เอเจนซีส์ – กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) มีการ “ตั้งราคา” ขายตัวประกันสตรีและเด็กสาวชาวยาซิดีเหมือน “สินค้า” ประเภทหนึ่งในเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก รายงานฉบับใหม่จากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผย
รายงานล่าสุดซึ่งจัดทำโดยคณะทำงานสนับสนุนอิรักแห่งสหประชาชาติ (UNAMI) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุว่า “UNAMI และ OHCHR ได้รับรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับการเปิดสำนักงานขายผู้หญิงและเด็กสาวในเขตอัลกุดส์ เมืองโมซุล”
โมซุลเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก ซึ่งเวลานี้พื้นที่ส่วนใหญ่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธไอเอส
“มีการนำตัวผู้หญิงและเด็กสาวมาให้ผู้ซื้อเลือกชมและต่อรองราคาได้ ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่ก็คือวัยรุ่นในชุมชนเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่า กลุ่มไอเอสกำลังขายตัวประกันหญิงชาวยาซิดีให้คนหนุ่มเหล่านั้น เพื่อดึงดูดให้พวกเขาเข้าร่วมเป็นสมาชิก” รายงานฉบับนี้เผย
ชาวยาซิดีเป็นเป็นชนกลุ่มน้อยในอิรักที่ตกเป็นเหยื่อการกวาดล้างของนักรบสุหนี่หัวรุนแรงไอเอส เช่นเดียวกับชาวคริสต์และมุสลิมชีอะห์
“ผู้หญิงบางคนแจ้งให้ UNAMI/ OHCHR ทราบว่า พวกเธอถูกบังคับให้เปลี่ยนไปรับศาสนาอิสลาม และจะต้องแต่งงานกับนักรบไอเอส จากนั้นจะถูกพาไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครทราบ” รายงานว่าด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอิรักระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(3) ระบุ
ข้อมูลส่วนที่ว่าด้วยการล่วงละเมิดสตรีชาวยาซิดีนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายงานฉบับเต็มความยาว 26 หน้ากระดาษ ซึ่งเผยด้วยว่า “การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และการใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างความแตกแยกโดยกลุ่มติดอาวุธ ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตพลเรือนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และบั่นทอนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ตลอดจนหลักนิติธรรมในหลายๆพื้นที่ของอิรัก”
“พฤติกรรมเหล่านี้ ได้แก่ การโจมตีพลเรือนและสาธารณูปโภคต่างๆ การประหาร การลักพาตัว การข่มขืน และการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กในรูปแบบอื่นๆ การบีบบังคับใช้แรงงานเด็ก การทำลายศาสนสถานหรืออาคารที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม การปล้นชิงทรัพย์สิน และการลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน”
UNAMI รายงานเมื่อวันพุธ(2)ว่า เฉพาะปีนี้ปีเดียวคาดว่ามีพลเรือนถูกสังหารในอิรักแล้วไม่ต่ำกว่า 9,000 คน
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงสถานการณ์ในซีเรียซึ่งเป็นสมรภูมิการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มรวมถึงไอเอสด้วย ซึ่งเหตุรุนแรงเหล่านี้ได้สร้างความบอบช้ำแก่พลเรือนซีเรียผู้บริสุทธิ์มานานกว่า 3 ปี
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000114229
UN เผย “ผู้หญิง-เด็กสาว” ชาวยาซิดีถูก "ไอเอส" นำมาติดราคาขายเยี่ยง “สินค้า”
รายงานล่าสุดซึ่งจัดทำโดยคณะทำงานสนับสนุนอิรักแห่งสหประชาชาติ (UNAMI) และสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุว่า “UNAMI และ OHCHR ได้รับรายงานจำนวนมากเกี่ยวกับการเปิดสำนักงานขายผู้หญิงและเด็กสาวในเขตอัลกุดส์ เมืองโมซุล”
โมซุลเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของอิรัก ซึ่งเวลานี้พื้นที่ส่วนใหญ่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของกลุ่มติดอาวุธไอเอส
“มีการนำตัวผู้หญิงและเด็กสาวมาให้ผู้ซื้อเลือกชมและต่อรองราคาได้ ซึ่งผู้ซื้อส่วนใหญ่ก็คือวัยรุ่นในชุมชนเหล่านั้น เห็นได้ชัดว่า กลุ่มไอเอสกำลังขายตัวประกันหญิงชาวยาซิดีให้คนหนุ่มเหล่านั้น เพื่อดึงดูดให้พวกเขาเข้าร่วมเป็นสมาชิก” รายงานฉบับนี้เผย
ชาวยาซิดีเป็นเป็นชนกลุ่มน้อยในอิรักที่ตกเป็นเหยื่อการกวาดล้างของนักรบสุหนี่หัวรุนแรงไอเอส เช่นเดียวกับชาวคริสต์และมุสลิมชีอะห์
“ผู้หญิงบางคนแจ้งให้ UNAMI/ OHCHR ทราบว่า พวกเธอถูกบังคับให้เปลี่ยนไปรับศาสนาอิสลาม และจะต้องแต่งงานกับนักรบไอเอส จากนั้นจะถูกพาไปยังสถานที่ที่ไม่มีใครทราบ” รายงานว่าด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอิรักระหว่างเดือนกรกฎาคม-กันยายน ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา(3) ระบุ
ข้อมูลส่วนที่ว่าด้วยการล่วงละเมิดสตรีชาวยาซิดีนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายงานฉบับเต็มความยาว 26 หน้ากระดาษ ซึ่งเผยด้วยว่า “การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และการใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างความแตกแยกโดยกลุ่มติดอาวุธ ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตพลเรือนมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และบั่นทอนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ตลอดจนหลักนิติธรรมในหลายๆพื้นที่ของอิรัก”
“พฤติกรรมเหล่านี้ ได้แก่ การโจมตีพลเรือนและสาธารณูปโภคต่างๆ การประหาร การลักพาตัว การข่มขืน และการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กในรูปแบบอื่นๆ การบีบบังคับใช้แรงงานเด็ก การทำลายศาสนสถานหรืออาคารที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรม การปล้นชิงทรัพย์สิน และการลิดรอนเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชน”
UNAMI รายงานเมื่อวันพุธ(2)ว่า เฉพาะปีนี้ปีเดียวคาดว่ามีพลเรือนถูกสังหารในอิรักแล้วไม่ต่ำกว่า 9,000 คน
อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้ไม่ได้ครอบคลุมถึงสถานการณ์ในซีเรียซึ่งเป็นสมรภูมิการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มรวมถึงไอเอสด้วย ซึ่งเหตุรุนแรงเหล่านี้ได้สร้างความบอบช้ำแก่พลเรือนซีเรียผู้บริสุทธิ์มานานกว่า 3 ปี
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000114229