที่ต้องเคารพขึ้นมาขวางเอาไว้เสียอีก จนกระทั่งเขาแหกกฏ

เรามองมุมมองเดียวกับโทมัสในตอนที่ดูว่าชาวทุ่ง (เกลนเนอร์) นี่แม่มน่าหงุดหงิดโคตร
มีแต่เรื่องขัดใจเต็มไปหมด แต่เราก็เข้าใจจากที่หนังสื่อว่า

พวกชาวทุ่งเคยชินกับความสุขสบายตามอัตภาพแล้วและโดนความกลัวต่อกรีฟเวอร์ครอบงำ
ทำไมจะต้องดิ้นรนอะไรไปไหนทำไม (โดยเฉพาะมินโฮและนักวิ่ง (รันเนอร์) ที่รู้มาสักพักแล้วว่าวงกตนี้มันไม่มีทางออก (จากที่พวกเขาเข้าใจ))
และที่รุนแรงเป็นพิเศษอย่างกัลลี่ที่โทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของโทมัสหลังจากที่เขาปรากฏตัว
ยิ่งชาวทุ่งที่โดนกรีฟเวอร์ต่อยแล้วได้ความทรงจำกลับมาอย่างเบนและอัลบียืนยันว่าเขาเป็นต้นเหตุของความเลวร้ายต่างๆ ก็ยิ่งแล้วใหญ่

ความขัดแย้งระหว่างหมู่ชาวทุ่งแตกออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจนในชั่วข้ามคืนที่วงกตไม่ปิดและกรีฟเวอร์โจมตีชาวทุ่ง
แต่นั่นก็ทำให้การเปลี่ยนแปลงจริงๆ จึงมาซึ่งความจริงที่ชวนช็อกสำหรับชาวทุ่งที่ไปกับโทมัส

เราถือว่าเรื่องนี้ค่อนข้างจะแปลกใหม่สำหรับเราและวงการดิสโทเปียยุคใหม่พอสมควร
คือไม่ใช่เรื่องแปลกกับตอนจบที่หักมุมและหักคอเรามากในตอนที่อ่านหนังสือ เพราะมันเคยมีแบบนี้มาก่อน และอาจจะทำได้ดีกว่าด้วย
แต่สำหรับยุคที่นิยายดิสโทเปียเกร่อมากจนน่าเบื่อ เพราะมีทั้งที่ทำได้ดีและทำแล้วแป้ก
การดำเนินเรื่องและตอนจบค่อนข้างจะให้โทนที่แตกต่างพอสมควร

แม้ว่าบางทีถ้าเราฉุกคิดสักหน่อย มันก็เห็นๆ กันอยู่ว่าต้องออกมาอีหรอบนี้แหงๆ แต่เราก็เลือกที่จะเชื่อมัน
เหมือนกับชาวทุ่งแหล่ะ ที่หลงคิดว่าไอ้สิ่งที่เป็นมาตลอดสามปีมันคือของจริง

แต่...หนังค่อนข้างจะทำได้แตกต่างจากหนังสือ "มาก"
ยืนยันอีกครั้งว่ารายละเอียดในหนังสือที่ถูกตัดออกไปจำนวนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนังสือมีน้ำหนักและสมเหตุสมผลกว่าหนังพอสมควร
ทำให้เราคิดเหมือนกันว่าถ้าเราไม่ได้อ่านหนังสือมาเลย เราอาจจะตีความอีกแบบก็ได้
เพราะเรารู้สึกว่าหนังทำได้กระชับดีมากจนดูแล้วสนุก และได้กระแสไปเต็มๆ จนสามารถตีความอีกแบบได้เลยสำหรับ "ตัวหนัง"

แต่เราก็เสียดายรายละเอียดและช่วงเวลาในหนังสือที่ทำให้อะไรๆ มันดูน่าลุ้นและน่าเห็นใจมากกว่านี้เยอะเลย

ขอนิดนึง สปอยแบบกรีดร้องน้ำตาท่วมจอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฉากชัคถูกกัลลี่ยิงโคตรสะเทือนใจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจ
แบบไม่รู้ว่าคนอื่นในโรงเป็นไง แต่เราร้องไห้เลย แบบมันแย่อ่ะ แบบ ช้คคคคคคค
ในหนังสือเขาจะดูน่าเอ็นดูแบบขี้กลัวๆ แบบเบบี๋ ทำให้เราร้องไห้เพราะเขาตายตั้งแต่อายุยังน้อยและอุตส่าห์ออกมาได้แล้วแท้ๆ
แต่กับบทภาพยนตร์ให้เครดิตนักแสดงทุกคนในซีนเลยค่ะ สะเทือนใจมาก
และสงสารมากๆ ตอนที่เขาฝากความหวังทั้งหมดลงไปในตุ๊กตาให้กับโทมัส
ตรงนี้สิค่อยเหมาะกับการที่แปลว่า โลกนี้มันโหด หน่อย
(แม้ว่าภาษาอังกฤษจะคนละเรื่อง)

ถ้าจะไปดู
- ไปดูค่ะ ดี แนะนำ
- ถ้าชอบแนวดิสโทเปีย ก็ไปดูค่ะ
- อย่าเปรียบเทียบกับ THG / BR / Divergent เลยค่ะ เราว่าไม่เหมือนกัน ยกเว้นความเป็นดิสโทเปีย 555

แล้วไงต่อ
- รีบไปอ่านเล่มสามกับสี่อย่างไวเลยค่ะ...
- เก็บตกนักแสดงที่ไม่หน้าใหม่ แต่เราเพิ่งอยากจะตามดูหนังเก่าๆ ของเขาได้เยอะเลย
- รออุดหนุนภาคสองนะคะ ดีใจมากที่กระแสดีและได้รับอนุมัติให้ทำต่อ ♥

บ่น / นอกเรื่อง
- ทำไมถึงแปล WICKED (WKED) is good ว่า โลกมันโหด? นี่เราว่าหนังสือใช้คำแปลกๆ แล้วนะ เจออันนี้เงิบเลย 55
- ตั๋วแพงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง T___T
- Apex ทำร้ายจิตใจมาก... วันศุกร์ยังมีรอบตั้ง 5 รอบ วันเสาร์หดเหลือ 6 รอบ แบบจะกรี๊ด TTT
- ไม่ได้ค่าโฆษณา แต่ชอบแก้วน้ำในชุดป็อปคอร์นของเมเจอร์มากอ่ะ (ดูเมเจอร์ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ควักเงินจ่ายทีครึ่งพัน... /ซีด)
- โฆษณาในเมเจอร์มันน้อยลงรึเปล่าอ่ะ หรือเราคิดไปเอง? แบบก็ยังมีเยอะเหมือนเดิมแหล่ะ แต่ดูมีสัดส่วนตัวอย่างหนังเยอะขึ้นอ่ะ 555
- ไม่ได้ดูหนังนานมากกกกกก เรื่องสุดท้ายรู้สึกจะ HTTYD2 และมีหลังจากคุณแม่มาลีอีกเยอะ แต่ไม่มีเวลามารีวิวเล้ย ตอนนี้จะกลับมาพยายามรีวิวและดูหนังละค่ะ 55

สรุป
สนุก เราชอบกว่าหนังสือนิดหน่อย ไม่นับพวกเรื่องรายละเอียด ที่มีความสมเหตุสมผลมากกว่า
แต่ตีความและทำออกมาได้ดี ตัดทอนรายละเอียดไปเยอะ แต่ว่าไม่รู้สึกแปลกอะไรเท่าไร กระชับดี สำหรับคนที่ดูเท่าที่แค่หนังเสนอ เราชอบ
และแคสติ้งนักแสดงน่ากินมาก ประทับใจค่ะ อยากดูรอบสองเลย
เรื่องนี้ไม่ได้วิจารณ์เนื้อหาเยอะ เพราะมันคนละแบบกับหนังสือ เรากลัวเอามาเขียนแล้วตีกันเอง
เดี๋ยวคนที่ไม่อ่านหนังสือจะงง Orz
คะแนนความชอบ 8.5/10

ขอบคุณทุกท่านที่เขามารีวิว แม้จะมาช้ามากเพราะเพิ่งมีเวลาดู /โค้ง